ภาษาช่างโบราณ “ลงรักปิดทอง” ผมมโนตามได้ แต่อีกคำ “ลงทองร่องชาด” นึกถึงโต๊ะหมู่บูชาลงรักปิดทอง ชาดนั้นโชว์สีแดงสดใสอยู่ในหลุมในร่องลวดลายไม้แต่บางครูท่านเขียน “ลงทองล่องชาด” “ล่อง” คำนี้ ก็พอมโนได้เป็นคำกริยา ตอนทาชาดลงเนื้อไม้ทุกครั้งที่เขียน “ลงทองร่องชาด” หรือ “ลงทองล่องชาด” ผมก็สงสัยน่าจะมีคำที่ถูกแน่ๆสักคำหนึ่งในหนังสือ “เกร็ดภาษา หนังสือไทยฉบับปรับปรุง (สถาพรบุ๊คส์ พิมพ์ครั้งที่ 9 พ.ศ.2560) ส.พลายน้อย ใช้คำ “ลงทองล่องชาด” วันหนึ่งไปคุยกับเจ้าของร้านขายโต๊ะหมู่ ได้ความว่า แต่ก่อนเครื่องปิดทองต่างๆก็ต้องทาด้วยชาด ซึ่งเป็นที่มาของคำพูด “ปิดทองล่องชาด”คือเอาชาดทาในส่วนที่ลึกลงไป เพื่อให้ลายนูนที่ปิดทองดูเด่นขึ้นแต่โต๊ะหมู่สมัยใหม่ไม่ได้ใช้ชาดทาแล้ว เพราะชาดราคาแพง หันไปใช้สีแดงสมัยใหม่แต่สีแดงสมัยใหม่ ไม่สดทนนานเหมือนสีของชาด เจ้าของร้านยังมีตัวอย่างของเก่าสมัยอยุธยาให้ดู แดงแบบชาดต้องแดงอย่างนี้ ทิ้งไว้นานแค่ไหนสีก็ไม่จืด จึงเป็นที่มาของคำพูดเปรียบเปรยคนดี คนไม่ดี...ชาดดีสีมันก็ต้องแดง ชาดไม่ดีสีก็ไม่แดงเริ่มต้นด้วยสีชาด ส.พลายน้อย ไปต่อ...สำนวนภาษาเกี่ยวกับสีมีอยู่หลายคำ สมัยหนึ่งเราชอบพูดกันว่าใส่ร้ายป้ายสี หมายความถึงพูดให้ผิดไปจากความจริง ผิดสี หมายถึงคนละพวกทหารบกใช้สีขี้ม้า ตำรวจใช้สีกากี ซึ่งผิดสีกันคนละเหล่ายังมีคำ “ระบายสี” หมายถึง พูดให้เกินเลยความจริงไปมากๆ บางเรื่องมีนิดเดียว แต่พูดให้ดูใหญ่โตมากเรื่อง คุณทักษิณพูดในทีวีเดอะเนชั่น คนฟังกันทั้งบ้านเมืองเมื่อสองสามวันก่อน คดี ม.112 ที่กำลังต่อสู้ในศาลมาจากมีคนตั้งใจใส่ร้ายป้ายสี แปลความหมายคำฝรั่งที่แกให้สัมภาษณ์นักข่าวฝรั่งไปอีกอย่าง นี่เป็นตัวอย่างความหมายของคำใส่ร้ายป้ายสีใส่ร้ายป้ายสี ระบายสี เจอกันแล้วทั้งนั้น ไม่ว่า เด็กเอ๋ยเด็กน้อย ไปถึงผู้มีบารมีระดับผู้นำจิตวิญญาณยังมีสำนวนเก่าเกี่ยวกับสี ในหนังสือบทละครเรื่องคาวี พระราชนิพนธ์ ร.2 ตอนที่นางจันท์สุดาลวงถามเรื่องพระขรรค์ (คาวีถอดชีวิตฝากไว้ในพระขรรค์)คาวีย้อนว่า ยายเฒ่าทัศประสาทยุให้มาถามหรือ? นางจันท์สุดา ไม่กล้าบอกความจริง พูดเฉไฉไปอีกอย่าง ดังคำกลอนว่า “เมื่อนั้น จันท์สุดากล่าวแกล้งแสร้งใส่สี บิดเบือนเอื้อนอำทำวาที..”ใน “สี” ทั้งหมดที่กล่าวมา ส.พลายน้อยบอกว่า คำว่าสีกากี เราใช้กันจนเคยชินไม่สงสัยทำไมเรียกสีกากีได้ยินมาจากท่านผู้ใหญ่ เหตุที่เรียกสีกากี เพราะสีนี้เหมือนกับสีแผ่นดินในประเทศอาหรับ ซึ่งเต็มไปด้วยทะเลทราย สีของทรายเหมือนสีผ้ากากีมาก ทั้งคำอาหรับก็เรียกดินว่า “กากี”การเรียกสีของไทยมักใช้เปรียบเทียบกับสีตามธรรมชาติ สีของเครื่องใช้ เช่น สีทับทิม สีปูนแห้ง สีไพลมีสีประหลาดสีหนึ่ง คือ “สีเทา” บางท่านว่าน่าจะมาจากสีขี้เถ้าในเตาไฟ ขี้เถ้ามีคุณ สมัยสงครามใช้ต่างสบู่ ตอน ส.พลายน้อยเขียน ยังไม่ใช้คำสีเทา เปรียบเทียบกับข้าราชการหรืออาชีพที่ครึ่งดีครึ่งร้ายอีกคำ สีที่นำมาจากสีผลไม้ “สีส้ม” ตอน ส.พลายน้อยเขียน ยังไม่มีพิพาทการเมืองสีเหลือง สีแดง...มาตอนนี้ มีคนเอาสีเหลืองสีแดงมาผสมกัน กลายเป็นสีส้ม..สีทางการเมือง เป็นสีพรรคที่มีคนเลือกตั้งมากที่สุด แต่น่าเสียใจ ที่ผู้นำพรรคตั้งรัฐบาลไม่ได้ ทั้งพรรคยังถูกยุบเปลี่ยนชื่อพรรคใหม่ แต่สีส้มยังไม่เปลี่ยนหากมีคำถามในจำนวนสี สีอะไรคนรักมากกว่า คำตอบก็คือสีส้ม..ไง หรือใครจะเถียงว่าไม่จริงส่วนสีแดง ผมไม่แน่ใจ เป็นสีชาดทนทานหรือสีแดงสมัยใหม่ มีเสียงคุณทักษิณบอกดังๆ เลือกตั้งครั้งหน้า จะมาเป็นที่หนึ่งจะจริงแท้หรือไม่ ผมบอกแล้วไง เรื่องของสีเปลี่ยนแปลงได้เสมอ.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม