หนึ่งในภาพ 32 ภาษา ภาพจิตรกรรมบานประตูวิหาร ในวัดโพธิ์ อย่างภาพ ยิบเซ็ดอ่าน มีโคลงบาทหนึ่งบอก “อยู่ทวีปแว่นแคว้นใต้ ต่ำชวาฯ แต่ก็ยังไม่รู้ว่า ชาติใด อยู่ที่ไหน(ภูมิศาสตร์ วัดโพธิ์ กาญจนาคพันธุ์ รวมสาส์น พิมพ์ครั้งที่ 2 พ.ศ.2516)สมัยรัชกาลที่ 3 สมัยที่เขียนภาพ เขียนคำบรรยาย ความรู้เรื่องแผนที่โลก...ยังไม่เข้ารูปเข้ารอย อาจารย์กาญจนาคพันธุ์ไล่เลียงไปใช้ชื่อเป็นตัวช่วย ยิบเซ็ดอ่าน น่าจะมาจาก อียิปเชียน เพี้ยนเป็นอียิปชิอ้านก็ชาติดึกดำบรรพ์เก่าแก่ที่สุดในโลก ที่หลับตาเห็นภาพ ปิรามิด สามองค์ริมแม่น้ำไนล์ มีภูเขาทั้งลูกสลักเป็นนรสิงห์ หรือสฟิงซ์ก็คือ อียิปต์ นั่นปะไรมีเรื่องเล่าเรื่องหนึ่งเกิดขึ้นในสมัย ฟาโรห์ ชื่อเมนเการา นครหลวงชื่อเมมฟิส วันหนึ่งทรงประทับตรัสประภาษว่าราชการกลางแจ้ง นกอินทรีตัวหนึ่งบินผ่านมา ปล่อยสิ่งหนึ่ง...ลอยลิ่วลงมาตกโครม ลงที่พระเพลาทรงหยิบขึ้นดู เป็นรองเท้าผู้หญิงสวยงาม ทั้งยังประดับเพชรพลอย แสดงว่าเจ้าของรองเท้า เป็นหญิงสาวผู้ดีมีชาติตระกูลขนาดของรองเท้าที่เล็กกว่ารองเท้าสตรีทั่วไป ดึงดูดให้ฟาโรห์ อยากเห็นหน้าเจ้าของ โปรดให้เสนาบดีออกเที่ยวหาตามเมืองต่างๆ สาวผู้ดีมีตระกูลมากมาย...มีทั้งที่ถูกเลือกมา มีทั้งเสนอตัวมาเองสาวสวยไม่ว่าเมืองไหน ก็อยากเป็นสาว เข้าตา “ฟาโรห์” ทั้งนั้น แต่ผ่านไปหลายเมือง ก็ยังไม่เจอจนกระทั่งไปถึงเมืองเนาคราติส...ก็ได้ตัวสาวงาม...ชื่อโดริส ตามเรื่องเล่า ไม่บอกชาติตระกูล แต่ก็พอเดาได้ว่ามีเชื้อสายผู้ดี...พอเธอเอาเท้าสวม...ก็สวมได้พอดีเสนาบดีกำลังพิศวงงงงวย...ยังไม่ทันได้ไถ่ถามอะไร สาวโดริสก็เอารองเท้าอีกข้าง...ออกมายืนยันมั่นคง เธอนั่นเอง เป็นเจ้าของรองเท้า...ตัวจริงและ...เรื่องที่เป็นปริศนา...รองเท้าประดับเพชรพลอยข้างนั้น เกิดแสดงปาฏิหาริย์ลอยลิ่วๆขึ้นฟ้า...ไปหล่นปุลงพระเพลาฟาโรห์ได้อย่างไร...สาวโดริสก็เล่าให้ฟังวันเวลานั้น เธอลงอาบน้ำในสระกลางสวน...ในบ้าน จึงถอดเกือกวางไว้ริมสระ...เหยี่ยวใหญ่ตัวหนึ่งบินผ่านมา แสงเพชรพลอยประดับรองเท้าแวววาบสะดุดตา มันคงนึกว่าเป็นเหยื่อชั้นดี จึงบินโฉบลงมาเฉี่ยวเอาไปข้างหนึ่งขณะที่บินลิ่วๆไปถึงเมืองเมมฟิสนั้น มันเหลือบตาดูจึงรู้ว่า ไม่ใช่เหยื่อที่กินได้ จึงปล่อยรองเท้าหลุดลงไปส่วนประเด็น...ทำไม รองเท้าของเธอ จึงจำเพาะเจาะจง หล่นลงพระเพลาพระเจ้าแผ่นดิน...เธอปล่อยให้คนที่ฟัง ไปเติมต่อกันเอาเอง...แล้วเรื่องเล่าเรื่องนี้ ก็จบลงตรงฟาโรห์เมนเการา ตั้งสาวโดริสเป็นพระมเหสี ทรงรักพระนางมาก ถึงขนาดเมื่อพระนางสิ้นพระชนม์ ทรงสร้างปิรามิด องค์ที่ 3 ขึ้นบรรจุพระศพปิรามิดองค์นี้ ขนาดย่อมกว่าสององค์แรก...แต่ฝีมือสร้างงดงามกว่า ทุกด้านหุ้มด้วยหินขัด โบกปูนเชื่อมติดกันสนิท จนดูเหมือนเป็นแผ่นหินใหญ่แผ่นเดียว“เรื่องนี้ เข้าเค้าเรื่องนางซินเดอเรลลา เห็นนาฬิกาได้สองยาม ลงบันไดเกือกแก้วกระเด็น ฝรั่งลอกไปจากเรื่องนี้ล่ะกระมัง?” อาจารย์ กาญจนาคพันธุ์ สรุปปิดเรื่องอาจารย์เคยเขียนว่า วรรณกรรมไทย เรื่องหลวิชัย คาวี...ที่เป็นละครดัง คนโบราณชอบกันมากๆนั้น มีเค้าเอามาจากประวัติ สองพี่น้องราชวงศ์ฟาโรห์ ยุคสมัยหนึ่งยังมีเรื่องเล่าอีกมาก เช่นเรื่องวิชาตัดหัวคน แล้วต่อให้ติดทำให้ฟื้นได้...รวมความเชื่อแบบมูเตลู...ที่เป็นกระแสสำคัญในบ้านเมืองเราวันนี้ ถ้ายังเดาไม่ออก ได้มาจากไหน ส่วนหนึ่งและน่าจะเป็นส่วนใหญ่ ได้จากเมืองยิบเซ็ดอ่าน หรืออียิปต์นี่เอง.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ "ชักธงรบ" เพิ่มเติม