บริษัทน้ำมันและก๊าซของกัมพูชา Kampuchea Tela ถูกระบุว่า ภรรยาฮุน เซน เคยถือหุ้นในบริษัทดังกล่าวมีทุนจดทะเบียน 1,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 ล้านเรียล ภรรยาฮุน เซน ถือหุ้น 22% ลูกสาวฮุน เซนอีก 10% ที่เหลือจดทะเบียนในนามบุคคลอื่น มีสถานีบริการน้ำมันกว่า 1,899 สาขา มีร้านสะดวกซื้อมากกว่า 50 แห่ง มีคลังเก็บน้ำมันและก๊าซที่ใหญ่ที่สุดในกัมพูชา ทั้งนี้มีรายงานด้วยว่าผู้ถือหุ้นและโครงการถือหุ้น ของ Kampuchea Tela มีความร่วมมือกับบริษัทน้ำมันจากไทยและเวียดนามด้วยหลังจากที่กัมพูชาประกาศไม่ซื้อน้ำมันจากไทยจะมีผลอย่างไรบ้าง อย่างน้อยเมื่อไม่มีการแข่งขันด้านการตลาดราคาจะแพงขึ้น โดยมีการกำหนดราคาหน้าปั๊มเปลี่ยนแปลงตาม MOPS ทุก 10 วันที่ประกาศโดย กระทรวงพาณิชย์ของกัมพูชา ประกอบกับการไม่ซื้อน้ำมันจากไทยจะทำให้ราคาน้ำมันนำเข้าสูงขึ้น ซึ่งจะต้องนำเข้ามาจาก สิงคโปร์ เวียดนาม มาเลเซีย เมื่อราคานำเข้าสูงรัฐบาลก็สามารถกำหนดค่า Premium ใหม่ตามสูตรราคา MOPS คนที่เดือดร้อนก็คือคนกัมพูชายิ่งถ้ารัฐบาลขึ้นราคาน้ำมัน ผู้ค้าน้ำมันก็จะได้กำไรมากขึ้นจากค่าการตลาดที่อิงกับราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศ ซึ่งรัฐสามารถที่จะกำหนดค่าการตลาดได้ หรือถ้ารัฐบาลกัมพูชาปล่อยให้ราคาน้ำมันเป็นไปตามกลไกตลาด ราคาน้ำมันขายปลีกก็ต้องสูงจากราคาน้ำมันที่นำเข้าสูงอยู่ดี หรือถ้าตรึงราคาน้ำมันเอาไว้ ผู้ค้าน้ำมันก็ต้องแบกรับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ลำบากทั้งขึ้นทั้งล่องวันนี้ความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาน่าจะไปไกลแล้ว ทั้งสงครามจิตวิทยา สงครามการค้า วัดดวงกันวันต่อวัน ยังเหลือแค่ไม่ได้ใช้กำลังรบกันเท่านั้น ซึ่งก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้เหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วเพราะฉะนั้นความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาจึงไม่ใช่แค่ความขัดแย้งเรื่องของเขตแดนระหว่างกัมพูชากับ 7 จังหวัดที่มีพื้นที่ติดต่อกับกัมพูชาเท่านั้น แต่หมายถึง สงครามระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชา ก็ไม่ต่างจากในตะวันออกกลาง หรือยูเครนกับรัสเซีย หรือความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในเมียนมา จากปัญหาการเมืองการปกครองประเทศที่ยังเป็นปัญหาภายในของเมียนมา ไม่ลุกลามเป็นปัญหาระหว่างประเทศ ทั้งที่ไทย เคยอาสาออกหน้าในการไกล่เกลี่ยเจรจาด้วยซ้ำ แต่วันนี้กลายเป็นผู้ขัดแย้งเสียเองไม่ว่าจะเล่นเจ้าล่อเอาเถิดปิด-เปิดด่านชายแดนที่เป็นเรื่องของรัฐกับรัฐ แต่ความเดือดร้อนของประชาชนทั้งสองประเทศ ตัดไม่ตายขายไม่ขาด เมื่อเป้าหมายของกัมพูชาอยู่ที่ศาลโลก เป้าหมายของไทยอยู่ที่คณะกรรมการร่วมเขตแดน ทำสงครามน้ำลายกันเป็นรายวัน ไม่ได้เกิดประโยชน์ใดๆทั้งสองฝ่าย แต่กำลังจะเป็นเชื้อปะทุเข้าทางวิกฤติการเมืองภายในของทั้งสองประเทศ.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.th คลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม