สารภาพผมเป็นคน “เอาพวก” ในฐานะที่เป็น บสส.1 รุ่นเดียวกัน ครั้งหนึ่งนานมาแล้วผมตัดใจ ไม่ไปดูละครเพลง “หงส์เหนือมังกร” ที่รัชดาลัยเธียเตอร์ของคุณบอย เลือกไปลงแรง ช่วยงานคุณปุ่ม สารี อ๋องสมหวัง ที่เซ็นจูรี่วันสองวันนี้ คุณสารีในนามสภาผู้บริโภค ก็เหมือนเคย ร่อนการ์ดเชิญขอแรงช่วย...“เซฟ พิรงรอง” ศาสตราจารย์ ด็อกเตอร์ พิรงรอง รามสูต กรรมการ กสทช. ถูกศาลตัดสินจำคุก 2 ปีคนเอาพวกอย่างผม ก็ไม่มีอะไรลังเลแต่ก็มีประเด็นสงสัยคาใจอยู่นิด ตรงข้ออ้างข้างอาจารย์พิรงรอง ที่ว่าทำหน้าที่รักษาประโยชน์ของชาวบ้าน กรณีทัก “ทรู” เอารายการทีวีที่มีข้อห้ามมีโฆษณาไปใส่โฆษณาทำมาหากินก็น่าจะเป็นเหตุผลที่ชอบธรรมถูกต้องเต็มที่ ที่ฝ่ายคนดีๆ ไม่ว่าที่ไหนๆเขาก็ทำกันแต่เหตุไฉน?ศาลท่าน จึงตัดสินเอาโทษคนดี รุนแรงถึงขั้นเอาเข้าคุกสองปี ไม่มีรอลงอาญาคำถามนี้ผมเลือกไม่ถาม “แดง” บัญญัติ คำนูญวัฒน์ เพื่อน คนที่เป็นประธาน บสส.1 เพื่อนใส่เสื้อยี่ห้อซีพีออลหรา ถามไปก็เดาคำตอบได้สู้หาฟังเองดีกว่าความจริงจากด้านศาลที่ผมหาฟังเองได้ความว่า ความผิดตาม ม.157 ที่อาจารย์พิรงรองเจอนั้น มาจากเนื้อหาในจดหมาย ที่ฝ่ายอาจารย์พิรงรองเขียนไปถึงทรู มีประเด็นล้ำเส้นที่ฝ่ายทรูหาว่า “ใส่ร้าย”เรื่องนี้ เกิดขึ้นระหว่างการพิจารณาในศาล มีทั้งพยานบุคคล พยานเอกสารตามกระบวนการ...อาจารย์พิรงรอง ยังอยู่ในขั้นอุทธรณ์ ทั้งยังมีฐานะ เป็นกรรมการ กสทช.ต่อทิ้งประเด็นคาใจให้กองเชียร์ฝ่ายอาจารย์ ออกแรงโหมประโคมโจมตีทุนใหญ่ เล่นเกมปิดปากผู้พิทักษ์รักษาประโยชน์ของประชาชนสำหรับผมก็อย่างที่เกริ่นไว้ เป็นคนเอาพวก...ขอ “เซฟพิรงรอง” ด้วยหนึ่งเสียงดังๆตะโกนออกไปแล้วก็มาฉุกคิด...ถึงฝ่ายทรูนึกถึงเสี่ยกก คุณธนินท์ เจียรวนนท์ นึกถึงก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ซีพีออล คิดถึง คุณแดง บัญญัติ คุณธานี ที่ปีหนึ่งก็กินข้าวด้วยกันหลายมื้อช่วงเวลานี้หุ้นซีพีออลราคาตกไปสี่ห้าบาท แต่ความที่เป็นหุ้นใหญ่ ว่ากันเป็นเงินแสนล้าน กระแสหุ้นซีพีที่เกี่ยวข้องก็หล่นตามเป็นพรวนเหตุผลที่หุ้นตกที่รู้ๆอยู่ในใจคนไม่เหมือนกัน หลายคน มองลึกไปถึงขั้นซีพีเล่นเกมยอกย้อนซับซ้อน ทุบหุ้นตัวเอง ดึงเงินแมงเม่าที่ยังมีศรัทธาหุ้นซีพีเข้ามาเติมหลายคนก็บอกเป็นไปตามกลไกของทุน ขึ้นชื่อว่าพ่อค้ามีช่องตรงไหนก็ต้องหากำไรแต่ราคาหุ้นกลุ่มซีพีที่อยู่ในอารมณ์หมี มีแต่จะดิ่งหัวลงทุกวันๆ ก็ชวนให้คนพวกที่ฝังใจพูดส่งลูกเรียน จบแล้วอย่าไปทำงานซีพี...ได้ทีกระพือซ้ำผมเป็นคนฟังความทุกด้าน เห็นข้อดีของนายทุน แต่เห็นใจลูกจ้างที่ถูกกดขี่ค่าแรง จนโงหัวไม่ขึ้น คุณธนินท์พูดครั้งล่า ค่าแรงขั้นต่ำควรถึง 600 ก็รู้สึกดี เหมือนทุกครั้งที่ฟังคุณธนินท์พูดเมื่อคิดถึงมุมนี้ก็ใจคอไม่ดี...กลัวกระแสเซฟพิรงรองจะมาแรงเป็นพายุใหญ่ ซ้ำเติมกระแสลงของซีพีให้หล่นลงไปจนหยุดไม่อยู่ เศรษฐกิจเมืองไทย ที่ย่ำแย่อยู่แล้วก็ยิ่งจะไปกันใหญ่จะออกปากขอร้องว่า “เซฟซีพี” ก็อาย กลัวพวกจะหาว่า เปลี่ยนข้างไปรับใช้นายทุนที่จริงงานที่ทำ กรอกในรายการอาชีพ ก็เขียนว่า “รับจ้าง” รับเงินทุกเดือนจากนายจ้าง ยังไงๆก็เผื่อหัวใจให้นายทุนอยู่บ้าง ขืนทำงานแบบไม่มีใจ เขาก็ไม่เลี้ยงเอาไว้ให้เปลืองข้าวสุกซีคุณ.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม