เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์มติชนในคอลัมน์ “เสาร์ประชาชื่น” ได้ลงเรื่องและภาพของโปรเจกต์ค้างฟ้า “หมอชิตคอมเพล็กซ์” อย่างละเอียด 1 หน้าเต็มๆผมอ่านแล้วอ่านอีกไม่ต่ำกว่า 4-5 เที่ยว เพราะโปรเจกต์ที่ว่านี้ (ถ้าได้เกิด) จะเกิดขึ้น ณ บริเวณสถานีขนส่งหมอชิตเก่า ด้านหลังของโรงพิมพ์ไทยรัฐนี่เอง...ระยะเดินที่ผมเคยนับก้าวไว้เพราะเดินไปขึ้นรถไฟฟ้า บ่อยๆ...เพียง 1,600 ก้าวเศษๆ หรือประมาณ 700 เมตรเท่านั้นเองเมื่อจะมี “โครงการใหม่” และตามรายละเอียดที่มติชนนำลงไว้ จะเป็น “โครงการใหญ่” ใช้เงินลงทุนเกือบ 27,000 ล้านบาท มาอยู่แถวๆหลังบ้านเช่นนี้จะไม่ให้ผมต้องอ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้ยังไงล่ะความจริงผมได้ยินชื่อและได้ยินข่าวเกี่ยวกับโครงการนี้มานานแล้ว เพราะเป็นโครงการที่ค่อนข้างอื้อฉาว ได้รับการคัดค้านจากผู้คนที่อยู่อาศัยในบริเวณนี้มาโดยตลอดพอผมได้อ่านได้เห็นภาพของโครงการ หรือโปรเจกต์นี้เต็มๆก็อยากจะคัดค้านด้วยอีกแรงหนึ่งหรือถ้าหากมันผ่านห้วงเวลาแห่งการคัดค้านไปแล้ว เพราะเขาจะลงมือ “ตอกเข็ม” ก่อสร้างกันแล้ว...ผมก็ขอเปลี่ยนจากคำว่าคัดค้านเป็นการตั้ง ข้อสังเกต ก็แล้วกันครับในรายละเอียดระบุว่า โครงการนี้...จะเป็นอาคาร “ตึกคู่” ทิศเหนือสูง 36 ชั้น, ทิศใต้สูง 32 ชั้น, มีใต้ดิน 4 ชั้น, มีพื้นที่ใช้สอยรวม 888,046 ตารางเมตร และเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ 776,046 ตารางเมตรในอาคารจะประกอบด้วย อาคารสำนักงาน, เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์, โรงแรม, ศูนย์การค้า, อาคารจอดรถ, ศูนย์ประชุม และ สถานีรับส่ง ผู้โดยสาร ของ บริษัทขนส่งจำกัด (บขส.)ครับ! พอรู้ว่าโครงการนี้จะมี “อะไรบ้าง” ผมก็ใจฝ่อลงทันทีผมเคยเขียนกราบเรียนท่านผู้อ่านแล้วว่า ผมเป็น “คนซอกแซก” ชอบซอกแซกตระเวนไปรอบๆ กทม. ...อยู่ตลอดผมนั่งรถไฟฟ้าครบทุกสาย โดยเฉพาะสายหลักๆผมจะนั่งจากสถานีต้นทางไปปลายทางไม่รู้กี่สิบเที่ยว และขณะเดียวกันผมก็ชอบนั่งรถเมล์แอร์ไปสุดสาย ไม่รู้ว่ากี่สิบสายเช่นกันสำหรับศูนย์การค้านั้น ถ้าเป็น ศูนย์ใหญ่ ที่โด่งดังมีชื่อเสียงบอกได้เลยว่า ไม่มีศูนย์ไหนที่ผมไม่เคยไป...แต่ถ้าเป็นศูนย์ย่อยแบบ “คอมมูนิตี้มอลล์” ผมก็เชื่อว่าผมไปมาแล้วเกือบครึ่งหนึ่งผมพบว่าไม่เคยมีศูนย์การค้าไหนขายพื้นที่ได้หมด และหลายๆศูนย์เหลือพื้นที่ว่างเปล่าปล่อยไว้ร้างเป็นชั้นๆเลยทีเดียวแล้วโครงการนี้ยังจะออกมาแข่งกับเขาอีก...มันจะไหวหรือ?แม้ผมไม่มีข้อมูลอยู่ในมือ...มีแต่เดินตระเวน นั่งรถตระเวนและขึ้นรถไฟฟ้าตระเวนดูด้วยสายตาเท่านั้น...กระนั้นผมก็ค่อนข้างเชื่อว่าประเทศไทย...โดยเฉพาะกรุงเทพฯมี “ซัพพลาย” หรือ “อุปทาน” ที่โปรเจกต์นี้คิดจะสร้างหรือผลิตออกมาตามที่เอ่ยไว้นั้น...มากเกินไปแล้วครับทุกวันนี้โครงการต่างๆตกอยู่ในสภาพที่ไม่อยู่ในตำราเศรษฐศาสตร์เล่มไหน แต่อยู่ในตำนานของภาษิตไทยที่ว่า “ขี้ใหม่หมาหอม” ทั้งสิ้นเวลาเขียนผมต้องดัดแปลงเสียก่อน เพราะกลัวคนอ่านจะโกรธ ...ผมก็เปลี่ยนเสียว่า “ดอกไม้ใหม่มนุษย์หอม” ให้ดูไพเราะขึ้นหน่อยศูนย์การค้าใหม่, โครงการมิกซ์ยูสใหม่ ก็เหมือนดอกไม้ดอกใหม่เปิดครั้งแรกจะส่งกลิ่นหอมฟุ้ง ผู้คนทั้งหลายก็จะแห่กันไปดอมดมแน่นขนัดแต่ต่อมาเมื่อดอกไม้เริ่มเฉาลง และขณะเดียวกันก็มีดอกไม้ดอกใหม่จากสวนใหม่ๆโผล่ออกมาอีก...ผู้คนก็จะแห่กันไปที่สวนใหม่แทนทำให้ศูนย์การค้าที่สร้างมาก่อนก็ดี มิกซ์ยูสรุ่นก่อนๆก็ดี ซึ่งเปรียบเสมือนดอกไม้เก่าหรือดอกไม้ดอกเดิมตกอยู่ในภาวะรกร้างว่างเปล่าไร้คนเดิน ไร้คนซื้อ...ไร้คนเช่า กลายเป็น “บาดแผล” ของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในบ้านเราอย่างที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ผมถึงได้บอกว่าผมไม่ได้ค้านอะไรโครงการนี้หรอก...แต่รู้สึกเป็นห่วงใยกลัวว่าจะเป็นดอกไม้ใหม่เบ่งบานประเดี๋ยวประด๋าว เสร็จแล้วก็โรยราขาดทุนย่อยยับเหมือนดอกไม้ใหญ่น้อยหลายๆดอกทั่วกรุง ณ บัดนาวนี้...จึงฝากเป็นข้อสังเกตไว้เท่านั้นเองครับ.“ซูม”