คณะอนุกรรมการกำกับการดำเนินโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ที่มี จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ เป็นประธาน สรุปเงื่อนไข ผู้มีสิทธิ์ลงทะเบียนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ดังนี้ มีเงินฝากไม่เกิน 5 แสนบาท ทุกบัญชีรวมกันนับตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค.2567 มีอายุ 16 ปี บริบูรณ์ ภายในวันที่ 30 ก.ย.2567 ไม่เป็นผู้มีเงินพึงประเมินเกิน 840,000 บาทต่อปี ในปีภาษี 2566 (เฉลี่ยเดือนละ 70,000 บาท) เอาแค่เงื่อนไขผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ ไม่รวม วิธีการใช้จ่ายร้านค้าผู้ร่วมโครงการ เงื่อนไขการใช้จ่าย แหล่งที่มาของเงินก็ยุ่งเป็นฝอยขัดหม้อแล้วเพราะถ้าผิดเงื่อนไขใดเงื่อนไขหนึ่งก็เข้าโครงการไม่ได้ เช่น มีเงินฝากในบัญชีเกินกว่า 5 แสนบาทไป 10 บาท หรือมีเงินพึงประเมินเกินไป 500 บาท ก็หมดสิทธิ์ลงทะเบียน หมายความว่าไม่สามารถวัดความแตกต่างว่าใครควรได้รับหรือไม่ได้รับ หรือเป็นผู้มีรายได้น้อย เช่น อาจไม่มีเงินฝากในบัญชีเลยแต่มีที่ดินมีทรัพย์สินอื่น ที่มีมูลค่ามากกว่าทำไมไม่เอารายได้เฉลี่ยรายเดือนของแต่ละคน หรือของแต่ละครอบครัวมาเป็นตัวบริหารจัดการ ซึ่งมีข้อมูลอยู่แล้ว จากการลงทะเบียนคนจน ในรัฐบาลชุดที่แล้ว จะ 14 ล้านคนหรือมีจำนวนคนจนเพิ่มขึ้น หรือจะวัดเอาจากผู้ที่ไม่มีรายได้เลย เช่นเยาวชน หรือผู้สูงอายุ รวมเข้าไปด้วย ก็ไม่น่าเกลียด ตัวเลขผู้มีสิทธิ์ก็จะไม่สูงขนาดนี้ไม่ต้องไปสร้างแอปพลิเคชันใหม่ให้ยุ่งยาก เป๋าตัง ที่ชาวบ้านคุ้ยเคยก็ใช้ได้ ยังผูกข้อมูลเอาไว้กับ แบงก์รัฐ ด้วย ที่สำคัญปัญหาแหล่งที่มาของเงินก็ยังไม่เคลียร์ว่าจะผิดวินัยการเงินการคลังหรือไม่การยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง รมช.คลังของ กฤษฎา จีนะวิจารณะ ต่อจากการลาออกของ ปานปรีย์ พหิทธานุกร จาก รมว.ต่างประเทศในเวลาที่ใกล้เคียงกัน คงไม่ใช่เพราะปัญหาการแบ่งงาน เข้าใจว่าจะเกิดจากการ คับที่อยู่ได้คับใจอยู่ยากมากกว่า คนที่เป็นอดีตข้าราชการระดับสูง มีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์ ย่อมจะเข้าใจถ่องแท้ในการทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้วันเดียวกัน สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ยื่นใบลาออกจากสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติทุกตำแหน่ง หัวหน้าพรรค พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน บอกไม่ทราบว่ามีการลาออก ถึงลาออกไปแล้วก็หาคนมาทำหน้าที่ใหม่ได้เพราะเป็นโควตาของพรรค ถ้าจะปฏิเสธว่าการลาออกเป็นเรื่องปกติ ให้อมพระมาพูดก็ไม่เชื่อหลังจาก ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ เตรียมนำข้าวในโครงการรับจำนำข้าวเมื่อ 10 ปีที่แล้วออกมาประมูล มีการแสดงกินข้าวโชว์สื่อเท่านั้นทัวร์ลงไม่พัก มีทั้งนักวิชาการ นักโภชนาการและนักการเมือง ออกมาแฉยับถึงโทษภัยของข้าวอายุ 10 ปีที่นำมาล้างน้ำถึง 15 ครั้งก็ยังไม่สะอาด ย้อนรอยไปถึงการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวในสมัยรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทุกซอกทุกมุม มีการเปิดประมูลถึง 3 ครั้งแล้ว มีคนมาประมูลแต่ไม่ยอมมารับข้าวเปิดยื่นซองประมูลครั้งที่ 4 วันที่ 23 ม.ค.ปีนี้ ปรากฏว่าวันที่ 30 ม.ค.ประกาศยกเลิกการประมูลเฉย ถามว่าพยายามทำไปเพื่ออะไร ใครเป็นคนคิดมุกนี้ ที่วิจารณ์กันว่าจะเป็นการปูทางให้ นายกฯ ปู กลับบ้าน น่าจะมีผลตรงกันข้ามกันมากกว่า ล่าสุดหอการ ค้าไทย-สภาหอการค้าประสาน 52 สมาคม ค้านนโยบายค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศอีกจู่ๆ ในวงประชุมการแก้ปัญหายาเสพติด นายกฯ นิด บอกจะเอากัญชาเข้าบัญชียาเสพติด แก้กฎกระทรวงครอบครองยาบ้าเหลือแค่ 1 เม็ด มท.หนู กับปลัดสาธารณสุขที่นั่งประชุมอยู่ด้วยทำหน้าปูเลี่ยนชอบกล.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.thคลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม