การเมืองไทยวันนี้ก้าวหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ก้าวจากนิยายน้ำเน่ากลายเป็นนวนิยายพิศวาสการเมืองเรื่อง “หวานใจ” ของนักการเมือง พาดพิงไปถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ปัจจุบันหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ยืนยันกับนักข่าวเป็นครั้งแรกว่า “ไม่ได้ทำอะไรผิด” หลังจากที่ปล่อยให้เป็นข่าวโด่งดังมาหลายวันแต่นายตำรวจมือปราบอย่าง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้สัมภาษณ์ว่า “อยากทำคดีนี้มาก” เพราะน่าสนใจเส้นเงินที่ตรวจสอบเป็นไปตามที่พูดไว้ คือโยงไปถึงหวานใจนักการเมือง อาจถึงพันล้านบาท จะเป็นอะไร มาจากไหน ยังอธิบายไม่ได้ แต่เรื่องนี้มีข้าราชการทำหมิ่นเหม่ข้อกฎหมายเรื่องหวานใจนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงิน เพราะมีการโอนเงินจากรีสอร์ตไปให้หวานใจหลายครั้ง อันอาจแสดงถึงความพิศวาสที่ล้ำลึก มีหนังสือชี้แจงจาก บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอปอเรชัน ว่าเป็นการโอนเงินเพื่อชำระคืนหุ้นกู้ เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2564 ที่ครบกำหนดชำระคืนเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2566 เป็นเงิน 1,450 ล้านบาทคดีนี้ตำรวจเรียกว่า “คดีรีสอร์ตภูนับดาว” สระบุรี พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เชื่อว่าเป็นการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ นำที่ดินไปออกเอกสารสิทธิและคืนให้ผู้ต้องหาเมื่อพ้นโทษ น่าจะมีสถานะเป็นผู้ครอบครองสิทธิ ที่เรียกว่า “บัตรแข็ง” เป็นการนำที่ดินของรัฐบาลแปลงให้เป็นของผู้เช่า และตั้งเป็นบริษัท เรื่องนี้ ป.ป.ท.มีรายละเอียดในอดีตเมื่อหลายทศวรรษก่อน การทุจริตคอร์รัปชันมักจะแพร่หลายอยู่ในวงข้าราชการ เป็นการสมคบคิดกันระหว่างคน 3 ฝ่าย คือนักการเมือง ข้าราชการและนักธุรกิจ เรียกกันว่า “สามประสานกินเมือง” แต่ขณะนี้การทุจริตแพร่ระบาดไปสู่วงการต่างๆ เช่น วงการทนายความ วงการหมอ หรือแม้แต่วงการพระสงฆ์ก็เล่นด้วยคดีฉ้อโกงประชาชนที่โด่งดังที่สุดในขณะนี้ได้แก่คดี “ดิ ไอคอน” มีผู้ร้องเรียนว่าถูกฉ้อโกงกว่า 8,200 ราย ได้รับความเสียหาย 2.4 พันล้านบาท คณะผู้บริหาร ดิ ไอคอน ที่เรียกกันว่า “บอส” ถูกจับกุมดำเนินคดี 18 คน ในข้อหาฉ้อโกงประชาชนและฟอกเงิน บริษัท ดิ ไอคอน จดทะเบียนเพื่อทำธุรกิจการค้าตรง แต่เป็นเหมือนแชร์ลูกโซ่การค้าตรงเริ่มต้นด้วยการชักชวนลูกค้าให้ร่วมลงทุน เพื่อทำสินค้าขาย เริ่มต้นมีกำไรงาม แต่เริ่มขาดทุนระหว่างปี 2564 ถึง 2565 เคยได้กำไร 813 ล้านบาท แต่ลดฮวบลงเหลือแค่ 19.7 ล้านบาท ในปี 2566 เพราะไม่มีลูกค้าใหม่ๆเข้ามาลงทุน ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้คือความรุ่งเรืองของการทุจริตคอร์รัปชัน แต่เป็นความเสื่อมของประเทศไทย.คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม