สว.เมิน กก.สืบสวนฯชงตั้งแท่น กกต.ใหญ่ ฟัน 229 ราย เซ่นคดีฮั้ว สว.“เกรียงไกร” ลั่นต่างคนต่างทำหน้าที่ ไม่หนักใจไร้กังวล ยังแค่ขั้นที่ 1 มั่นใจความบริสุทธิ์และถูกต้อง “พิสิษฐ์” โวยลากสอบผู้ช่วย สว.คาใจเข้ามาทีหลัง เกี่ยวอะไรด้วย “ภูมิธรรม” ไม่ห่วงข้อหาแทรกแซงตรวจสอบฮั้ว สว. ขอจบไม่พูดต่อโยนกกต.ว่ากันไป “อิทธิพร” แจงไทม์ไลน์รอเลขาธิการกกต.แทงความเห็นใน 60 วัน ก่อนส่งเข้าอนุ กก.วินิจฉัยอีก 90 วัน ถึงชง กกต.ใหญ่ไม่เกิน 90 วัน เลี่ยงตอบฟันเหี้ยน 229 คน ย้ำทำหน้าที่เป็นกลาง ไม่กดดัน ประธาน ป.ป.ช.ชี้คำร้องคลิปฮุน เซน อยู่ขั้นไต่สวนมีกรอบเวลา 2 ปีบวก 1 แต่คดีสำคัญต้องเร็วขึ้น คดี “ทักษิณ” นอนชั้น 14 รพ.ตำรวจ ส่งหลักฐานให้ศาลฎีกาแล้ว ศาลไต่สวนทีมแพทย์ 6 ปาก ซักยิบเวชระเบียน ประวัติการรักษาหลังจากคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ส่วนกลาง ชุดที่ 26 ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คดีฮั้วเลือก สว.มีมติเสนอ กกต.เห็นควรดำเนินคดีต่อผู้ถูกกล่าวหารวม 229 ราย เป็น สว. 138 คน กรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และเครือข่าย 91 ราย ล่าสุด สว.ที่เกี่ยวข้องระบุไม่หนักใจ มั่นใจในความบริสุทธิ์สว.ไม่หนักใจตั้งแท่น กกต.ฟันคดีฮั้วเมื่อวันที่ 18 ก.ค. พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภากล่าวถึงกรณีคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ส่วนกลาง ชุดที่ 26 ของสำนักงานกกต. ส่งสำนวนคดีฮั้วเลือก สว.ให้คณะกรรมการกกต. มี 138 สว.อยู่ในสำนวนถูกแจ้งเอาผิดว่า เป็นการทำตามหน้าที่ของกรรมการสืบสวนและไต่สวน ไม่หนักใจ และไม่กังวลอะไร เพราะยังเป็นแค่ขั้นตอนขั้นที่ 1 สว.มั่นใจในความบริสุทธิ์ ถูกต้องนายอลงกต วรกี สว.กล่าวว่า การที่คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ชุดที่ 26 ส่งเรื่องต่อ กกต.ดำเนินคดีฮั้วเลือก สว. ต่อ 138 สว.ขอให้ว่าไปตามกฎหมาย ถือเป็นสิทธิและหน้าที่ในการดำเนินการของคณะอนุกรรมการชุดดังกล่าว สว.มีหน้าที่รับทราบและเตรียมไปชี้แจงในชั้น กกต. เมื่อถามว่า สว.มีความกังวลต่อการถูกส่งเรื่องเอาผิดหรือไม่ นายอลงกตตอบว่า ไม่ได้มองเป็นเรื่องที่จะกังวลหรือไม่ แต่เป็นสิทธิและหน้าที่ของแต่ละฝ่ายคาใจเรียกสอบผู้ช่วย สว.เกี่ยวอะไรนายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว.กล่าวว่า ขอให้ กกต.ทำหน้าที่ตรวจสอบให้เต็มที่ เมื่อถามว่าการตรวจสอบกรณีคดีฮั้วเลือก สว.เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ระบุว่าเตรียมเรียกผู้ช่วย สว.ไปตรวจสอบ นายพิสิษฐ์ตอบว่า ถ้าเกี่ยวกับการเลือก สว.ทำได้เลย แต่ขอถามว่าเกี่ยวข้องกับการเลือก สว.หรือไม่ กระบวนการตั้งผู้ช่วย สว.เกิดขึ้นหลังเลือก สว. เป็นสิทธิ สว.แต่ละคนพิจารณาแต่งตั้งบุคคลช่วยทำงาน เมื่อถามว่าเป็นการหาเหตุเอาผิดหรือไม่ นายพิสิษฐ์ตอบว่า ต้องไปถาม กกต.ว่าผู้ช่วย สว.เกี่ยวกับการเลือก สว.ที่ผ่านมาอย่างไร ไม่เกี่ยวข้องแน่นอน เป็นคนละกระบวนการกับการเลือก สว.ยืนยันไม่กังวลใดๆ เมื่อถามว่าการตั้งผู้ช่วย สว. ถูกมองต่างตอบแทนหลังคนเหล่านั้นช่วยเลือกให้เข้ามาเป็น สว.นายพิสิษฐ์ตอบว่า ไม่เกี่ยว เป็นการใส่ข้อเท็จจริงที่ไม่ถูกต้องให้ สว. การตั้งผู้ช่วย สว.เป็นกระบวนการหลังได้รับตำแหน่ง สว.แล้ว ไม่เกี่ยวกับกระบวนการเลือก สว.“ภูมิธรรม” ไม่ห่วงมั่นใจไม่ได้ทำผิดเมื่อเวลา 09.40 น. ที่กระทรวงมหาดไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกฯกล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญสั่งยื่นบัญชีพยานเพิ่มเติมใน 15 วัน คดีแทรกแซงการตรวจสอบฮั้วเลือก สว.ว่า ไม่มีปัญหา ให้ฝ่ายกฎหมายดูแล ไม่น่ามีหลักฐานอะไรมาก เกี่ยวข้องเพียงเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) กรณีมติคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนส่วนกลางชุดที่ 26 ที่เห็นควรดำเนินคดีผู้ถูกกล่าวหา 229 คน คดีฮั้ว สว.เดี๋ยวให้ฝ่ายกฎหมายว่ากันไปตามความเป็นจริง ทุกอย่างชี้แจงไปหมดแล้ว ยังไม่รู้เลยว่าข้อกล่าวหามันอยู่ที่ตรงไหน คดีฮั้ว สว.ไม่ได้ดำเนินการอะไร เป็นเรื่อง สว.และดีเอสไอดำเนินการ ว่าไปตามกฎหมาย ให้เป็นดุลพินิจของศาล ไม่กังวลห่วงอะไรทั้งนั้น เพราะไม่ได้ทำอะไร ทำหน้าที่เป็นประธาน กคพ.ขอจบไม่พูดต่อให้ กกต.ว่ากันไปนายภูมิธรรมกล่าวว่า สิ่งที่เกี่ยวข้องคือถูกร้องในฐานะประธาน กคพ.เรียกประชุม ครั้งนั้นมีการเถียงกันเหมาะหรือไม่เหมาะในการทำคดี ความเห็นต่างในที่ประชุมครึ่งต่อครึ่ง ตนเพียงยุติการตัดสินปัญหาวันนั้น ให้แต่ละฝ่ายไปช่วยพิจารณาทบทวนอีกครั้ง ไม่ใช่ยืดเวลา เนื่องจากมีปัญหาที่เรียกร้องกันมาทำให้ส่วนหนึ่งเห็นว่าควรนำไปทบทวนและนำกลับมาพิจารณาใหม่ และจบภายในหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น ดำเนินการตามวาระ ยังสงสัยข้อกล่าวหาที่ว่าไปบงการดีเอสไอทั้งที่เพิ่งเข้ากระทรวงวันแรก คือวันที่เป็นประธานประชุม กคพ. เมื่อถามว่ามติคณะกรรมการ กกต.ชุดที่ 26 จะส่งผลต่อสถานการณ์การเมืองอย่างไร นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่ทราบ กกต.ว่ากันไป มันอยู่ในกระบวนการยุติธรรมแล้ว ขออนุญาตจบ ไม่พูดต่อ ไม่อยากให้แทรกแซงกระบวนการยุติธรรมและข้าราชการชี้นายกฯขอขยายเวลาแจง 15 วันเมื่อถามถึงกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ และ รมว.วัฒนธรรม ยื่นขอขยายเวลาทำคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญกรณีคลิปเสียงคุยสมเด็จฮุน เซน อีก 15 วัน นายภูมิธรรมกล่าวว่าเป็นไปตามกฎหมายให้เวลา 15 วัน ถ้าผู้ถูกกล่าวหาพร้อมชี้แจงได้เลย รวมถึงพยานหลักฐานต่างๆ คนอนุญาตให้ขยายเวลาคือศาลรัฐธรรมนูญ ไม่มีอะไรน่าสงสัย มันจบตามกระบวนการ ไม่มีอะไร รอให้ศาลตัดสิน ยังไม่ได้คุยกับ น.ส.แพทองธารเลย ส่วนกรณีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง ได้หารือกับผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา ได้รับทราบผลที่คุยเห็นในภาพรวมข้อสรุปน่าจะดี แต่ยังไม่จบ มีบางส่วนที่ยังต้องดำเนินการในรายละเอียด ให้นายพิชัยชี้แจงสั่งสอบ สถ.ปมงบกระตุ้น ศก.เมื่อถามถึงงบกระตุ้นเศรษฐกิจที่กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.) ยืนยันไม่มีงบกระจุกพร้อมกระจายหลักเกณฑ์และไม่พบงบฯ 700 ล้านใน อบต.หรือ อบจ.ใน จ.บุรีรัมย์และสุรินทร์ว่า งบกระจุกตัวเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 67-68 ที่ใช้กับท้องถิ่น จ.บุรีรัมย์ บาง อบต.มี 700 กว่าโครงการและได้เงินไปทั้งหมด มีโครงการหนี่งได้เงินไปถึง 700 ล้านบาท จะดำเนินไปตามกระบวนการกฎหมาย เอกสารที่ออกมาเมื่อวันที่ 17 ก.ค.ต้องไปตรวจสอบว่าออกมาได้อย่างไร ต้องให้มาชี้แจง เมื่อถามว่าจะเรียกอธิบดี สถ.มาชี้แจง นายภูมิธรรมตอบว่า ต้องสอบสวนว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะเอกสารนี้ไม่ได้ผ่านมาตามขั้นตอน อยู่ๆถูกเผยแพร่และอยู่ๆ หายไป ขณะที่อธิบดีถูกสั่งให้มีการเปลี่ยนแปลงแต่ยังมีการสั่งการหรือไม่อย่างไร หรือว่ามีรองอธิบดีคนไหนหรือมีผู้อำนวยการคนใดเกี่ยวข้องต้องว่ากันไอเดีย ผวจ.ซีอีโอ มท.ดันเต็มสูบเมื่อถามถึงแนวคิดนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เสนอปรับลดงบฯกองทัพโดยเฉพาะยุทโธปกรณ์ เพราะปัจจุบันเข้าสู่ยุคสงครามไซเบอร์ แม้ขณะนี้มีสถานการณ์ชายแดน นายภูมิธรรมตอบว่า ไม่ทราบและขณะนี้ร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 69 อยู่ในชั้น กมธ.วิสามัญฯต้องถาม กมธ. เมื่อถามย้ำว่าความมั่นคงจะเน้นเทคโนโลยีที่ทันสมัยใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า ขอให้ไปถาม รมว.กลาโหมคนใหม่ หรือรัฐมนตรีที่รักษาการ แต่ในฐานะรองนายกฯฝ่ายความมั่นคงต้องรอรัฐมนตรีเสนอเรื่องขึ้นมา แต่เทคโนโลยีมีความสำคัญ เมื่อใช้เทคโนโลยีดำเนินการต่างๆควรคู่ขนานไปกับการลดกำลังพล เมื่อถาม ถึงนายทักษิณเสนอแนวคิด ผวจ.ซีอีโอ นายภูมิธรรม ตอบว่า ทำอยู่แล้ว ถือเป็นการบริหารงานใหม่และ แก้ไขงานที่มีการประสานงาน ดังนั้นต้องมีเจ้าภาพ“อิ๊งค์” เล็งปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยวไทยเมื่อเวลา 11.40 น. ที่ฝูงเครื่องบิน กองการบิน ศูนย์การเคลื่อนย้ายกองทัพบก (ขส.ทบ.) ดอนเมือง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ และ รมว.วัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์กรณีทำหน้าที่ รมว.วัฒนธรรม 2 สัปดาห์แล้วจะมีผลงานอะไรออกมาให้เห็นเร็วๆนี้หรือไม่ว่า เดี๋ยวมี ระหว่างลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานีได้ไปที่วัดมหาวนาราม พระอารามหลวง ไปดูเทียนพรรษาที่ได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่งประเภทติดพิมพ์ขนาดใหญ่ และสัปดาห์หน้าจะไปลงพื้นที่ที่กระทรวงวัฒนธรรมร่วมทำกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจน่าปรับปรุงเพิ่มเติมต้องทำงานร่วมกัน เมื่อถามว่าการสนับสนุนการถ่ายทำภาพยนตร์ในไทย ภาคเอกชนไทยสนใจอย่างไรบ้าง น.ส.แพทองธารตอบว่า มีให้ความสนใจมากขึ้น มาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ (Cash Reate) ที่เราให้ต่างชาติที่จะคืนเงินหากเข้ามาถ่ายทำในไทย วงการหนังไทยอยากให้มีอย่างนั้นด้วย ตอนนี้พิจารณาอยู่ว่ารายละเอียดจะเป็นอย่างไร และดูว่าจะทำได้กี่เปอร์เซ็นต์ พยายามจะทำให้รัดกุมที่สุด เต็มที่เรื่องนี้ จากนั้น น.ส.แพทองธารเดินออกจากวงสัมภาษณ์ เมื่อถามว่ายังไม่ให้สัมภาษณ์การเมืองใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธารกระเซ้าว่า “นี่คำถามหรืออะไร”ภท.ขยี้นายกฯย้อนเกล็ด “ทักษิณ”วันเดียวกัน เพจพรรคภูมิใจไทย (ภท.)โพสต์ภาพและข้อความของนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรค ภท.กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พาดพิงพรรคที่เพิ่งออกจากรัฐบาลว่าเป็นคนเขมรหรือไม่ว่า เราไม่รู้หรอกว่าผู้นำเขมรมีจริยธรรมหรือไม่ เพราะไม่เคยรู้จัก แต่เรารู้แค่ว่าผู้นำประเทศเรา เรียกเขาว่า “Uncle ท่านอยากได้อะไรก็ให้บอกมา เดี๋ยวจัดการให้”“ไหม” เข้าใจพ่อต้องสปอยลูกอิ๊งค์น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค ปชน. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯบอกปัญหาความวุ่นวายในประเทศที่เกิดขึ้น เพราะคนไทยไม่รักกัน และไปให้ความสำคัญกับเรื่องเฮงซวยว่า ได้ฟังก็ตลกเหมือนกัน ที่ไปบอกว่าเราไปเข้าข้างอีกฝั่งหนึ่ง แต่ถ้าพูดกันตามเนื้อผ้า พ่อต้องรักลูกมากที่สุด เขาต้องเข้าข้างลูกตัวเองมากที่สุดอยู่แล้ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯและ รมว.วัฒนธรรม ควรออกมารับผลของการกระทำที่ทำไปแล้ว น่าเป็นทางออกที่ดีที่สุด ไม่ใช่ชี้นิ้วว่าคนไทยเข้าข้างคนอื่น คณะ กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯที่นายรังสิมันต์ โรม รองหัวหน้าพรรค ปชน.เป็นประธาน จะเชิญน.ส.แพทองธารชี้แจ้งเรื่องคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จ ฮุน เซน ขอให้ น.ส.แพทองธาร ใช้โอกาสอธิบายกับประชาชนว่าได้ทำผิดพลาดไปแล้ว แต่หากไม่มาเข้าใจว่านายรังสิมันต์ จะใช้คำสั่งเรียกให้มาชี้แจง น.ส.แพทองธารต้องชี้แจงว่าทำไมไม่เดินทางเข้ามาชี้แจงต่อ กมธ.ฯได้แต่สวดภาวนาเจรจาภาษีทรัมป์น.ส.ศิริกัญญากล่าวถึงความพยายามเจรจาภาษีสหรัฐฯ ของรัฐบาล ว่า ตนได้ติดตามอยู่ตลอด ตอนนี้ยังไม่ได้เห็นอะไรที่เปลี่ยนแปลง ที่เป็นสาระสำคัญ การลดภาษี 0% จาก 90% ของรายการสินค้าทั้งหมด เป็นสิ่งที่นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง เปิดเผยมาแต่แรกอยู่แล้ว ผลของการเจรจาจึงยังไม่มีใครรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ภายในเดดไลน์ที่จะถึงนี้ ได้แต่ส่งกำลังใจ สวดภาวนา เพราะเราไม่รู้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นได้บ้าง การที่เราต้องดีลหรือเจรจากับประธานาธิบดี แบบ โดนัลด์ ทรัมป์ ยิ่งทำให้คาดเดาอะไรไม่ได้ ไม่ว่าการเจรจาระดับรัฐมนตรี จะเป็นอย่างไร แต่ขึ้นอยู่กับประธา นาธิบดีคนเดียว จะประกาศอะไรออกมา ได้แต่หวังว่าเราจะได้อัตราภาษีที่ยังพอแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้ สินค้าหลักของไทยที่ไม่ได้หนีไปจากเพื่อนบ้านสักเท่าไหร่ แต่ไม่ใช่ว่าจะเป็นอัตราภาษีที่ดี ต้องอย่าลืมว่าการจบที่ 18% ตามที่หลายหน่วยงานคาดการณ์ยังจะทำให้ GDP 2568-2569 ตกต่ำมากอยู่ดีหลังการเจรจารอบสุดท้าย ก่อนที่จะถึง 1 ส.ค.อยากให้รัฐบาล เปลี่ยนโฟกัสมามีสมาธิกับการเยียวยาผลกระทบและการกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปี 2568 ต่อเนื่องไป 2569งบฯปี69หนีไม่พ้นออก พ.ร.บ.เงินกู้น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า เม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจปี 68 ที่อนุมัติไป 1.1 แสนล้านบาท เหลือไม่มากแล้วอีก 4 หมื่นล้านบาท ยังทะเลาะกันไม่จบว่าจะแบ่งให้ใคร ไปในพื้นที่ไหนบ้าง โอกาสที่จะใช้ 4 หมื่นล้านบาทที่เหลือคงน้อยลงเรื่อยๆ เหลือไม่ถึง 2 เดือนจะหมดปีงบฯ น่าเสียดาย แต่ศึกหนักฝนฟ้าคะนอง พายุเศรษฐกิจที่จะโหมกระหน่ำใส่เราในปี 69 จะยิ่งหนักกว่านี้ และเราไม่ได้เตรียมเม็ดเงินไว้เลย ไม่มีกระเป๋าสำรองใดๆทั้งสิ้น มีอย่างมากแค่ 2.5 หมื่นล้านบาทที่อยู่ในงบฯ69 น่ากังวล กมธ.งบฯ ฟากฝ่ายค้านจึงเสนอให้นายพิชัยช่วยชี้แจงในห้องงบฯว่ามีแนวทางและนโยบายอย่างไร เตรียมเม็ดเงินไว้กระตุ้นเศรษฐกิจปี 69 ต้องการให้ กมธ.และอนุ กมธ.ฯตัดลดงบฯหรือไม่ ตัดอย่างต่ำๆต้องอย่างน้อยแสนล้านบาท เพื่อจะเตรียมไว้ในปี 69 อาจหนีไม่พ้นการออก พ.ร.บ.เงินกู้กมธ.งบฯ 69 แหยงทำผิด ม.144เมื่อเวลา 09.00 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 สภาฯ มีนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง รองประธาน กมธ.เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณางบฯของหน่วยงานของรัฐสภา นายจุลพันธ์แจ้งก่อนการประชุมว่า ในส่วนสำนักงานเลขาธิการสภาฯ มี สส.ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญกรณี สส.มีส่วนเสนอแปรญัตติ หรือการกระทำการใดๆ ที่มีส่วนในทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบฯปี 69 และศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาเมื่อวันที่ 17 ก.ค. เพื่อให้โปร่งใสและเพื่อไม่ให้สุ่มเสี่ยงกระทำอาจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญมาตรา 144 จึงขอให้ที่ประชุมพิจารณาปรับลดงบฯของสำนักงานเลขาธิการสภาฯ รายการภายใต้แผนงานยุทธศาสตร์และเสริมสร้างการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ผลผลิต การส่งเสริมการประชาสัมพันธ์เพื่อพัฒนาระบอบประชาธิปไตย และการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน งบเงินอุดหนุน เงินอุดหนุนทั่วไป รวมค่าใช้จ่ายดำเนินงาน 178 ล้านบาทใน 3 รายการ โดยสำนักงบฯมีหนังสือแจ้งมายัง กมธ.จึงขอปรึกษาหารือกับ กมธ.ทุกท่านมติเอกฉันท์ตัด 3 รายการ 178 ล้านด้านนายภัณฑิล น่วมเจิม สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) กมธ.หารือว่า ในฐานะผู้ร้องกังวลหากเราพิจารณาปรับลดงบฯลงจะมีผลต่อการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 1 ส.ค.หรือไม่ ขณะที่นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. กมธ.หารือว่าเพื่อให้เพื่อนสมาชิกที่ร้องศาลรัฐธรรมนูญสบายใจอย่างน้อยให้สำนักกฎหมายช่วยอธิบายยืนยันได้หรือไม่หากปรับลดแล้วจะไม่มีผลต่อสถานะคำร้องที่ศาลรัฐธรรมนูญรับไป ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาฯ ชี้แจงว่า 3 โครงการเกิดจากการแปรญัตติเพิ่มเติมของสำนักงานเลขาธิการสภาฯดำเนินการในงบฯปี 68 คำร้องในปี 68 ศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้รับคำร้อง กรณีปี 69 สำนักงานเลขาธิการสภาฯเสนอไปตามกระบวนการตามปกติต่อเนื่องจากที่เคยได้รับ ที่ร้องว่าสำนักงานฯเสนองบฯทั้ง 3 โครงการฝ่าฝืนมาตรา 144 หรือไม่ เกิดตั้งแต่ตอนที่สำนักงานฯมีคำขอไป ศาลรัฐธรรมนูญแจ้งให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯคนที่ 1 ไปรับคำร้องเพื่อชี้แจง รวมถึงศาลรัฐธรรมนูญได้ขอเอกสารเพิ่มเติม เราได้ส่งไปตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ก่อนศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย แต่ กมธ.ยังถกเถียงกัน ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์จึงขอถอนทั้ง 3 โครงการออกไป แต่นายจุลพันธ์วินิจฉัยว่าขอลงมติจะปรับลดงบฯส่วนนี้หรือไม่ ที่ประชุม กมธ.ลงมติเห็นด้วยให้ปรับลง 45 เสียง ไม่เห็นด้วย 0 งดออกเสียง 2 และไม่ประสงค์ลงคะแนน 1“สุธรรม” ไขก๊อกทิ้ง ปชป.อีกราย วันเดียวกัน น.ต.สุธรรม ระหงษ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และอดีตผู้อำนวยการพรรค ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ปชป. ส่งผลให้ต้องพ้นจากทุกตำแหน่งภายในพรรคโดยอัตโนมัติ สาเหตุจากความเห็นต่างกับคณะผู้บริหารพรรค กรณีการเสนอชื่อบุคคลดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ที่ น.ต.สุธรรมระบุว่าไม่ได้ดำเนินการตามข้อบังคับพรรคอย่างถูกต้อง และเป็นหนึ่งในกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคเสียงข้างน้อยที่คัดค้านการร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทยต่อ และได้ลาออกจากตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ การลาออกของ น.ต.สุธรรม สะท้อนถึงปมขัดแย้งภายในพรรค ปชป. ที่กำลังเผชิญกระแสความไม่พอใจในหมู่สมาชิกและผู้สนับสนุนพรรคต่อทิศทางการบริหารของคณะ กก.บห.ชุดปัจจุบัน ท่ามกลางกระแสการลาออกของสมาชิกอย่างต่อเนื่องป.ป.ช.ใช้เอไอร่วมปราบทุจริตเมื่อเวลา 10.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวเปิดงานสัมมนาสาธารณะหัวข้อยุทธศาสตร์การนำปัญญาประดิษฐ์ AI เสริมสร้างประสิทธิภาพการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในประเทศไทยว่า การทุจริตส่งผลเชิงลบทั้งด้านการประกอบการ ภาพลักษณ์ ชื่อเสียง ความเชื่อมั่น การหยุดชะงักทางธุรกิจ เป็นอุปสรรคการพัฒนาประเทศ ปัจจุบันองค์กรต่างๆหามาตรการป้องกันและปราบปรามเข้มข้น นำเทคโนโลยีมาประยุกต์ เพิ่มประสิทธิภาพ แต่ยังไม่มีเทคโนโลยีควบคุมภายในใดๆที่ตรวจจับการทุจริตได้ทั้งหมด ป.ป.ช.จึงต้องผนวกประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพและศักยภาพมนุษย์เข้าด้วยกัน เพิ่มขีดความสามารถต่อต้านทุจริต ความยุติธรรมอยู่ที่คนเป็นหลัก อย่าให้ AI ตัดสินใจแทนเรา ปัจจุบันการใช้โดรน แผนที่ ภาพถ่ายทางอากาศย้อนหลัง 50-60 ปี เปรียบเทียบหลักฐานทางราชการ ช่วยชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานให้แม่นยำยิ่งขึ้นลุยเร่งสอบนายกฯคลิปฮุน เซนจากนั้นนายสุชาติกล่าวถึงกรณี ป.ป.ช.ตั้งองค์คณะไต่สวน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯผิดจริยธรรมกรณีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาว่า ขั้นตอน ป.ป.ช.หลังรับคำร้องเรียนแล้ว จะรับเรื่องเพื่อตรวจสอบก่อน ถ้ามีมูลจะเสนอเข้าสู่กรรมการชุดใหญ่ ตั้งคณะกรรมการไต่สวน ตอนนี้มาถึงขั้นตอนไต่สวนแล้วมีกรรมการ ป.ป.ช.ทั้งคณะเป็นคณะกรรมการไต่สวน มีตนและนายประภาส คงเอียด กรรมการ ป.ป.ช. รับผิดชอบสำนวนร่วมกัน มีกรอบระยะเวลาไต่สวนตามกฎหมาย 2 ปี บวก 1 ปี แต่มอบนโยบายไปแล้วว่าคดีสำคัญที่ ประชาชนสนใจ ต้องทำให้เร็วยิ่งขึ้น มีกรอบเวลาชัดเจน ไม่ได้หนักใจ ทำงานกับสำนวนมาทั้งชีวิต ไม่มีอะไรต้องหนักใจมีกรอบเวลา 2 ปีสอบคดีชั้น 14เมื่อถามถึงความคืบหน้าคดีการพักรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ นายสุชาติตอบว่าอยู่ในขั้นตอนไต่สวนในความรับผิดชอบของนายเอกวิทย์ วัชชวัลคุ กรรมการ ป.ป.ช. เรื่องนี้ไม่ได้ร้องตัวอดีตนายกฯ แต่ร้องข้าราชการประจำ เรื่องกรอบเวลาจะเสร็จเมื่อใด ต้องถามนายเอกวิทย์เพราะเป็นหัวหน้าคณะไต่สวน ตนไปก้าวล่วงไม่ได้ แต่ถามความคืบหน้าตลอด แต่ต้องอยู่ในกรอบเวลา 2 ปี บวก 1 ปี เมื่อถามว่า ป.ป.ช.ส่งหลักฐานไปให้ศาลฎีกา เพื่อประกอบการไต่สวนการบังคับคดีกับนายทักษิณหรือไม่ นายสุชาติตอบว่าได้ส่งไปแล้วปัดการเมืองถ่วงคดีอดีต 44 สส.นายสุชาติกล่าวว่า ส่วนความคืบหน้าคดีสอบจริยธรรม 44 อดีต สส.พรรคก้าวไกล ผิดจริยธรรมร้ายแรง กรณีเข้าชื่อเสนอแก้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 อยู่ในขั้นตอนให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา นําพยานหลักฐานมาส่ง หากหมดขั้นตอนจะส่งสำนวน ส่วนกรอบเวลาไต่สวนจะใช้เวลาเท่าใดอยู่ที่อดีต 44 สส. เพราะยื่นพยานหลักฐานมาเยอะ และมีพยานบุคคลด้วย ป.ป.ช.ต้องตรวจสอบ หากหลักฐานตรงไหนไม่เกี่ยวข้องจะตัด แต่ให้โอกาสมาชี้แจง ขณะนี้หลักฐานทางผู้กล่าวหาเพียงพอแล้ว เหลือแต่ผู้ถูกกล่าวหาจะแก้ข้อกล่าวหาอย่างไรเมื่อถามว่าได้กำหนดหรือไม่ว่าผู้ถูกกล่าวหาต้องส่งคำชี้แจงภายในเมื่อใด นายสุชาติตอบว่า ป.ป.ช.ให้โอกาสนำพยานหลักฐานเข้ามาเต็มที่อยู่แล้ว จะใช้กรอบเวลาแค่ไหน ต้องดูแต่ละคน เพราะ 44 คน ขอเวลาไม่เหมือนกัน เมื่อถามว่าคดีนี้มีการเมืองมาเกี่ยวข้องหรือไม่ เพราะมีกระแสข่าวสีน้ำเงินพยายามช่วยให้คดีนี้ล่าช้าลง นายสุชาติ ตอบว่า “กับผมไม่มีนะ ผมอยู่ของผมเฉยๆ”บี้ “พีระพันธุ์” แจง ป.ป.ช.ใน 15 วันนายสุชาติยังกล่าวถึงกรณีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและ รมว.พลังงาน ไม่เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาต่อ ป.ป.ช. คดีแจกถุงยังชีพ ขอให้ ป.ป.ช.ส่งคำรับทราบข้อหาทางไปรษณีย์แทนว่า เมื่อวันที่ 15 ก.ค.นายพีระพันธุ์ส่งเรื่องขอเลื่อนเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหา หลังจาก ป.ป.ช.ส่งหนังสือให้นายพีระพันธุ์ทางไปรษณีย์ให้มารับทราบข้อกล่าวหา ถือว่าเจ้าตัวทราบแล้ว ต้องมารับทราบข้อกล่าวหาใน 15 วัน ส่วนที่นายพีระพันธุ์ขอให้ ป.ป.ช.ส่งหนังสือมาให้ทางไปรษณีย์เป็นไปตามระเบียบ เมื่อเจ้าตัวไม่มาทราบข้อกล่าวหา ป.ป.ช.นัดให้นายพีระพันธุ์มาในวันที่ 16 ก.ค. คิดว่าเจ้าตัวคงไม่มาจึงส่งหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาทางไปรษณีย์ตามระเบียบประธาน กกต.แจงไทม์ไลน์คดีฮั้ว สว.ช่วงบ่าย ที่โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีฮั้วเลือก สว.ว่า คณะกรรมการสืบสวนไต่สวน ชุดที่ 26 ทำสำนวนเสร็จแล้วและส่งเรื่องไปยังสำนักงาน กกต.เพื่อพิจารณา วิเคราะห์ศึกษาความเห็นของคณะกรรมการสืบสวนไต่สวนและให้เลขาธิการ กกต.แสดงความเห็น เมื่อเลขาธิการ กกต.มีความเห็นแล้ว จะเสนอไปยังให้คณะอนุกรรมการวินิจฉัยปัญหาหรือข้อโต้แย้ง มีหลายคณะก่อนจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุม กกต. ผลการสืบสวนไต่สวนของคณะต่างๆถือว่าเป็นความลับ ตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้ ในส่วนขั้นตอนเลขาธิการ กกต. จะใช้เวลา 60 วัน เมื่อเข้าสู่คณะอนุกรรมการวินิจฉัยปัญหาและข้อโต้แย้ง จะมีเวลาไม่เกิน 90 วัน หลังจากนั้นเมื่อเข้าสู่ที่ประชุม กกต.ไม่เกิน 90 วันเช่นกันเลี่ยงตอบปมจ่อฟันเหี้ยน 229 คนเมื่อถามถึงกระแสข่าวมีผู้อาจถูกดำเนินคดีมากถึง 229 คน นายอิทธิพรกล่าวว่า ปกติจะให้สำนวนขึ้นมาตามลำดับ ไม่ไปล้วงข้อมูลรายละเอียด ที่เป็นข่าวมีจำนวนไม่น้อย เมื่อถามว่าผู้ถูกร้องมีจำนวนมาก กกต.มีนโยบายในการวินิจฉัยอย่างไร นายอิทธิพรกล่าวว่า ไม่มีนโยบาย เป็นการพิจารณาตามขั้นตอน ไม่สามารถแทรกแซงอะไรได้ทั้งสิ้น เมื่อถามย้ำว่าจำเป็นต้องตั้งคณะอนุวินิจฉัยพิเศษขึ้นมาหรือไม่ นายอิทธิพรกล่าวว่า ที่ผ่านมาไม่เคยทำเช่นนั้น เพราะไม่ได้เป็นไปตามระเบียบ และต้องมีเหตุผลสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ตอนนี้ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะทำแบบนี้ นอกจากจะทำตามระเบียบลั่นปฏิบัติหน้าที่เป็นกลาง ไม่กดดันเมื่อถามว่ามีการมองว่าเรื่องนี้ถูกเร่งดำเนินการเพราะพรรค ภท.ออกจากพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว นายอิทธิพรกล่าวว่า กกต.ปฏิบัติหน้าที่ตามกระบวนการไม่อยู่ภายใต้แรงกดดันอะไรทั้งสิ้น เป็นหน้าที่ของ กกต. คณะกรรมการแต่ละคนต้องธำรงไว้ซึ่งความเป็นกลาง และไม่อยู่ภายใต้อาณัติของพรรคการเมือง เมื่อถามถึงการลดเวลาการไต่สวนสามารถทำได้หรือไม่ นายอิทธิพรกล่าวว่า เรื่องการลดเวลาหากจะทำจะต้องมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เคยมีกรณีที่เกิดขึ้น แต่ที่ผ่านมาปฏิบัติตามระเบียบสืบสวนไต่สวนอย่างเคร่งครัดคำร้องยุบ 6 พรรคยังอยู่ชั้นนายทะเบียนฯนายอิทธิพรกล่าวถึงการยื่นยุบ 6 พรรคกรณีถูกนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ครอบงำว่า ยังอยู่ในการพิจารณาของนายทะเบียนพรรคการเมือง ต้องผ่านอีก 2 ขั้นตอน กรณีเห็นว่าไม่มีมูลต้องยุติเรื่อง แต่หากเห็นว่ามีการกระทำที่ฝ่าฝืนมาตรา 92 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ต้องเสนอเรื่องให้ กกต.พิจารณา ถ้าเห็นด้วยจะส่งเรื่องไปศาลรัฐธรรมนูญ แต่ขณะนี้เรื่องยังอยู่แค่ในระดับนายทะเบียนพรรค ประธาน กกต.จะไม่แทรกแซง แต่มีการถามบ้างว่าไปถึงไหนแล้ว หากพูดไปก่อนอาจสร้างความไขว้เขว ที่ผ่านมาจึงไม่สามารถบอกได้ ขอให้รอเวลาสักนิดหนึ่ง เมื่อถามว่ากรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรค พปชร. มายื่นร้องกรณีคลิปเสียงระหว่างนายกฯกับสมเด็จฮุน เซน นายอิทธิพรกล่าวว่า ไม่มี เรื่องนั้นไม่น่าเกี่ยวข้องกับการฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้ง ถ้าเป็นในกรอบมาตรฐานจริยธรรม จะเป็นหน้าที่ของอีกหน่วยงานหนึ่ง ไม่ใช่ กกต. เมื่อถามย้ำว่าคำร้องนายเรืองไกรจะถูกตีตกใช่หรือไม่ นายอิทธิพรกล่าวว่า หากจะพิจารณากันจะไม่รับ เพราะอะไรที่ไม่ได้อยู่ในกรอบอำนาจของ กกต.จะไม่พิจารณาชี้ “อิ๊งค์” ช่วยหาเสียง ลต.ซ่อมได้นายอิทธิพรกล่าวอีกว่า ส่วนการเตรียมความพร้อมการเลือกตั้งซ่อม เขต 5 จ.ศรีสะเกษว่า มีการเตรียมโครงสร้างการเลือกตั้งไว้เสร็จเป็นที่เรียบร้อย มีผู้สมัครเพียง 2 คน หวังว่าจะมีผู้มาใช้สิทธิการเลือกตั้ง 65% คาดว่าจะรู้ผลเลือกตั้งประมาณ 20.00 น. วันที่ 10 ส.ค. เมื่อถามถึงการเป็นผู้ช่วยหาเสียงของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ และ รมว.วัฒนธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรค พท.ทำได้หรือไม่ ถูกคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ นายอิทธิพรกล่าวว่าผู้ช่วยหาเสียงคือผู้ที่มีอายุเกิน 18 ปีและมีสิทธิเลือกตั้งเป็นผู้ช่วยหาเสียง ไม่เกี่ยวข้องและไม่ใช่ข้อห้ามศาลไต่สวนหมอ รพ.ตำรวจคดีชั้น 14ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เมื่อเวลา 09.00 น. ศาลนัดไต่สวนคดีหมายเลขดำที่ บค.1/2568 เรื่องการบังคับโทษจำคุกนายทักษิณ ชินวัตร จำเลยในคดีหมายเลขแดงที่ อม.4/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม.10/2552 คดีหมายเลขแดงที่ อม.5/2551 เพื่อหาข้อเท็จจริงการบังคับโทษคดีถึงที่สุดกับนายทักษิณเป็นไปตามผลคำพิพากษาของศาลฎีกาหรือไม่ เป็นการไต่สวนพยานนัดที่ 5 ไต่สวนกลุ่มแพทย์ของ รพ.ตำรวจ 6 ปากช่วงเช้าศาลไต่สวนพยาน 3 ปาก เป็นอดีตแพทย์ใหญ่ของ รพ.ตำรวจ แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจคนปัจจุบัน และแพทย์ผู้รักษานายทักษิณที่เข้าเวรวันที่ 23 ส.ค.66 โดยแพทย์ใหญ่และอดีตแพทย์ รพ.ตำรวจเบิกความเกี่ยวกับห้องพักชั้น 14 และการสั่งยารักษาผู้ป่วย แพทย์รักษาให้การเกี่ยวกับการเข้ารับการรักษาของนายทักษิณ ระหว่างรักษาตัวนายทักษิณมีอาการป่วยด้วยโรคอื่น แพทย์แนะนำให้ผ่าตัด แต่นายทักษิณปฏิเสธการผ่าตัด โดยแพทย์ยืนยันว่าให้การรักษาตามจรรยาบรรณของแพทย์ ไม่ทราบเรื่องระเบียบ ข้อบังคับการส่งตัวหรือการส่งกลับผู้ป่วยที่มาจากเรือนจำ ช่วงบ่ายสืบพยานแพทย์อีก 3 ปาก และนัดไต่สวนพยานนัดที่ 6 วันที่ 25 ก.ค.ซักยิบเวชระเบียน ประวัติการรักษานายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวนายทักษิณให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้เป็นการไต่สวนพยานที่ศาลนัดมา ตามรายชื่อเท่าที่ทราบมีการไต่สวนอดีตแพทย์ใหญ่ แพทย์ใหญ่คนปัจจุบันและทีมแพทย์ผู้รักษานายทักษิณ รวมทั้งสิ้น 6 ปาก น่าจะใช้ระยะเวลาพอสมควร เพราะมีรายละเอียดที่ศาลน่าจะให้ความสนใจและอยากทราบ จะมีเอกสาร เกี่ยวข้องเวชระเบียน ประวัติการรักษาของนายทักษิณอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่