กระแสปรับ ครม.หลังการพิจารณา งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ที่ผ่านวาระแรกไปเรียบร้อยแล้ว แม้ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรจะมีการตั้งคำถามถึงการใช้จ่ายงบประมาณของกระทรวงสำคัญ อาทิ คลัง คมนาคม กลาโหม สาธารณสุข ส่อที่จะเอื้อในการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ ตั้งแต่งบประมาณยังไม่คลอด แต่ปรากฏว่าจุดโฟกัสกลับไปอยู่ที่ผลกระทบจาก การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ในระยะเวลาอันใกล้นี้มากกว่าระหว่าง เพื่อไทยกับภูมิใจไทย ที่ทำ นิติสงคราม กันมาจนโค้งสุดท้าย ตั้งแต่ระดับนโยบายจนถึงการใช้กลไกจากองค์กรของรัฐ องค์กรอิสระ และกระบวนการยุติธรรม เป็นเครื่องมือ ในระยะเวลาอันใกล้นี้ซึ่งจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นก็ได้ นั่นคือ การปรับ ครม. มีข่าวกระเส็นกระสายว่า พรรคเพื่อไทย ต้องการแลกกระทรวงกับ พรรคภูมิใจไทย โดยเฉพาะ กระทรวงมหาดไทย ที่พรรคเพื่อไทยต้องการเอามาดูแลเอง แต่ก็เป็นแค่กระแสรายวันจนกระทั่ง อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ออกมาแสดงความเห็น ชัดเจน เพื่อไทยควรยึดกระทรวงมหาดไทยกับกระทรวงเกษตรฯ มาดูแล ประมาณว่าไม่ค่อยจะมีผลงาน ไม่ต้องไปตีความให้เมื่อยตุ้มอีกต่อไป อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย ยังแบ่งรับ แบ่งสู้ ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ แต่ที่ออกมาพูดชัดเจน ไม่มีกั๊กตามสไตล์ใจถึงพึ่งได้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ที่ได้กำกับดูแลกระทรวงเกษตรฯทั้งก้อน ตอบคำถามสื่อ “ในส่วนของมหาดไทยไม่ทราบ แต่กระทรวงเกษตรฯต้องกล้าธรรม” จบข่าวนิติสงครามกำลังเข้มข้นทุกขณะ คดีฮั้วเลือก สว. เลยขีดความปลอดภัยไปแล้ว ไปจบที่ กระบวนการยุติธรรม จะออกหัวออกก้อยมีอนาคตพรรคการเมืองเป็นเดิมพัน คดีชั้น 14 ที่มีการพนันขันต่อกันว่าวันที่ 13 มิ.ย.นี้ อดีตนายกฯทักษิณ จะเดินทางไปเข้าสู่กระบวนการไต่สวนของ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองด้วยตัวเองหรือไม่ หลังจากปรากฏตัวสยบข่าวหนีออกนอกประเทศแบบเท่ๆ ด้วย 3 ประเด็นร้อน โยกงบ 1.57 แสนล้านที่จะใช้กระตุ้นเศรษฐกิจไปปราบยาเสพติดให้ แนะให้ปรับ ครม.ยึดกระทรวงมหาดไทยคืนจากภูมิใจไทย และระบุถึงเซตหลุดแพทยสภาประณามก่อนมีการลงมติร้อนเข้าไปอีก สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ใช้สิทธิวีโต้ มติแพทยสภา ในการลงโทษแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาตัวชั้น 14 แม้เรื่องนี้จะไปจบที่มติโหวตของแพทยสภาอีกรอบ แต่ไปจุดชนวนการเมืองร้อน คณะแพทย์ ออกแถลงการณ์เพื่อรักษาศักดิ์ศรีของแพทย์และความถูกต้อง ป้องกันการแทรกแซงของฝ่ายการเมืองเคลื่อนไหวถอดถอน รมว.สาธารณสุข และออกมาขับไล่รัฐบาลผสมโรงม้วนเดียวจบในขณะที่ความสัมพันธไมตรีกับประเทศเพื่อนบ้านยังลุ่มๆ ดอนๆ นโยบายด้านเศรษฐกิจ-ต่างประเทศ ไม่ได้รับการตอบรับเกิดปัญหาความขัดแย้งทั้งภายในและภายนอก ถ้าจะใช้คำว่ารัฐล้มเหลว ก็ยังเร็วไปหนทางพิสูจน์ม้า เวลาพิสูจน์คน.หมัดเหล็กคลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม