คาดว่าสัปดาห์นี้ กกต. จะประกาศรับรอง สว. 200 คน เพื่อเข้าทำหน้าที่รองรับการออกกฎหมายสำคัญตามนโยบายรัฐบาล อาทิ งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 กฎหมายประชามติ ร่าง พ.ร.บ.การใช้จ่ายงบประมาณเพิ่มเติมที่จะนำไปใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ส่วนใหญ่จะเป็นเส้นเลือดใหญ่ของรัฐบาลชุดนี้ที่มีผลต่อเสถียรภาพรัฐบาล จะได้ไปต่อหรือพอแค่นี้ข้อกฎหมาย ก็เป็นอีกเรื่อง จะกี่มาตรฐาน ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลากหลาย จริยธรรม และ จิตสำนึก มีความสำคัญและละเอียดอ่อน ที่จะส่งผลต่ออนาคตของประเทศในระยะยาว ยกตัวอย่างเรื่องภายในองค์กร สภาพของการเลือกตั้งท้องถิ่นที่ จ.ปทุมธานี ทุลักทุเล กลืนไม่เข้าคายไม่ออก คนที่ชนะการเลือกตั้งมาแต่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ด้วยความที่เป็นพรรคแกนนำรัฐบาลส่งเข้าประกวด ขั้นตอนต่างๆชักช้าไปหมด อ้างเหตุผลไปคนละทิศละทาง ทั้งๆที่มีตัวบทกฎหมายระบุเอาไว้ชัดยิ่งกว่าชัด ยังตะแบงไปเรื่อยๆผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับ การบริหารงานในท้องที่ จ.ปทุมธานี โดยตรง มีทุกตรง จะอ้างว่าตั้งรองนายก อบจ.มาปฏิบัติหน้าที่แทนหรือรอให้ศาลอาญามีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เสียก่อน ไม่ใช่การแก้ไข แต่เป็นการแก้ตัว ยิ่งเป็นความรับผิดชอบของพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลด้วยแล้ว ควรจะหาทางยุติก่อนที่จะเกิดความเสียหายอื่นๆตามมา เช่น ลาออก แล้วหาคนที่พร้อมมาลงสมัครแทนก็ได้ประเด็นนี้ ความเสียหายไม่ได้เกิดขึ้นกับผู้สมัครเท่านั้น แต่ฉายภาพไปถึงพรรคเพื่อไทยที่หลายมาตรฐานเอง ข้อร้องเรียนคุณสมบัตินายกฯเศรษฐา ทวีสิน ขาดคุณสมบัติเพราะไปตั้งพิชิต ชื่นบาน เป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ อ้างมีความเห็นของกฤษฎีกาว่าทำได้ แต่กรณีนี้กลับไม่เชื่อความเห็นของกฤษฎีกาที่ระบุว่า ไม่สามารถเข้าปฏิบัติหน้าที่ได้โดยอัตโนมัติ เพราะถ้าสามารถเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ได้กรณีที่ศาลอาญาวินิจฉัยว่ามีความผิดฐานทุจริตในภายหลังก็จะกระทบกับการทำหน้าที่ในการทำนิติกรรมต่างๆ เช่นเดียวกับประเด็นของนายกฯเศรษฐา สมมติศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยขาดคุณสมบัติ และนายกฯเศรษฐาไม่ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ระหว่างการพิจารณาคดี ในอนาคตอาจจะเกิดความเสียหายขึ้นมาได้ต่อกรณีคำสั่งต่างๆในระหว่างการพิจารณาคดีเรื่องของ สว. ก็เช่นกัน เนื่องจากมีเรื่องร้องเรียนถึงความไม่บริสุทธิ์ยุติธรรมในการเลือกตั้งหลายกรณีด้วยกัน สมมติ กกต.ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งไปแล้ว อ้างว่า สามารถที่จะสอยทีหลังได้ อย่าลืมว่า สว.ไม่ได้เป็นการเลือกโดยตรง แต่เป็นการเลือกโดยตัวแทนในระดับอำเภอ ระดับจังหวัดและระดับประเทศ ถ้าพบการทุจริตจริงก็ต้องกระทบกับการเลือกตั้งทั้งระบบ นั่นหมายถึง การเลือกตั้ง สว.เป็นโมฆะ ผลของการกระทำของ สว.ในการปฏิบัติหน้าที่ไปแล้ว จะส่งผลกระทบต่อนโยบายและกฎหมายอย่างร้ายแรงแค่ไหนเรื่องของภาวะผู้นำในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นสีกากีที่กระทบถึงกระบวนการยุติธรรมอย่างหนักหนาสาหัส ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น การที่สภา สว.อยู่ภายใต้การควบคุมของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดกับรัฐธรรมนูญชัดเจน นั่นหมายถึงความล้มละลายด้านความน่าเชื่อถือของระบบ เป็นวิกฤติผู้นำและวิกฤติประเทศอย่าล้อเล่นกับระบบ.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.thคลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม