“แพทองธาร” เข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี ปิดทริปเยือนกัมพูชา เผยหารือ “นายกฯ ฮุน มาเนต” ประสานกรอบความร่วมมืออาเซียน เพิ่มอำนาจต่อรองสู้ภาษี “ทรัมป์” ปลื้มกลุ่มอาเซียนเห็นตรงกัน ต้องผนึกกำลังเจรจา แบบเป็นเพื่อนกัน วินวินทั้งคู่ ไม่ใช่เสียเปรียบจนรับไม่ได้ กลับถึงไทยรูดซิปปากไม่ตอบปมปรับ ครม. “ภูมิธรรม” ชี้การเมืองต้องบริหารความไม่พอใจให้น้อยที่สุด “ไหม” เตือนรัฐบาลดิ้นกู้อีก 5 แสนล้านอย่าให้เหลวซ้ำรอยแจกเงินหมื่น ได้กลิ่นปรับ ครม.ช่วงชี้ขาดคดี 44 สส.ค่าย ปชน. “ดีเอสไอ” รับคดีอั้งยี่ฮั้วเลือก สว.ปี 67 เป็นคดีพิเศษเพิ่ม “ยุทธนา” ชี้ความผิดอาจซ้อนกับ กกต. แต่คนละสำนวน คุ้ยข้อมูลโยงพรรคการเมือง “อนุรักษ์” ลุยสอบพยาน-สาวเส้นเงิน ใช้เอไอวิเคราะห์พฤติกรรมบุคคลและการลงคะแนนน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทพระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ส่งท้ายการเยือนกัมพูชา โดยสรุปสาระสำคัญการหารือกับสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาเนต นายกฯกัมพูชา ประสานกรอบความร่วมมือของอาเซียน เพื่อเพิ่มอำนาจการเจรจาต่อรองกับทางสหรัฐฯนายกฯเข้าเฝ้าฯสมเด็จนโรดมสีหมุนีเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 24 เม.ย.ที่พระที่นั่งเทวาวินิจฉัย พระราชวัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทพระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี (His Majesty Preah Bat Samdech Preah Boromneath NORODOM SIHAMONI) พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ในโอกาสการเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการ โดยนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า ความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างไทยกับกัมพูชา โดยเฉพาะระดับประชาชนเป็นรากฐานของมิตรภาพอันยาวนานระหว่างกัน รัฐบาลไทยให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมปฏิสัมพันธ์ระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศให้ใกล้ชิด ผ่านความร่วมมือเพื่อการพัฒนาในกัมพูชาด้านต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการความร่วมมือตามพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ถือเป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชาให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นชวนผนึกอาเซียนสู้ภาษีสหรัฐฯจากนั้นเวลา 11.30 น. ที่กรุงพนมเปญ น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์ถึงการเยือนกัมพูชาว่า การหารือกับสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาเนต นายกฯกัมพูชา พูดถึงกรณีสหรัฐฯประกาศขึ้นภาษี ประเทศไทยเลือกจะดูเหตุการณ์อย่างใกล้ชิดในทุกมุม 30 วันที่ผ่านมาการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะ คิดว่าสหรัฐฯต้องรอดูเหมือนกันว่าผลตอบรับที่ออกไปทั่วโลกเป็นอย่างไร การเตรียมข้อมูลให้พร้อมที่เราทำอยู่ตอนนี้ ยังอยู่ในทิศทางที่กำหนดไว้ เราได้พูดคุยถึงกรอบความร่วมมือของอาเซียน แต่ละประเทศมีความแข็งแรงอย่างไรบ้าง และถ้ามารวมกันในกรอบของอาเซียนทำอะไรได้บ้าง เพราะจริงๆแต่ละประเทศมีทรัพยากรธรรมชาติไม่เหมือนใคร มีจุดแข็งอีกมาก ถ้ามาร่วมกันแล้วเพิ่มอำนาจการต่อรองจะเป็นไปได้หรือไม่ ยังเป็นเพียงแค่แนวความคิดยังไม่มีการลงนามหรือเซ็นเอกสารใด ทั้งนี้ได้คุยกับผู้นำประเทศอาเซียนมาบ้างแล้วเช่นเดียวกันกับนายกฯกัมพูชา เห็นตรงกันว่าถ้าเราร่วมมือกันในกลุ่มอาเซียน จะเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ จะมีอำนาจต่อรอง เราพร้อมจะร่วมมือกัน หากมีการขึ้นกำแพงภาษีจะรอดไปด้วยกัน เพราะเรามีสิ่งที่มีความเฉพาะของประเทศในกลุ่มอาเซียน เป็นสิ่งที่ทวีปอื่นไม่มีเหมือนอาเซียนย้ำต้องเจรจาแบบเป็นเพื่อนกันน.ส.แพทองธารกล่าวว่า สิ่งนี้จะเป็นสิ่งที่เราต่อรองได้อย่างแข็งแรง เมื่อได้คุยแล้วก็ดีใจที่ประเทศในกลุ่มอาเซียนก็เห็นตรงกันในเรื่องนี้ เพราะการที่เราจะต่อรองจะต้องต่อรองอย่างคนที่จะเจรจาแบบเป็นเพื่อนกัน ต่อรองแบบไม่ต้องเสียเปรียบหรือได้เปรียบในช่องว่างที่ใหญ่จนรับไม่ได้ แต่ต้องต่อรองให้เราและเขาเข้มแข็งเช่นกัน ต้องวินวินทั้งคู่ เป็นสิ่งที่เราเห็นตรงกัน เมื่อถามว่าการที่เรารอจังหวะสังเกตดูท่าทีสหรัฐฯก่อนเจรจาเท่ากับเป็นผลดีต่อไทยใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า คิดว่าเช่นนั้น เพราะสหรัฐฯก็สังเกตและดูท่าทีของรอบโลกเช่นกัน เราจึงต้องดูว่าอะไรเกิดขึ้น และจุดไหนเป็นจุดที่เหมาะที่เราจะต่อรองในรายละเอียด เราจับตาดูอยู่ ยืนยันว่าไม่ต้องห่วง รัฐบาลปรึกษาทางเอกชนด้วย ทั้งผู้ประกอบการที่ลงทุนในสหรัฐฯ อยากรู้ความเคลื่อนไหวว่าจะทำอะไรได้บ้างให้ครบถ้วนเล็งถก ครม.ร่วมกัมพูชากลางปีนี้ด้านนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า ช่วงกลางปีนี้ ผู้นำไทย-กัมพูชา จะเป็นประธานร่วมกันในพิธีเปิดสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชาแห่งแรก ที่บ้านหนองเอี่ยน ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ ตรงข้ามบ้านสตึงบท ต.ปอยเปต จ.บันเตียนเมียนเจย กัมพูชา อย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งจะจัดการประชุมร่วมกันกับนายกฯและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ (Joint Cabinet Retreat: JCR) ที่บริเวณชายแดนไทย จ.สระแก้ว เพี่อติดตามความคืบหน้าการหารือร่วมกันในครั้งนี้ และติดตามความร่วมมือไทย-กัมพูชาทุกประเด็นต่อไปรูดซิปปากไม่ตอบปมปรับ ครม.เมื่อเวลา 15.30 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางกลับจากการเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ทันทีที่มาถึง น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกฯ มารอพบรายงานเรื่องงานในกำกับดูแล รวมถึง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เข้ามารายงานสถานการณ์ความมั่นคงโดยรวม โดยใช้เวลารวมกันประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นนายกฯเดินทางกลับโดยไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายกฯไม่ตอบคำถามเพียงแต่โบกมือ เมื่อถามถึงเรื่องมาตรการรับมือกำแพงภาษีสหรัฐฯ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ให้สัมภาษณ์จากที่กัมพูชามาแล้ว ขณะที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐกล่าวสั้นๆว่า มาคุยเรื่องงาน ไม่มีอะไร“ภูมิธรรม” ย้ำยังไร้สัญญาณปรับ ครม.เมื่อเวลา 08.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ยังไม่มีการพูดคุยกันเลย การตัดสินใจทั้งหมดขึ้นอยู่กับนายกฯ ยังไม่เคยได้ยินเสียงบ่นจากนายกฯ ได้ยินแต่ว่าอยากให้ร่วมมือกัน ท่านเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่ชอบให้การทำตรงนั้นตรงนี้มีวาระขัดกันไปขัดกันมา ท่านไม่อยากเห็น ยังไม่เคยได้ยินเสียงจากท่านเลยว่าจะปรับ สถานการณ์จะปรับหรือไม่ปรับมีปัจจัยหลายอย่างและคนจดปากกาเซ็นคือนายกฯ และวันที่ 22 เม.ย.นายกฯ ตอบชัดเจนว่ายังไม่คิด เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่ สส.พรรคเพื่อไทยเป็นห่วงสินค้าราคาเกษตร เขย่าเก้าอี้รมว.พาณิชย์ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ปัญหา สส.ในพรรค พท.รู้สึกและสะท้อนนายกฯรับฟัง เป็นปัญหาการทำงาน เกิดได้ทุกเรื่องทุกอย่าง เราจะบริหารความพึงพอใจให้มากที่สุดไม่ได้ เพราะความพึงพอใจของคนไม่มีที่สิ้นสุดต้องบริหารความไม่พอใจให้น้อยสุดนายภูมิธรรมกล่าวอีกว่า สิ่งที่เราทำคือบริหารความถูกต้อง และความเหมาะสมให้ได้มากที่สุด ทางการเมืองต้องบริหารความไม่พอใจให้น้อยที่สุด ไม่ได้บริหารความพึงพอใจ เพราะความพึงพอใจ และความต้องการของคนเท่าไหร่ก็ไม่พอ เมื่อถามว่า มองว่าจะมีการปรับ ครม.หลังผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 69 หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า อันนี้เป็นวิธีคิดแบบสูตรเดิมที่ต้องรอให้เรื่องนั้นเรื่องนี้ผ่าน วันนี้เสียงรัฐบาลพออยู่แล้ว เมื่อถามย้ำว่าสูตรใหม่คืออะไร นายภูมิธรรมตอบว่า สูตรใหม่ยังไม่ได้คิด อยู่ที่การมองของผู้นำว่าขณะนี้บรรยากาศการทำงานร่วมกันทำให้บรรลุเป้าหมายหรือไม่ ไม่ใช่อยู่ๆจะปรับ นายกฯคงบอกว่าตรงไหนต้องขันนอต อยู่ที่นายกฯพิจารณายังรัก กห.ชี้ใครพูดไม่สำคัญเท่านายกฯต่อมาเวลา 12.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรมให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงการปรับ ครม.ว่า นายกฯไม่เคยมีสัญญาณ นายกฯเป็นคนตรงไป ตรงมา พูดมาตลอดคือให้ทุกคนทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ไม่อยากเห็นการไม่สามัคคีขัดแข้งขัดขากัน ข่าวปรับ ครม.ที่ออกมาไม่ทราบว่าแหล่งข่าวที่สื่อหรือใครได้รับมาเป็นข่าวมาจากไหน ถ้าดูตอนนี้ยังไม่มีอะไร และคนมีอำนาจตัดสินใจจดปากกาคือนายกฯ ยืนยันหลายครั้งแล้วยังไม่คิดอะไร ใครพูดไม่สำคัญเท่านายกฯ เมื่อบอกไม่คิดจะปรับคนอื่นปรับไม่ได้ ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ให้ทุกคนทำหน้าที่ไปก่อนและยังไม่เคยได้ยินว่าจะได้กลับไปกระทรวงพาณิชย์ ได้ฟังยังงงๆ แต่ว่าพร้อม จะให้ไปทำอะไรที่ไหน และมาที่กระทรวงกลาโหมรักกลาโหม ได้รับการสนับสนุนที่ดี“สุทิน” หัวเราะกระแสคืนถิ่นกลาโหมนายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย (พท.) อดีต รมว.กลาโหม หัวเราะก่อนกล่าวถึงกระแสข่าวที่มีชื่อกลับมานั่งตำแหน่ง รมว.กลาโหมว่า น่าจะเป็นเพียงการคาดการณ์ แต่ตนยังไม่รับการส่งสัญญาณใดๆ เมื่อถามว่า พร้อมหรือไม่หากได้กลับมานั่งตำแหน่งเดิม และสานต่อนโยบายเดิม โดยเฉพาะการจัดซื้อเรือดำน้ำ นายสุทินกล่าวว่า ส่วนตัวพร้อมทำตามนโยบายอยู่แล้ว ตอนนี้ขอรอความชัดเจนจากพรรคและนายกฯก่อน เมื่อถามย้ำว่าต้องรอเซอร์ไพรส์หรือไม่ นายสุทิน หัวเราะก่อนกล่าวว่า ยังไม่มีอะไร“ไหม” เตือนกู้ 5 แสนล้านอย่าเหลวซ้ำเมื่อเวลา 14.00 น. ที่รัฐสภา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีรัฐบาลเตรียมกู้เงิน 5 แสนล้านบาท นำมาสู้กำแพงภาษีสหรัฐฯว่า รัฐบาลน่าจะยังไม่ได้ระบุแหล่งที่มาของเงิน 5 แสนล้านบาท ที่ชัดเจนว่าจะมาจากการกู้หรือไม่ ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเอาร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 69 กลับไปปรับปรุงแก้ไขให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป 5 แสนล้านบาทที่จะกู้แก้ไขปัญหาได้หรือไม่ยากจะบอก เขายังไม่ได้ระบุรายละเอียดอะไรเลยจะใช้ทำอะไร หากเลือกวิธีการกระตุ้นผิด ผลจะไม่เกิด เช่น การแจกเงินหมื่นครั้งแรกที่ใช้เม็ดเงิน 1.45 แสนล้านบาท แต่เราไม่เห็นว่าจะทำให้จีดีพีโตขึ้น ตามที่รัฐบาลเคยให้สัญญาเอาไว้ถ้ามีแผนชัดเจนจะยอมเชียร์ให้กู้เมื่อถามว่า คนไม่ค่อยเห็นด้วยที่จะกู้มาแจก จะเชื่อมือรัฐบาลได้อย่างไรว่าการกู้มาจะมีประสิทธิภาพ น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า เชื่อไม่ได้ เราไม่สามารถจะเชื่อใจรัฐบาลได้เลยว่าหากกู้มา แล้วจะไม่นำมาแจกเหมือนเดิมหรือไม่ กระตุ้นเตือนรัฐบาลก่อนจะคิดกู้เงินใหม่ หรือขยายเพดานหนี้สาธารณะ ช่วยประกาศแผนที่ชัดเจน ก่อนว่ามีความจำเป็นต้องใช้เงินเรื่องใด จะเยียวยาใครบ้างด้วยวิธีการใด จะกระตุ้นการบริโภคหรือการลงทุนและด้วยวิธีการใด เราเชียร์เต็มที่หากรัฐบาลอยากได้งบฯไปใช้ปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ อยากได้แผนเช่นเดียวกันว่ารัฐบาลมีแผนในใจอย่างไร ต้องทำเช่นนี้เท่านั้น เราจึงจะไว้วางใจรัฐบาล ให้กู้เงินเพิ่มหรือขยายเพดานหนี้สาธารณะเชื่อยังไม่คอนเฟิร์มวันเจรจามะกันน.ส.ศิริกัญญากล่าวถึงข่าวการเลื่อนเจรจาภาษีทรัมป์ของรัฐบาลว่า ดูของประเทศไทย ยังสับสนอยู่ตลอดเวลา นายกฯและ รมว.คลังยังพูดขัดกันเอง เมื่อนายกฯพูดอย่าง รมว.คลังพูดอย่างและยังไม่มีการกำหนดแผนที่ชัดเจนออกมา มั่นใจแล้วว่าเอาเข้าจริงแล้วรัฐบาลยังไม่ได้คอนเฟิร์มวันนัดกับสหรัฐฯ และเมื่อนัดไปแล้วแต่เขายังไม่ตอบรับ เมื่อใกล้วันแล้วจึงจำเป็นต้องเลื่อนกำหนดการออกไปจนกว่าสหรัฐฯจะตอบกลับมาอีกครั้ง เมื่อถามว่า มีนักวิชาการประเมินว่าการที่สหรัฐฯไม่ยอมตอบรับ เป็นปัญหาการเมืองของเรา เช่นการส่งตัวชาวอุยกูร์กลับจีน หรือการจับกุมนักวิชาการชาวสหรัฐฯ น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า เป็นไปได้ที่ทำให้สหรัฐฯมีท่าทีกับเราเช่นนี้ คิดว่านี่เป็นหนึ่งในปัจจัยที่สหรัฐฯ ยังไม่เดินหน้าเจรจากับเรา จนกว่าจะได้รับคำอธิบายจากไทยก่อนหยัน รบ.เรตติ้งดิ่ง ยังไม่ยุบสภาเร็วๆนี้น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่าได้แต่ปลอบใจตนเองว่าไม่มีทางเลือกมากนัก แม้จะคิดอยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เช่น ยุบสภา แต่เชื่อว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ คงไม่ประกาศยุบสภาฯ เร็วๆนี้และไม่ทำแน่นอนเพราะระดับความนิยมยังต่ำ และแม้ว่าพรรคร่วมรัฐบาลต้องการให้เปลี่ยนตัวนายกฯ แต่คงไม่เกิดขึ้นง่าย ดังนั้น ทางเลือกมีน้อย จึงจำเป็นต้องพึ่งพารัฐบาลปัจจุบัน ให้แก้ปัญหาให้ได้ พยายามเปิดใจให้กว้าง เปิดทางให้รัฐบาลทำงานได้ และฝ่ายค้านให้ความเห็นที่รัฐบาลสามารถนำไปใช้เพื่อนำประเทศออกจากวิกฤติ โดยจะให้ความร่วมมือเต็มที่ หากอยากได้ความเห็นหรือความร่วมมือในสภา ฝ่ายค้านพร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่ การปรับ ครม. เป็นสิ่งนายกฯตัดสินใจ ปรับดีก็ดี แต่หากปรับแล้วต้องฝึกงาน รอผ่านการทดลองงาน อย่าเพิ่งปรับดีกว่าได้กลิ่นปรับ ครม.ช่วงชี้ขาดคดี 44 สส.เมื่อถามถึงการวิเคราะห์ว่าจะมีการปรับ ครม.ช่วงที่ตัดสินคดีฝ่าฝืนจริยธรรมของ 25 สส. พรรคปชน. หรือคดี 44 สส. น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า ได้ข่าวเช่นกัน รวมถึงการปรับพรรคร่วมรัฐบาลออก หาก สส.พรรค ปชน.ถูกตัดสินให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ จะทำให้สมการและคณิตศาสตร์ทางการเมืองเปลี่ยน ตนเป็น 1 ใน 25 สส.พรรค ไม่น่าจะมีความผิดและไม่หยุดการปฏิบัติหน้าที่ แต่หากเข้าเงื่อนไขอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ถ้า 25 สส.พรรค ปชน.ถูกสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ อาจเป็นไปได้ว่าพรรค ปชน.จะทำงานกับพรรค ภท. แต่ สส.ที่มีคดีมั่นใจความบริสุทธิ์ แต่คดีคาดเดาไม่ได้ แต่ต้องเตรียมพร้อมรับทุกสถานการณ์ ขณะนี้ได้เตรียมเอกสาร พยานและรายละเอียดเพื่อชี้แจงข้อกล่าวหากับ ป.ป.ช.ดีเอสไอรับเพิ่มคดีอั้งยี่ฮั้ว สว.ปี 67อีกเรื่อง เมื่อเวลา 13.30 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม พร้อม พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ท.อนุรักษ์ โรจนนิรันดร์กิจ รองอธิบดีดีเอสไอ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภคและโฆษกดีเอสไอ และ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ร่วมแถลงกรณีดีเอสไอรับคดีอั้งยี่ฮั้ว สว.เป็นคดีพิเศษพ.ต.ต.ยุทธนากล่าวว่า การเลือก สว.มีผู้มาร้องขอให้ดีเอสไอสอบสวนเป็นคดีพิเศษหลายเรื่องไม่ว่าความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดตาม พ.ร.บ.การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และความผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง เมื่อสืบสวนแล้วคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ชี้ขาดให้รับคดีฟอกเงินเป็นคดีพิเศษ ขณะนี้ได้สอบสวนและประสานงาน ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อย่างต่อเนื่อง ทั้งสอบพยาน มีการตั้งเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเป็นอนุกรรมการ รวมถึงตรวจสอบภาพนิ่งภาพเคลื่อนไหว และข้อมูลด้านไอทีต่างๆ อีกทั้งเมื่อวันที่ 23 เม.ย. สภ.รัตนาธิเบศร์ และ สภ.โกสุมพิสัย ได้ส่งเรื่องความผิดอาญาฐานอั้งยี่ที่เขาได้รับเรื่องไว้มายังดีเอสไอ เมื่อพิจารณาแล้วรับเป็นเรื่องต่อเนื่องเกี่ยวพันกับคดีพิเศษฐานฟอกเงินที่รับไว้ เป็นอำนาจตาม พ.ร.บ.คดีพิเศษ มาตรา 21 วรรคสอง ถือว่าเป็นการกระทำความผิดหลายบทหรือเกี่ยวพันกันกับคดีพิเศษ ให้ถือว่าคดีที่เกี่ยวพันกันนั้นเป็นคดีพิเศษด้วย จึงถือว่าขณะนี้ได้รับคดีอั้งยี่เป็นคดีพิเศษแล้ว จะมีการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานในขั้นตอนต่อไปชี้ความผิดซ้อนกับ กกต.แต่คนละสำนวนเมื่อถามว่าหลังจากนี้ดีเอสไอและ กกต.จะยังสอบสวนร่วม หรือแยกกันสอบสวนในแต่ละคดี พ.ต.ต.ยุทธนากล่าวว่า แยกกันสอบ พิสูจน์ความผิดกันคนละกฎหมาย กกต.จะพิสูจน์ความผิดเกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้ง ดีเอสไอจะพิสูจน์ความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงินและอั้งยี่ ความผิดอาจซ้อนกันบ้างแต่คนละสำนวนเมื่อถามว่าได้แจ้งข้อห้าอั้งยี่กับใครแล้วหรือไม่ พ.ต.ต.ยุทธนากล่าวว่า เมื่อวันที่ 23 เม.ย. ยังไม่ได้แจ้งข้อหาอั้งยี่ เพียงแต่รับคดีไว้เท่านั้นที่ สภ.ท้องที่ได้รับคำกล่าวโทษ เนื่องจากมีบุคคลเข้าไปกล่าวโทษในความผิดฐานอั้งยี่ และมีพฤติการณ์ว่าใครเกี่ยวข้องอะไรอย่างไร สภ.ท้องที่ได้พิจารณาแล้ว เห็นว่าเป็นเรื่องเกี่ยวพันกับคดีพิเศษที่ดีเอสไอสอบสวนอยู่เขาจึงส่งเรื่องมา ตนมองว่าเกี่ยวพันกันจึงรับเข้ามาสอบสวน มีบุคคลต้องสงสัยแล้วเป็นจำนวนมากตามข้อมูลโยงพรรคการเมืองเมื่อถามว่าเส้นทางการเงินที่พบในฐานความผิด คดีฟอกเงิน พอจะไปเชื่อมโยงถึงพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องกับการเลือก สว.ได้หรือไม่ พ.ต.ต.ยุทธนากล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ปรากฏ กำลังติดตามข้อมูลอยู่ สถาบันการเงินทยอยส่งข้อมูลสาวเส้นเงินทางโทรศัพท์ใช้เอไอวิเคราะห์พ.ต.ท.อนุรักษ์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ 3 คน ที่ไปร่วมกับ กกต. สืบสวนสอบสวน กกต.ได้มีคำสั่งแต่งตั้งเมื่อวันที่ 19 มี.ค.68 ได้บูรณาการร่วมกันทำงานคู่ขนานไปกับคดีพิเศษของดีเอสไอ มีการส่งต่อข้อมูลและช่วยเหลือสนับสนุนข้อมูลซึ่งกันและกัน ในส่วนของการสอบสวนพยานบุคคลที่มีเกี่ยวข้องทั้งคดีพิเศษและคดีที่เกี่ยวข้องกับ กกต. จะมีการสอบสวน ร่วมไปในคราวเดียวเพื่อไม่ให้พยานเสียเวลา โดยจะมีอัยการเข้าร่วมด้วย ปัจจุบันมีการสอบสวนไปแล้วรวม 30 ปาก การรวบรวมพยานหลักฐานเราจะรวบรวมความเชื่อมโยงทางการเงินทางโทรศัพท์ และจะนำเอไอมาใช้เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมบุคคลที่ได้เข้าไปอยู่ในสถานที่ที่มีการเลือก สว.ระดับประเทศ ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี รวมถึงมีการวิเคราะห์พฤติกรรม ในการลงคะแนน ที่ต้องรอผู้เชี่ยวชาญเข้ามาวิเคราะห์อีกครั้งลุยเมืองทองเช็กกล้องวงจรปิดด้านนายสมบูรณ์กล่าวว่า ในการหาพยาน หลักฐานของดีเอสไอ โดยเฉพาะคดีอั้งยี่จะต้อง ประกอบด้วยพยานบุคคล พยานเอกสาร พยานสถานที่ พยานวัตถุ และพยานวิทยาศาสตร์ ทุกอย่างประกอบกัน เมื่อมีการเลือก สว.ระดับประเทศ ที่เมืองทองธานี ต้องไปดูสถานที่ว่ากล้องวงจรปิดเป็นอย่างไร มีความสัมพันธ์กันอย่างไร ซึ่งเรื่องดังกล่าวพยานหลักฐานกรอบกว้างมาก ระยะเวลาที่ทำมามีเสียงบอกกล่าวกันว่าดีเอสไอรีบเร่งดำเนินการ จริงๆไม่ใช่รีบเร่ง เพราะรับสืบสวนตั้งแต่เดือน ก.ย.67 หลังจากมีผู้มาร้องเรียน เราใช้เวลาสืบสวนจนกระทั่งเมื่อวันที่ 25 ก.พ.68 ผ่านมา 5 เดือนจึงจะเข้าคณะกรรมการ กคพ.ในการประชุมครั้งแรก และวันที่ 6 มี.ค.68 จึงรับเป็นคดีพิเศษ ระยะเวลา 5-6 เดือนดีเอสไอสืบสวนรวบรวมพยานทั้งพยานบุคคล พยานเอกสาร พยานวัตถุไว้พอสมควรทีมสารสนเทศทำแผนที่ฮั้วลงคะแนนด้าน พ.ต.ต.ณฐพลกล่าวว่า ในวันที่ 25 เม.ย เวลา 14.00 น. ทีมแผนที่ภูมิศาสตร์สารสนเทศดีเอสไอ ได้ประสานไปยังเมืองทองธานี เพื่อไปเก็บทำแผนที่ที่เกิดเหตุ ที่มีการเลือก สว.ระดับประเทศทั้งหมด รวมถึงใช้กระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์ในการเก็บแผนที่ ว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง ในวันเลือก สว. โดยจะใช้เครื่องมือพิเศษทั้งหมดในการเก็บข้อมูล“ไพศาล” ปูด 30 เม.ย.ศาลนัดคดี “ทักษิณ”เมื่อเวลา 17.45 น. นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์เฟซบุ๊กกรณีการเข้าพักรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ รพ.ตำรวจชั้น 14 ว่า “ด่วนมากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีนัดเปิดศาลพิจารณาเรื่องที่นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.นครนายก ยื่นคำร้องขอให้ไต่สวนเพื่อนำอดีตนายกฯทักษิณกลับเข้าคุกในวันที่ 30 เมษายนศกนี้เวลาบ่ายโมง แต่รายละเอียด ไม่ทราบแน่ชัด เนื่องจากศาลฯได้มีคำสั่งห้ามนำเรื่องในคดีออกเปิดเผยต่อสาธารณะ เรื่องนี้นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ยอมรับว่า ศาลมีคำสั่งนัดในวันที่ 30 เมษายนศกนี้จริง แต่ไม่ทราบว่านัดเรื่องอะไรอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่