บทเรียนเผด็จการนักข่าวรุ่นผม ราว พ.ศ.2519-2520 ก็แค่นั่งลุ้นระทึกฟังวิทยุช่วงข่าวแปดโมงเช้า...รอคำสั่งรัฐบาล จะปิดหนังสือพิมพ์หรือไม่?...กระนั้นฉบับที่ผมสังกัดตอนนั้น ถูกปิดไปสองครั้งแต่บทเรียนนักข่าวรุ่นพี่ ยี่สิบสามสิบปีก่อนหน้า รุนแรงกว่าเรื่องเล่าที่ฟังฝังใจแค่ย่อๆ ไม่แค่ บก.นสพ.อิสระจะถูกจับ แท่นพิมพ์ 9 แท่น ยังถูกทหารสองคันรถควงค้อนทุบจนพังไปทั้งโรงพิมพ์ แต่ไม่เคยรู้ถึงรายละเอียดศิลปวัฒนธรรม ฉบับ พ.ย.2564 ใกล้มือมีเรื่องขึ้นปก จอมพลสฤษดิ์กับภาพลักษณ์ เมื่อขวัญใจกลายเป็นตัวร้าย อิทธิเดช พระเพ็ชร ค้นคว้ามาเขียนหน้าหนึ่ง นสพ.อิสระ ฉบับปฐมฤกษ์ 23 มี.ค.2501 พาดหัว สฤษดิ์กลัวรัฐบาลจะเจ๊งรีบกลับ...ตอนนั้น รัฐบาลจอมพลถนอม กิตติขจร ...เจอปัญหา จอมพลสฤษดิ์ ท่านผู้นำที่เดินนโยบายเข้าข้างอเมริกา ป่วยเป็นโรคม้ามไปรักษาตัวที่อเมริกา นสพ.อิสระ บัญญัติคำเรียก ดุเด็ดเผ็ดมัน เริ่มแต่ ไอ้พวกชาติสังคัง ไอ้ลิงบ้ากามไปจนถึงคำ “ไอ้ลิงม้ามแตก”อิทธิเดช พระเพ็ชร เขียนว่า หนังสือพิมพ์ส่วนใหญ่ใช้ภาษาผู้ดี ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช สยามรัฐ บอกว่า จอมพลสฤษดิ์ เกิดปีลิง ใช้สัญลักษณ์รูปหนุมานกลางหาวท่ามกลางดาวกับเดือน...หนุมานซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อพระราม โดยไม่เห็นแก่บำเหน็จรางวัลอย่างไรแต่เมื่อ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์หยอกแรง สฤษดิ์จะเป็นประธานาธิบดี เอาเงินไปแจกทหาร ท่านจอมพลก็ทนไม่ได้ แจ้งตำรวจจัดการอาจารย์หม่อมข้อหาหมิ่นประมาทบทนำ นสพ.ข่าวภาพ เคยหวังท่านผู้นำจะปลดแอกประเทศจากจักรวรรดินิยม...แต่กลับจะถอยหลังเข้าคลองข้อวิพากษ์วิจารณ์พอมีเหตุผล พอทนฟังไหว แต่กับ นสพ.อิสระ เมื่อจอมพลระบุว่า พล.ต.อ.เผ่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง...นสพ.อิสระก็เปิดฉากโต้ ลองฟังประโยคตัวอย่าง“ฟัง สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ในฐานะอั๊วกับลื้อ ก็เป็นคนไทยเหมือนกัน หลักฐานของลื้อแน่แค่ไหน ถ้าแน่ขอให้แสดงโดยเปิดเผยใน 24 ชั่วโมง มิฉะนั้นอั๊วจะประณามลื้อว่า เป็นไอ้หมา 500 ชาติ...”ทันที จอมพลสฤษดิ์ก็ไปถึงโรงพิมพ์ เจอ บก.ประยูร ชื่นสวัสดิ์ แล้วก็กลับไป ไม่นาน รถจี๊ปสองคันพร้อมชายฉกรรจ์ ก็บุกเข้าโรงพิมพ์ ใช้ค้อนทุบสิ่งของในกอง บก. ทุบแท่นพิมพ์ 9 แท่นพิมพ์พังยับทำกันซึ่งหน้าขนาดนี้ แต่ท่านจอมพลก็ปฏิเสธว่า ที่ไปก็จะไปหาคนเขียนที่ท้า ถ้าผมไม่ไปเป็นหมาห้าร้อยชาติ ส่วนเรื่องพังโรงพิมพ์ ไม่ได้สั่งใครไปทำ เพราะถ้าทำเองจะแหลกกว่านี้ เผาโรงพิมพ์ทิ้งเท่านั้น...ผมจะไปได้อย่างไร ใครๆก็รู้ม้ามผมเหลืออยู่ข้างเดียวเล่นบทบู๊ล้างผลาญกับพวก นสพ.ได้ไม่กี่วัน จอมพลสฤษดิ์ ที่ยึดอำนาจจอมพล ป.มาแล้ว ก็ปฏิวัติยึดอำนาจรัฐบาลจอมพลถนอม ตั้งตัวเองเป็นผู้นำประกาศนโยบาย ข้าพเจ้าขอรับผิดชอบแต่ผู้เดียว จนกระทั่งถึงแก่อสัญกรรมในปลายปี 2506พวกหนังสือรุ่นพี่ มีประสบการณ์กับเผด็จการ ก็สั่งสอนรุ่นน้องด้วยเรื่องนี้ มาจนถึงรุ่นผม ก็เล่าขานเตือนรุ่นลูกๆหลานๆต่อ อย่าไว้ใจอำนาจที่ฝักใฝ่พวกทหาร อะไรๆที่ไม่คาดหมายเกิดขึ้นได้เสมอเด็กเอ๋ย! เรื่องติดคุก ถ้าเลี่ยงได้ก็เลี่ยง ถือคำสอนคนโบราณ จงสละอวัยวะ เพื่อรักษาชีวิตเอาไว้ดีกว่านักข่าวรุ่นผม เคยดีใจกับเนื้อเพลง เมื่อท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน ตั้งแต่ปี 2516 จนถึงวันนี้ ก็เริ่มจะเห็นว่า ประชาชนทำท่าจะเป็นใหญ่ แต่ก็ยังใหญ่ได้ไม่จริงสักที เหตุเพราะมีกระบอกปืนมาขวางนี่เอง.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ "ชักธงรบ" เพิ่มเติม