ในที่สุดการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 เพื่อเปิดประตูไปสู่การยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ก็ต้องแช่ตู้เย็นไว้ก่อนชั่วคราว เพื่อรอให้ “ศาลรัฐธรรมนูญ” วินิจฉัยว่าการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญให้มี ส.ส.ร. 200 คน เป็นผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องทำประชามติถามความเห็นประชาชนก่อนเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ที่ประชุมรัฐสภาพิจารณาหรือไม่??ถ้าศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่าต้องทำประชามติให้ประชาชนเห็นชอบเสียก่อนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ของพรรคประชาชน และพรรคเพื่อไทยก็ต้องตกไปเพราะเป็นการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญข้ามขั้นตอน“แม่ลูกจันทร์” มองว่าการรอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไปอีก 6 เดือนน่าจะเป็นทางออกที่ปลอดภัยข้อสำคัญ แม้ไม่รอคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ก็ไม่ผ่านความเห็นชอบอยู่ดี!!เพราะ สว.สายสีนํ้าเงินซึ่งครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาประกาศล่วงหน้าจะไม่โหวตเห็นชอบแน่นอน!!ฉะนั้นการยื่นคำร้องศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย จะทำให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 2 ฉบับยังคาอยู่ในวาระการประชุมรัฐสภาสามารถนำกลับมาพิจารณาใหม่ได้ตลอดเวลา“แม่ลูกจันทร์” มองว่าปัจจัยสำคัญของการเมืองยุคนี้ คือต้อง “อยู่ให้เป็น”พรรคภูมิใจไทยของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล คือพรรคที่เชี่ยวชาญการ “อยู่ให้เป็น” ตัวจริงเสียงจริงการที่พรรคภูมิใจไทย ประกาศไม่ร่วมสังฆกรรมแก้ไขรัฐธรรมนูญในสภาฯคือการโชว์ลีลา “อยู่เป็น” ของพรรคภูมิใจไทยให้เข้าตากรรมการแต่ถ้ามองอย่างลึกซึ้งจะพบว่า พรรคเพื่อไทย “อยู่เป็น” ยิ่งกว่าพรรคภูมิใจไทยเพราะในขณะที่พรรคภูมิใจไทย โดนฝ่ายเรียกร้องประชาธิปไตยถล่มยับเยินแต่พรรคเพื่อไทยเล่นเกม 2 ขา ไม่ให้เปลืองตัวขาหนึ่ง ผลักดันให้รัฐสภาพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ร่วมกับพรรคประชาชนอย่างสุดลิ่มทิ่มประตูอีกขาหนึ่ง ก็ไปลงชื่อยื่นคำร้องศาลรัฐธรรมนูญร่วมกับ สว.สีน้ำเงิน“แม่ลูกจันทร์” ย้ำว่าถ้ามองให้ดีๆพรรคประชาชน ซึ่งเคย “อยู่ไม่เป็น” ก็เรียนวิชา “อยู่เป็น” เช่นกันพรรคประชาชนรู้อยู่แก่ใจว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ไม่มีทางผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภาเพราะ สว.สายสีน้ำเงินเป็นก้างขวางคอแต่พรรคประชาชนต้องการโชว์บทนักประชาธิปไตยให้โลกจำแม้จะรู้ว่าแพ้แน่ๆ แต่พรรคประชาชนก็ลุยสู้สุดซอยหากพี่น้องประชาชนต้องการรัฐธรรมนูญฉบับประชาธิปไตย แทนรัฐธรรมนูญฉบับยัดไส้เผด็จการเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้า ขอให้เลือก สส.พรรคประชาชน เข้าสภาฯ ให้มากกว่าเดิมพรรคประชาชนก็ “อยู่เป็น” เหมือนกันนะโยม."แม่ลูกจันทร์"คลิกอ่านคอลัมน์ “สำนักข่าวหัวเขียว” เพิ่มเติม