นายกฯ “อิ๊งค์” จับเข่าคุยนายกฯสิงคโปร์ กระชับสัมพันธ์ 60 ปีการทูตสองประเทศ จับมือเพิ่มมูลค่าการค้าการลงทุน เสริมแกร่งความมั่นคงด้านอาหารและพลังงาน “ลอว์เรนซ์ หว่อง” ลั่นเร่งเชื่อมโยงทางดิจิทัลในอาเซียน “ประเสริฐ” เชื่อม็อบเอ็มโอยู44 จุดไม่ติด บริบทการเมืองเปลี่ยนไปแล้ว ปลุกคนลงถนนไม่ขึ้น “กมธ.พลังงาน” ถกปมร้อน หนุนตั้งเจทีซีหาทางออก “กมธ.ทหาร” หารือค่ายทหารหงอขาใหญ่บุรีรัมย์ รอง ผบ.มทบ.26 รับที่ดินแปลงที่ 3 ไม่ตรงตามเอกสาร “วิโรจน์” ฮึ่มล่าข้อเท็จจริงโยงตระกูลใหญ่หรือเวทมนตร์คุณไสยบังตา ค่ายทหารย้ายหนีหลีกทางสนามกอล์ฟ จ่อส่งผู้ตรวจการฯ-ป.ป.ช.ฟัน รฟท.-กรมที่ดินละเว้นปฏิบัติหน้าที่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับหารือร่วมกับนายลอว์เรนซ์ หว่อง นายกฯ สาธารณรัฐสิงคโปร์ และภริยา ในโอกาสเยือนประเทศ ไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐบาล เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือน พ.ย. 67 โดยเห็นพ้องเพิ่มความร่วมมือด้านการค้าการลงทุน ความมั่นคงด้านพลังงานและอาหาร เศรษฐกิจดิจิทัลและสีเขียว“นายกฯอิ๊งค์” หารือผู้นำสิงคโปร์เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 28 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ พร้อมนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี ต้อนรับนายลอว์เรนซ์ หว่อง นายกฯ สาธารณรัฐสิงคโปร์ และภริยา ในโอกาสเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐบาลเป็นครั้งแรกนับแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือน พ.ย.67 มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง และ นพ. พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ เข้าร่วม โดย น.ส.แพทองธาร และนายลอว์เรนซ์ ร่วมตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ หน้าสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล แล้วถ่ายภาพร่วมกัน ที่บันไดโถงกลาง ตึกไทยคู่ฟ้า จากนั้นนายกฯ สิงคโปร์และภริยาลงนามในสมุดเยี่ยม ชมของที่ระลึก ที่ห้องสีงาช้าง และหารือข้อราชการเต็มคณะเตรียมเยือนลอดช่องต่อยอดการค้าต่อมาเวลา 11.10 น. ที่ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธารและนายลอว์เรนซ์ เป็นสักขีพยานพิธีลงนามและแลกเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างสำนักงานคณะ กรรมการข้าราชการพลเรือนแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงต่างประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์ ก่อนแถลงข่าวร่วมกัน โดย น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ไทยและสิงคโปร์กำลังเตรียมพร้อมการฉลองครบรอบ 60 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตปีหน้า เป็นโอกาสได้ทบทวนความร่วมมือที่มีอยู่และวางแผนความร่วมมือในอนาคต จะได้เห็นการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงระหว่างกันมากขึ้นในปีหน้า หวังว่าจะได้ต้อนรับประธานาธิบดีสิงคโปร์ที่ประเทศไทย และตั้งใจจะเดินทางไปเยือนสิงคโปร์อย่างเป็นทางการเพื่อสานต่อเรื่องต่างๆที่ได้หารือกัน อาทิ ความมั่นคงและการป้องกันประเทศ การค้าและการลงทุน ความมั่นคงด้านพลังงาน เศรษฐกิจดิจิทัลและสีเขียว ไทยพร้อมร่วมสร้างความมั่นคงทางอาหารให้สิงคโปร์ โดยเฉพาะการส่งออกข้าวคุณภาพและไข่ออร์แกนิก ขอขอบคุณสิงคโปร์ที่มอบทุนการศึกษาให้ข้าราชการไทย ได้หารือแนวทางการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนทางการศึกษายกระดับและสร้างทักษะใหม่ให้แรงงาน และหวังจะเห็นสันติภาพและเสถียรภาพกลับคืนมาในเมียนมา พร้อมหวังว่าการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างประเทศกลุ่มอาเซียนในกรุงเทพฯ จะเป็นโอกาสสำคัญในแนวทางปฏิบัติสำหรับอาเซียนมุ่งเน้นเชื่อมโยงดิจิทัลในอาเซียนด้านนายลอว์เรนซ์กล่าวว่า เป็นเกียรติที่ได้เป็นผู้นำคนแรกที่เยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการหลัง น.ส.แพทองธารเข้ารับตำแหน่ง ยินดีที่ไทยและสิงคโปร์ต่างเห็นพ้องขยายความร่วมมือด้านใหม่ๆ ทั้งเศรษฐกิจสีเขียว ความมั่นคงทางอาหาร เห็นพ้องจะร่วมมือกันเร่งกระชับความเชื่อมโยงทางดิจิทัลในอาเซียน ความร่วมมือด้านพลังงานเพื่อความมั่นคงทางพลังงานในอาเซียน ทั้งสองฝ่ายยังให้ความสำคัญกับความร่วมมือระหว่างประชาชน การลงนามบันทึกความเข้าใจครั้งนี้ จะช่วยกระชับความร่วมมือระหว่างข้าราชการของไทยและสิงคโปร์ และปีหน้าที่ความสัมพันธ์ทั้ง 2 ฝ่ายครบรอบ 60 ปี เป็นอีกก้าวสำคัญจะได้กระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือให้ครอบคลุมมากขึ้นหลากหลายมิติ สิงคโปร์พร้อมร่วมมือกับไทย เดินหน้ายกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างกันไปสู่ในอีกระดับผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการแถลงข่าวร่วมกัน น.ส.แพทองธารนำนายกฯ สิงคโปร์ เยี่ยมชมการจัดแสดงผลิตภัณฑ์หัตถกรรมและหัตถศิลป์ของไทย ที่โถงกลาง ตึกสันติไมตรี จากนั้นเวลา 12.00 น. นายกฯเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกฯ สิงคโปร์และคณะ ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก)จัดน้ำเงี้ยวข้าวซอยรับ ครม.สัญจรน.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) วันที่ 29 พ.ย. ที่ จ.เชียงใหม่ จัดภายใต้ธีม “Form Flood to Flourish การฟื้นคืนสู่ความเฟื่องฟู” จังหวัดเตรียมมอบเสื้อให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯและ ครม.สวมใส่จากผ้าฝ้ายทอมือย้อมสีด้วยครั่ง สีชมพูบานเย็น สีประจำมณฑลพายัพ บนเสื้อปักลายพระราชทาน “ลายสิริวชิราภรณ์” และ “ลายดอกรักราชกัญญา” พร้อมลายหงส์ในโคมเป็นอัตลักษณ์ จ.เชียงใหม่ จากผู้ประกอบการ OTOP 5 ดาวกลุ่มอาชีพผ้าฝ้ายอำพัน อ.ฮอด ขณะที่เมนูอาหารที่จัดเลี้ยง ครม.ประกอบด้วยข้าวซอย น้ำพริกหนุ่ม แคบหมู แกงฮังเล ขนมจีนน้ำเงี้ยว ข้าวต้มหมู ข้าวเงี้ยว ถั่วแปบ ของหวานเป็นทับทิมกรอบ ไอศกรีมอะโวคาโด ของว่าง สาคูไส้หมู สโคนข้าวก่ำ ข้าวเกรียบปากหม้อ ขนมครกและสเพียร์บนแผ่นข้าวกรอบจากร้านอาหารขึ้นชื่อต่างๆท้องถิ่น“ประเสริฐ” เชื่อ “สนธิ” จุดม็อบไม่ติดที่ทำเนียบรัฐบาล นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯและ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตร จะมาทำเนียบฯยื่นหนังสือถึงนายกฯเรื่อง MOU 44 วันที่ 9 ธ.ค.ประกาศพร้อมนำมวลชนลงถนนต่อต้านเรื่องนี้ว่า เป็นมุมมองนายสนธิ มีวิธีอื่นที่จะแก้ไขปัญหาได้ดีกว่านี้ เช่น พูดคุยกัน วันนี้บริบททางการเมืองเปลี่ยนไประดับหนึ่งแล้วไม่เหมือนในอดีต เรื่องนี้เริ่มต้นจากการที่รัฐบาลทำถูกใจบ้างไม่ถูกใจบ้าง จึงอยากให้แลกเปลี่ยนพูดคุยกัน จะเป็นประโยชน์มากกว่า เมื่อถามว่านายสนธิหยิบประเด็นเรื่อง MOU 44 ขึ้นมา เพราะคิดว่าจะปลุกระดมประชาชนขึ้นมาได้ นายประเสริฐกล่าวว่า รัฐบาลยังไม่ได้ทำอะไรเสียหาย ได้ชี้แจงตลอดเวลา นายกฯและรัฐมนตรีหลายท่านเคยให้ข่าวเรื่องนี้ รัฐบาลยังไม่ได้ทำอะไรที่ส่งผลกระทบ ยังไม่ใช่ประเด็นที่จะนำไปสู่การลงถนน ไม่ควรเป็นเหตุจะปลุกม็อบได้ แต่ยอมรับว่าแกนนำพรรค พท.ประเมินตลอดเวลา เพราะการเมืองต้องวางยุทธศาสตร์ จับตาดูสถานการณ์ตลอดกมธ.พลังงานถกปมเอ็มโอยู 44ที่รัฐสภา นายศุภโชติ ไชยสัจ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) รองประธานกรรมาธิการพลังงาน สภาฯ แถลงผลการประชุม กมธ.ที่มีวาระพิจารณาการแบ่งปันผลประโยชน์ด้านพลังงานในพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชาว่า กมธ.เชิญกรมสนธิสัญญา กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กองทัพเรือ และสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม มาให้ข้อมูล กรมสนธิสัญญายืนยันว่า ใช้กรอบเอ็มโอยู44 เป็นหลักในการเจรจา ไทยค่อนข้างมั่นใจข้อมูลที่จะไปเจรจากับกัมพูชา โดยยึดหลักอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ส่วนสัมปทานที่ให้สิทธิเอกชนไปแล้ว ต้องพูดคุยกัน จะเดินหน้าอย่างไร สิ่งที่ กมธ.ไม่อยากให้เกิดขึ้นคือ การยกเลิกสัมปทาน แล้วต้องมาจ่ายค่าชดเชย โดยใช้ภาษีประชาชน ส่วนระยะเวลาการนำทรัพยากรขึ้นมาใช้ประโยชน์ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติชี้แจงว่า ถ้าดูจากกรอบที่เคยทำกับมาเลเซียต้องใช้เวลา 25ปี จึงมีคำถามว่า ทรัพยากรเหล่านี้ยังจำเป็นหรือไม่ เพราะขณะนี้กำลังเดินไปสู่พลังงานสะอาด ได้พูดคุยกันถ้าจะทำให้เร็วกว่านี้ทำอย่างไรได้บ้างหนุนตั้งเจทีซีเจรจาทางออกผู้สื่อข่าวถามว่า กมธ.พลังงาน เห็นด้วยกับการเดินหน้าตั้งคณะกรรมการร่วมทางเทคนิค (เจทีซี) ไทย-กัมพูชา หรือไม่ นายศุภโชติตอบว่า แน่นอน เพราะเป็นเหมือนบันไดขั้นแรกทำให้การเจรจาเกิดขึ้นได้ การเจรจาต้องมีผู้แทน จะต้องคุยทั้งเรื่องเขตแดน อาณาเขตประเทศ ทรัพยากรที่ผ่านมาองค์ประกอบเจทีซีมีผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานค่อนข้างน้อย ควรมีผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานเพิ่มด้วย เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ที่อาจตั้งคนจากฝ่ายการเมืองเข้าไปด้วย นายศุภโชติตอบว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีความพยายามจากฝ่ายการเมืองมาแทรกแซงในเจทีซีแต่อยากให้ยึดผลประโยชน์ประเทศเป็นที่ตั้ง ทำงานเป็นกลางจริงๆ เรื่องนี้จะชัดเจนที่สุดเมื่อได้เห็นรายชื่อเจทีซี รมว.พลังงาน ควรอยู่ในโต๊ะเจรจาเจทีซีด้วย โดยนำ 2 เรื่องคือ ผลประโยชน์และเขตแดน มาคุยพร้อมกันกมธ.แฉสนามกอล์ฟผุดแทนค่ายทหารเมื่อเวลา 13.40 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการทหารสภาฯ มีนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานกรรมาธิการทหาร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากรณีการก่อสร้างค่ายสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกหรือค่ายทหารมณฑลทหารบกที่ 26 (มทบ.26) ที่ไม่ก่อสร้างในพื้นที่ได้รับอนุญาต แต่ไปสร้างอีกพื้นที่ เพื่อหลีกเลี่ยงการก่อสร้างในบริเวณที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ มีตัวแทนการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กรมที่ดิน มณฑลทหารบกที่ 26 และกรมโยธาธิการและผังเมือง เข้าชี้แจง โดยนายวิโรจน์ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมว่า ค่ายสมเด็จเจ้า พระยามหากษัตริย์ศึกไม่ได้สร้างในพื้นที่ได้รับอนุญาต น.ส.ล.4130/2515 จำนวน 400 ไร่ แต่กลับมาสร้างในพื้นที่อีกแปลงที่ห่างออกมา 2 กิโลเมตร เหตุใดค่ายทหารจึงไม่ตั้งในพื้นที่ 400 ไร่ดังกล่าว ปัจจุบันกลับมีสนามกอล์ฟเขากระโดงขึ้นมา ต้องหาข้อเท็จจริงค่ายทหารสร้างถูกที่หรือไม่ ทำไมไม่สร้างที่เขากระโดง เป็นพื้นที่ร้อนหรือมีใครลงอาถรรพณ์ จะเชื่อมโยงคนตระกูลใหญ่ จ.บุรีรัมย์ หรือไม่ อย่าเพิ่งไปกล่าวหาใครมีเจตนาทุจริต ต้องตรวจสอบก่อน ความจริงต้องปรากฏ เวทมนตร์ คุณไสยใดๆที่สร้างหมอกบังตา สร้างแดนสนธยาสู้ความถูกต้องไม่ได้ กมธ.จะหาข้อสรุปให้ได้มากที่สุด หรือต้องได้เบาะแสข้อเท็จจริงบางอย่าง ส่งต่อให้ผู้ตรวจการแผ่นดินและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้จับตากรณีนี้จะมีหน่วยราชการ รัฐวิสาหกิจ ทั้ง รฟท. กรมที่ดิน อาจมีพฤติการณ์เข้าข่ายละเว้นปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ทหารยอมรับที่ดินแปลง 3 ไม่ตรงปกผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุม กมธ. พ.อ. ปิยะวัติ ราชวงศ์ รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 26 ชี้แจงช่วงหนึ่งว่า ที่ตั้ง มทบ.26 ได้รับมาจากการขออนุมัติ 3 ครั้ง แบ่งเป็น 3 แปลงติดกัน เนื่องจากสมัยนั้นเป็นช่วงเกิดสถานการณ์ความไม่สงบ ต้องตั้งค่ายทหารที่ จ.บุรีรัมย์ เป็นหน่วยสนับสนุนชั่วคราวให้จังหวัดทหารบกสุรินทร์ มีการพูดคุยสำรวจร่วมกันมาก่อนหน้านั้นแล้ว พื้นที่แปลงแรกได้รับอนุมัติถูกต้องในไม่กี่วัน ที่ดินแปลงสองขอใช้พื้นที่เพิ่มไปทางด้านหลังของแปลงแรก กองพันเดียวกันจะอยู่คนละพื้นที่ไม่ได้ ส่วนที่ดินแปลงที่ 3 ที่ขออนุมัติยอมรับว่าไม่สอดคล้องกับเอกสารเดิม อาจไม่เข้าใจลึกซึ้งว่าเส้นถูกหรือไม่ อย่างไร เชื่ออย่างนั้น แต่ความจริงเป็นอย่างไรไม่ทราบได้ เพราะคนอนุมัติน่าจะเกษียณไปหมดแล้ว ต้องให้ผู้เกี่ยวข้องชี้แจงให้กรมที่ดินยืนยันเอกสารสำคัญต่อมาเวลา 18.15 น. นายวิโรจน์ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม กมธ.ทหารว่า รอง ผบ.ผทบ.26 นำหลักฐานมาชี้แจงต่อ กมธ.ถึงที่ตั้ง มทบ.26 เอกสารส่วนใหญ่ยืนยันถูกต้องตรงกันว่า ค่าย มทบ.26 ตั้งอยู่ที่ กม.7+700 ถึง กม.9+340 เป็นที่ตั้งปัจจุบันยกเว้นเอกสาร น.ส.ล.เลขที่ 4130/2515 อย่างเดียวที่ยืนยันที่ตั้ง มทบ.26 ไม่ตรงกับที่ตั้งปัจจุบัน แต่เอกสารดังกล่าวมีน้ำหนัก เพราะเป็นเอกสารที่กรมที่ดินเคยยื่นต่อศาลปกครอง กรณีข้อพิพาทที่ประชาชนฟ้อง มทบ.26 ที่ก่อสร้างพื้นที่ทับที่ประชาชน ระบุว่าสถานที่ตั้ง มทบ.26 ให้ยึดตามเอกสาร น.ส.ล.เลขที่ 4130/2515 เท่ากับว่า เอกสารราชการฉบับนี้ขัดแย้งกับเอกสารทะเบียนที่ดินที่ มทบ.26 นำมาชี้แจงต่อ กมธ. โดย รอง ผบ.มทบ.26 ตอบไม่ได้ว่าทำไมเอกสารฉบับนี้ จึงระบุตำแหน่งที่ตั้ง มทบ.26 คลาดเคลื่อนกับเอกสารฉบับอื่นๆ ดังนั้นเพื่อให้ได้คำตอบชัดเจนยิ่งขึ้น กมธ.จะทำหนังสือสอบถามกรมที่ดิน ให้ยืนยันความชัดเจนของเอกสาร น.ส.ล. 4130/2515 ว่าเหตุใดจึงยื่นเอกสารฉบับนี้ต่อศาลปกครอง“ทักษิณ” ไปต่ออุบลฯ-เชียงใหม่ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ภายหลังลงพื้นที่ช่วยนายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครนายก อบจ.อุดรธานี ในนามพรรคเพื่อไทย (พท.) หาเสียงและชนะการเลือกตั้ง ล่าสุดนายทักษิณจะเดินทางไป จ.อุบลราชธานี วันที่ 11 ธ.ค. พบปะเยี่ยมเยียนแกนนำเขตเลือกตั้งระดับท้องถิ่น จ.อุบลราชธานี ที่บ้านนายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ สส.อุบลราชธานี เขต 1 พรรค พท. ช่วยนายกานต์ กัลป์ตินันท์ อดีตนายก อบจ.อุบลฯที่ 1 ลงเลือกตั้งอีกสมัยในวันที่ 22 ธ.ค. โดยยังไม่ขึ้นเวทีปราศรัย วันที่ 23 ธ.ค. นายทักษิณลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ช่วยผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่ ของพรรค พท.หาเสียง และก่อนสิ้นเดือน ธ.ค. นายทักษิณมีคิวจะลงพื้นที่ช่วยหาเสียงให้ผู้สมัครนายก อบจ.ศรีสะเกษ พรรค พท.พท.ลุยกระชับพื้นที่เก่าหัวเมืองใหญ่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า จากนี้พรรค พท.จะส่งผู้สมัครสนาม อบจ.ที่อุบลราชธานี จะเลือกตั้งช่วงปลายเดือน ธ.ค. ส่วนสนามนายก อบจ. เชียงใหม่ส่งเช่นกัน เพราะเป็นพื้นที่เก่าของพรรค เมื่อถามว่า ที่ จ.เชียงใหม่ การเลือกตั้ง สส.พ่ายพรรคประชาชน (ปชน.) สนามเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งนี้มั่นใจหรือไม่ว่าจะชนะ นายประเสริฐตอบว่า จ.เชียงใหม่เป็นพื้นที่เดิมพรรค พท. เราเพียงแต่รักษาที่ตั้งเดิมของเราเอาไว้ ที่ผ่านมา อบจ.พรรค พท.ทำอะไรหลายอย่างมามาก และวันที่ 29 พ.ย. รัฐบาลจะไปประชุม ครม.สัญจร ที่ จ.เชียงใหม่ เชื่อว่าจะได้เห็นอะไรหลายอย่างที่ จ.เชียงใหม่ ต้องยอมรับว่าชัยชนะที่ จ.อุดรธานี ทำให้พรรค พท.ได้รับความนิยมและประชาชนมั่นใจมากขึ้น แต่ละพื้นที่ที่พรรคส่งมั่นใจว่าจะได้รับชัยชนะ จากนี้ไปจะเป็นการเลือกตั้งใหญ่ของสนาม อบจ.แล้ว ส่วนใหญ่สิ้นสุดตามเทอม 4 ปีช่วงเดือน ก.พ.68 มีหลายสนามที่พรรคจะส่ง เชื่อว่าจะส่งมากที่สุดในการเลือกตั้ง อบจ.ของพรรคเพราะก่อนหน้านี้มีนายก อบจ.หลายแห่งลาออกและบางแห่งมีเหตุต้องออก“วรวัจน์” ส่ง “อนุวัธ” สู้ศึกเมืองแพร่ที่ทำการพรรคเพื่อไทย จ.แพร่ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล และ นพ.นิยม วิวรรธนดิฐกุล สส.แพร่ พรรค พท. ร่วมเปิดตัวนายอนุวัธ วงศ์วรรณ นายกอบจ.แพร่ ที่จะหมดวาระวันที่ 19 ธ.ค. เป็นว่าที่ผู้สมัคร นายก อบจ.แพร่ ในนามของพรรค โดยนายวรวัจน์กล่าวว่า พรรคมีมติส่งนายอนุวัธ คนที่ทุ่มเททำงานให้ จ.แพร่มาต่อเนื่อง เป็นผู้ริเริ่มฝายแกนดินซีเมนต์ ทำให้แพร่ไม่มีน้ำแล้งเหมือนจังหวัดใกล้เคียง จนหลายจังหวัดนำไปเป็นแบบอย่าง ตั้งแต่ปี 2549 เราไม่ได้บริหารประเทศเต็มรูปแบบมานาน อบจ.ต้องเชื่อมประสาน สส. หน่วยงานรัฐ รัฐบาล และนายกฯ เพื่อพัฒนาเป็นเนื้อเดียวกัน ด้านนายอนุวัธกล่าวว่า พรรค ให้ความสำคัญการดูแลท้องถิ่น ต้องการให้มีศักยภาพในการพัฒนามากยิ่งขึ้น ขอความกรุณาชาวแพร่เทใจให้พรรค พท. ทั้ง อบจ.และ ส.อบจ.ทั้ง 24 เขตกมธ.แนะทบทวนวัน ลต.นายก อบจ.วันเดียวกัน ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ต้อนรับคณะ กมธ.การพัฒนาการเมือง การสื่อสาร มวลชน และการมีส่วนร่วม ของประชาชน สภาผู้แทน ราษฎร นำโดย นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน.ในฐานะประธาน กมธ.เข้าศึกษาการดำเนินงานของ กกต. และสำนักงาน กกต. มีผู้บริหารและพนักงานของสำนักงาน กกต.เข้าร่วมพร้อมแลกเปลี่ยน ความเห็น นายพริษฐ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือกับเลขาธิการ กกต.ว่า ประเด็นหลักคือการเลือกตั้งท้องถิ่น ที่กำหนดวันเลือกตั้งนายก อบจ.และสมาชิก อบจ.ที่หมดวาระ กกต.กำหนดวันเสาร์ที่ 1 ก.พ.68 หากยึดเอาประโยชน์ประชาชน วันอาทิตย์น่าจะสะดวกกว่า เมื่อย้อนกลับไปดูการเลือกตั้งที่ผ่านมาเป็นวันอาทิตย์ทั้งนั้น กกต.ให้คำตอบว่ากลัวเสี่ยงต่อข้อกฎหมายกรอบเวลา 45 วัน ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 2 ก.พ.68 ครบกรอบ 45 วันพอดี ไม่ได้มีปัญหา จัดวันที่ 2 ก.พ.68 ได้ โดยได้ออกหนังสือถามความเห็นเชิงกฎหมายไปยังสำนักกฎหมาย สภาฯเพื่อช่วย กกต.คลายข้อกังวล ได้รับคำตอบว่าจัดได้ จึงเสนอให้เลขาธิการ กกต.ทบทวนเรื่องนี้ แต่ถ้าต้องการความเห็นเพิ่มต้องสอบถามไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่