Fake News ข่าวปลอม สหรัฐอเมริกาเก็บภาษีไทย 36 เปอร์เซ็นต์อาการหูตาตื่น นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง รีบดับกระแสข่าวลือแทบไม่ทัน ในขณะอยู่บนเครื่องบิน ยืนยันไม่เป็นความจริง ประเทศไทยถูกจัดเก็บ “Reciprocal Tariff” ในอัตรามหาโหดตามจังหวะเพิ่งตีตั๋วกลับบ้าน “มือเปล่า” หอบข้อเสนอยื่นหมูยื่นแมวกับทีมตัวแทนการค้าสหรัฐฯ ที่ยังตอบคำถาม “ยูจะให้อะไรกับสหรัฐฯ” ไม่ถึงอกถึงใจ ถูกตีกลับมาแก้โจทย์การบ้านใหม่ไม่รู้จะทัน “เส้นตาย” ที่เหลืออยู่อีกไม่กี่ชั่วโมงหรือไม่“Trust News” ข่าวจริง สื่อระดับโลกรายงาน “สกอตต์ เบสเซนต์” รัฐมนตรีคลัง สหรัฐฯ ประกาศชัดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ประเทศที่ไม่ได้ทำข้อตกลงภาษีการค้ากับอเมริกา ภายในวันที่ 1 สิงหาคม 2568 นี้จะต้องเผชิญ “Reciprocal Tariff” ภาษีต่างตอบแทนในอัตราเดียวกับที่ผู้นำ “คาวบอย” โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขึ้นกระดานขู่กระตุกขวัญไว้ ตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน ก่อนยืดเวลาให้ 90 วันโฟกัสตรงช่อง “ไทยแลนด์” โดนเน้นๆ 36 เปอร์เซ็นต์“ข่าวจริง” กับ “เฟกนิวส์” เบียดตีคู่กันมาแบบยากที่จะแยกออก ในห้วงนาทีเข้าด้ายเข้าเข็ม ทีมเจรจาภาษีของรัฐบาลไทยต้องกลับมาทำโจทย์การบ้านให้ทัน แข่งกับเวลาที่เหลืออีกแค่ไม่กี่ชั่วโมงก่อนเข้าโซนเส้นตาย “คาวบอยทรัมป์”ที่แน่ๆถ้าข่าวยืนยันสุดท้าย จดหมายคอนเฟิร์มจากทำเนียบขาว กรุงวอชิงตัน ทีม “พระยา พิชัย” ส่งการบ้านไม่ทัน กองเรือส่งออกไทยต้องโดนด่านมะกันรีดภาษีมหาโหดร้อยละ 36 ตัวเลขแซงหน้าประเทศเวียดนาม ที่ปิดจ๊อบกับสหรัฐฯไปแล้วที่ร้อยละ 20 นั่นก็ไม่ต้องพูดถึงฉากการอพยพใหญ่ นักลงทุนจะไหลไปปักหมุด “กู๊ดมอร์นิง เวียดนาม”จีน ญี่ปุ่น อินเดีย ฯลฯ แห่บ๊าย บาย ไทยแลนด์ ย้ายฐานการผลิตหนีภาษีกันกระเจิงณ จุดที่ “The Perfect Storm” พายุสมบูรณ์แบบจะพัดถล่มเศรษฐกิจไทยตามสภาพมือไม้สั่น ทีมงานบริหารแบบลนลาน ทำ “หมูหก” อย่างโครงการที่ควรจะโกยแต้ม “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ฟื้นโปรเจกต์ยอดฮิตที่ผู้คนติดอกติดใจมาตั้งแต่รัฐบาลก่อนกระแส “ขาเที่ยวชาวไทย” ตอบรับทั่วบ้านทั่วเมือง ตั้งหน้าตั้งตารอลงทะเบียนกันดึกๆดื่นๆแต่ทำไปทำมา “ระบบล่ม” เพราะแอปพลิเคชันไม่เสถียรจากที่จะได้คะแนน ฟื้นกระแส กลบเสียงโห่ กลายเป็นเสียฟอร์มหนัก รัฐบาลโดนด่าจมหูไปกันใหญ่ ประชาชนลงทะเบียนไม่ได้ ผู้ประกอบการท่องเที่ยวถอนสมอไม่ร่วมโปรแกรมอาการมือสั่น ลนลานกระแสเสียงด่า แม้แต่งานง่ายๆยังทำ “หมูหก” นั่นก็ไม่ต้องพูดถึงเมกะโปรเจกต์เรือธง โครงการเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ พ่วงบ่อนพนันถูกกฎหมาย ที่ทีมเพื่อไทยกำลังถอนหมุดออกจากสภา เพราะรู้ตัวสถานภาพปัจจุบันไร้พลังฝ่าแรงต้านขืนไม่รีบชักฟืนออกจากกองไฟ โดนหักในสภา เดี๋ยวจะเจ๊งดูไม่จืด“โจทย์ด่วน” สงครามภาษีสหรัฐฯ “โจทย์ยาก” บ่อนกาสิโนถูกกฎหมาย “โจทย์ง่าย” ท่องเที่ยวไทยคนละครึ่ง แทบไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน สภาพการบริหารเชิงเศรษฐกิจของรัฐบาลเพื่อไทยเข็นไม่ออกตกอยู่ในภาวะเครื่องน็อก ควันโขมง เร่งไม่ขึ้น ใกล้พังแหล่ไม่พังแหล่ภาวะ “อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ กลายเป็น “ผู้นำ ติดหล่ม”โดนศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่จากปม “คลิปร้อน” บทสนทนาอ้อน “อังเคิล ฮุน เซน” ประธานวุฒิสภา ผู้นำเบอร์หนึ่งของกัมพูชาลำพังแค่ลุ้น “รอด-ร่วง” มติ “ถอดถอน” ออกจากตำแหน่ง ก็เหนื่อยสาหัสเต็มทีสดๆร้อนๆเพิ่งมีรายงานจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ตามคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน กรณีที่นายสมชาย แสวงการ อดีต สว. และคณะเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.แพทองธารตามประมวลกฎหมายอาญา หมวด 3 ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐ ภายนอกราชอาณาจักร จากพฤติการณ์คลิปเสียงสนทนากับ “ฮุน เซน”โดยเส้นทางบีบเข้าเกมเดิมพัน เล่นกันถึงขั้นต้องลุ้นคุกตะราง สภาพทางการเมืองของทีม “นายใหญ่” ง่อนแง่น โงนเงน เจียนอยู่เจียนพังต้องรับพายุใหญ่ทางเศรษฐกิจ แล้วอะไรมันจะไปเหลือ.ทีมข่าวการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม