ปั่นป่วนทั้งแผง กระเพื่อมไปทั้งกระดานสถานการณ์การเมืองเรื่องอำนาจ มิถุนาฯ ส่อแววยุ่งวุ่นวายตลอดเดือนจากโปรแกรมระทึกเกี่ยวโยงค่ายการเมือง บิ๊กเนม ขั้วฝ่าย และกระบวนการชนิดหากอุทานก็ต้องยกวลีฮอตกว่า 50 ปีก่อนของอดีตประธานสภาฯ “โค้วตงหมง” ประสิทธิ์ กาญจนวัฒน์ หลุดปากระหว่างคุมประชุมแบบนี้ก็ “ยุ่งตายห่า”วันนี้ก็ดูชักเข้าเค้าอย่างที่เซียนๆอ่านทาง ชนักคดีสำคัญที่เข้าสู่การตรวจสอบกระบวนการยุติธรรมโยงสถานการณ์อำนาจแปร่งๆตั้งแต่ คดียุบพรรคก้าวไกล ประเด็นเป็นปฏิปักษ์ ล้มล้างการปกครอง รอคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญเร็วๆนี้ ต่อด้วยคดีค้างเก่ามาตรา 112 ของอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ต้องไปรายงานตัวให้อัยการนำส่งฟ้องศาล และสุดท้ายคือปมร้องถอด นายกฯเศรษฐา ทวีสิน จากเก้าอี้นายกฯ กรณีแต่งตั้งรัฐมนตรีส่อขัดรัฐธรรมนูญ เศรษฐา ทวีสินมีโอกาสเป็นโดมิโนล้มคว่ำ โยงตามกันไปจึงเป็นอะไรที่ผู้บงการเกมหลังฉากคงต้องร่วมกันหาทางออก 3 ขั้ว 3 สาย ส้ม แดง และขั้วผสมสี ฝ่ายอนุรักษ์นิยม ต้องดีลลับดีลลึก หาทางรับ–ส่งสัญญาณ เชื่อมต่อติดหมายเลขที่ท่านเรียกจนนาทีสุดท้ายชนิดที่เผลอๆ 3 ปมใหญ่ เคาะไม่ลงตัว ก็อาจติดโรคเลื่อนอาจมีรายการยื้อจังหวะดึงเวลา ไม่ให้ไฟขัดแย้งปะทุหนักกว่านี้ส่วนหนึ่ง ก็คงเพื่อไม่ให้เป็นอย่างที่ สว.วันชัย สอนศิริ ประเมินดักคอ มีคน 3 กลุ่ม เดินเกม 3 ล้ม 3 เรื่อง ล้มรัฐบาลนายกฯเศรษฐา ยุบพรรคสีส้มก้าวไกล ล้มกระดานเลือก สว.โดยมีเป้าหมายทั้งพลิกขั้ว ย้ายขั้ว ล้างขั้ว ล้างกระดาน รีเซ็ตอำนาจประเทศไทยโดยเฉพาะตอนนี้ปมยุ่งๆ กระบวนการเลือก สว. แม้ กกต.จะเดินหน้าต่อ ไม่รอคำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญที่มีการร้องให้วินิจฉัยกฎหมายเลือก สว. 4 มาตราแต่คิวร้องเรียนกฎกติกา ระเบียบ กกต.ยังมีอีกเป็นพรวน ทั้งในเรื่องกระบวนการเลือก ตั้งแต่ก่อน–ระหว่างรับสมัคร ขั้นตอนสมัคร การจัดสถานที่ เงื่อนไขการแนะนำตัว ใช้ช่องทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯที่สำคัญคือกระบวนการในแต่ละระดับ “ส่อฮั้ว” เข้าเงื่อน “บล็อกโหวต”มีจุดตายให้เลือก สว.ล่ม ปมเข้าข่ายโมฆะอีกอื้อ เท่านี้ก็ป่วนตายชักแล้ว ในจังหวะเดียวกันก็เห็นสัญญาณฝุ่นตลบในฝั่งสภาฯ ทั้งโปรแกรมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2568 กลางเดือน มิ.ย.นี้ถือเป็นคิวเปิดเวทีเฉพาะกิจให้เติมดีกรี “เดือนเดือด”รวมทั้งงานร้อนในฝั่งนิติบัญญัติต่อเนื่องอีกหลายคิว โดยเฉพาะในคณะกรรมการศึกษาการร่างกฎหมายนิรโทษกรรม กำลังงวดสู่โค้งสำคัญ สรุปประเด็นช่วงสิ้นเดือน มิ.ย.นี้หลังจากยื้อเคาะประเด็นความผิดมาตรา 112 เข้าอยู่ในบัญชี “นิรโทษ” หรือไม่ยึกๆยักๆจัดโละแบบ “เหมาเข่ง”เพราะเป็นจังหวะพอดิบพอดี เป็นประเด็นเกี่ยวโยงปมชนักคดีของนายใหญ่พรรคเพื่อไทย “ทักษิณ ชินวัตร” ติดบ่วงมาตรา 112 กำลังลุ้นได้–เสีย รวมทั้งโยงคดีจำนำข้าวของอดีตนายกฯ หญิงอีกปมหากพรรคเพื่อไทยดันนิรโทษสุดแรง เหมาเข่งสุดตัวก็ย่อมโดนถล่มแหลกฝ่ายต้านเริ่มก่อหวอดรวมตัว ฮึ่มๆ ตะเพิดให้ “อยู่ไม่ได้” กันอีกรอบแต่จะปล่อยผ่าน ไม่เคลียร์ล้างปม 112 ก็โดนคำถาม ความจริงใจจะปรองดองในรอบ 2 ทศวรรษขัดแย้งทำเพื่อไทยคิดหนักหลายตลบ ต้องเดินเกมรอบคอบในแต่ละช็อต โดยเฉพาะจากบทเรียน คิวนิรโทษสุดซอยในอดีต ทำพังพาบมาแล้วมาวันนี้จะ “นิรโทษเหมาเข่ง” ก็เสียวเจ๊งซ้ำทั้งหมดจึงเป็นเหตุที่ต้องจับตา มิถุนาฯอาจเป็นเดือนเดือดและระทึกขวัญอำนาจกระเพื่อมหนัก บ้านเมืองจ่อติดหล่มกันไม่หลุด.ทีมข่าวการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม