ก่อนสี่ทุ่มคืนวันเสาร์ ผมถูกชวนไปเดินเซ็นทรัลลาดพร้าว ซื้อกาแฟเดินไปกินไป เลี้ยวจากร้านหนังสือบีทูเอสนิดหนึ่งก็ถึงร้าน “ไลลา” ลูกค้าวัยรุ่นหลายคน ยังอุดหนุนกันอยู่ร้านไลลา เปิดมาสี่ปี สินค้าเป็นเครื่องราง ของขลัง รูปลักษณ์กิ๊บเก๋ถูกใจวัยรุ่น มีลูกค้าคิวยาวรอเป็นชั่วโมง หากไม่ได้เห็นด้วยตา คนแก่ที่ชอบพระเครื่องเก่ามาค่อนชีวิตรุ่นผม คงไม่เชื่อยิ่งมาเจอ สาวสวยทันสมัย ทำงานชายคาเดียวกัน มีของขลังจากวัดพระศิวะ ราคาค่อนแสนแขวนคอ ก็เริ่มทำใจ วัยรุ่นไทยยุคนี้ เขามีความชอบ ความเชื่อเป็นของตัวเองผมใช้กระดาษคั่นหนังสือ หน้าที่มีหัวข้อ ศังกราจารย์ กำจัดพุทธได้อย่างไร ในหนังสือ กาลานุกรม พระพุทธศาสนาในอารยธรรมโลก ของสมเด็จพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ.ปยุตโต) ไว้นาน วันนี้นึกขึ้นได้ จึงเปิดอ่านศังกราจารย์ ปราชญ์ฮินดู นิกายไศวะ ผู้ตั้งลัทธิอทไวตะเวทานตะ (พ.ศ.1331-1363) ผู้มุ่งมั่นกำจัดพุทธศาสนา แต่โดยพื้นฐานเดิม มีอาจารย์ที่ได้หลักความคิดไปจากพุทธศาสนามหายานเขาเที่ยวถกเถียงโต้วาทะไปทั่วทุกถิ่นเฉพาะนอกเมือง ไม่สนใจคนในเมือง ซึ่งตอนนั้นพุทธศาสนาแม้จะเริ่มเสื่อม แต่ยังเข้มแข็งพุทธศาสนามี “สังฆะ” หรือวิหารเป็นศูนย์กลางการศึกษา ศังกราจารย์ ก็ตั้ง “มัฐ” เลียนแบบวัดใหญ่ขึ้นสี่ทิศศาสนาพราหมณ์แต่เดิมมา ไม่มีคณะนักบวช เพราะพราหมณ์มีวรรณะสูง อยู่ในบ้านมีครอบครัว แม้ในพระเวทจะมีคำ “สังฆะ” บ้าง ก็หมายถึงการประชุมพบปะแต่ละครั้ง มิใช่เป็นการมีชีวิตชุมชน เหมือนที่ศังกราจารย์ตั้งเวลานั้น พระสงฆ์ในพุทธศาสนามากระจุกกันอยู่แต่ในเมืองใหญ่ๆ ปล่อยให้ชนบทถิ่นห่างไกลอ่อนแอ พระไม่มีความรู้ รูปร่างเป็นพระ แต่ความรู้ไม่เป็นพุทธวัดฮินดูที่จัดตั้ง เน้นชนบทก็มีกำลัง และได้รับความนิยม ถึงกับค่อยๆเปลี่ยนหรือกลืนวัดพุทธไปเป็นวัดฮินดูพวกไศวะสายศังกราจารย์ ได้ความคิดเรื่องนารายณ์ปางพุทธาวตาร-มายาโมหะ จากที่พวกนิกายไวษณพทำไว้ ในฐานะที่พวกตนเป็นปฏิปักษ์กับพวกไวษณพ ก็เลยสร้างเรื่อง พระศิวะอวตารขึ้นมาให้ตีทั้งพุทธศาสนา และตีทั้งพวกไวษณพไปพร้อมๆกันศังกราจารย์แต่งคัมภีร์ศังกรทิควิชยะว่า เหล่าเทพยดามาร้องทุกข์ต่อองค์พระศิวะเป็นเจ้าว่า พระวิษณุได้เข้ามาสิงร่างของพระพุทธเจ้า แล้วดำเนินการให้ประชาชนดูหมิ่นพราหมณ์รังเกียจระบบวรรณะ และละเลิกบูชายัญ ทำให้เหล่าเทพยดาไม่ได้รับเครื่องเซ่นสังเวย ขอให้พระองค์ช่วยพระศิวะจึงได้อวตารลงมา เป็นศังกราจารย์ เพื่อกู้คำสอนของพระเวท ทำให้การบูชายัญ และระบบวรรณะกลับฟื้นคืนมานอกจากเที่ยวโต้วาทะ ศังกราจารย์ และกุมาริละผู้ช่วย ได้เที่ยวชักจูงกษัตริย์และผู้มีกำลังทรัพย์ให้เลิกอุปถัมภ์บำรุงพระพุทธศาสนา ถึงระยะนี้ พุทธศาสนาอ่อนกำลังมาก จนจะถูกกลืน เข้าไปในศาสนาฮินดูพุทธคยา สถานที่ตรัสรู้ ถูกยึดไปเป็นวัดของฮินดู เหลือรุ่งเรืองอยู่เฉพาะในเขตอำนาจของราชวงศ์ปาละ ซึ่งก็จะสูญสิ้นอำนาจในไม่ช้าอ่านถึงตอนนี้ผมยิ่งเข้าใจ อำนาจรัฐผูกพันกับความมั่นคงของศาสนายุคนี้หากมีศังกราจารย์จำแลงมารุกราน เรามีพระเก่งๆดีๆ เป็นกำแพงป้องกันเจอสองมหาสมปอง ไพรวัลย์ ด่านแรก ก็คงกระเจิง.กิเลน ประลองเชิง