76 ปี “พี่ใหญ่” บูรพาพยัคฆ์ 11 ส.ค.64 ครบรอบวันเกิดปีที่ 76 ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ“พี่ใหญ่” แห่งบูรพาพยัคฆ์ อันประกอบไปด้วยสามพี่น้องคือ พล.อ.ประวิตร พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีมหาดไทย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกลาโหมนี่คือขุมกำลังอำนาจสูงสุดของการเมืองไทยในปัจจุบันนับแต่ “ยึดอำนาจ” มาตั้งแต่ปี 57 ถือว่ายาวนานมากเป็นรัฐบาลในนาม คสช.ระยะหนึ่ง จากนั้นก็ลอกคราบเป็นรัฐบาลจากการเลือกตั้งว่าไปแล้วการเดินหน้าทางการเมืองมาได้อย่างยาวนานนั้นก็เพราะมีการดำเนินการอย่างมีแผนที่ค้นคิดขึ้นมาเป็น “โมเดล” ทางการเมืองอีกรูปแบบหนึ่งนอกจากนั้นความกลมเกลียวในหมู่ผู้มีอำนาจก็เป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้รักษาอำนาจเอาไว้ได้อย่างมั่นคงแม้ปัจจุบันกำลังเจอศึกหนักรอบทิศก็ตามแต่ความที่ศูนย์อำนาจใหญ่ที่มีความเป็นปึกแผ่นด้วยการแบ่งงานกันทำ แบ่งบทกันเล่น จึงมีความแข็งแกร่งทะลุทะลวงได้ยากอีกทั้งสถานการณ์บ้านเมืองที่เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนอาจจะคนส่วนหนึ่งคิด แต่ก็ไม่มีใครกล้าเมื่อมีการเสนอให้มีการ “ปฏิรูปสถาบัน”เล่นเอาสถานการณ์การเมืองเข้าสู่หัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญอะไรที่ไม่เคยได้เห็นไม่เคยได้เจอก็ปรากฏขึ้นเป็นการต่อสู้ที่แหลมคมยิ่งรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยืนหยัดเลือกข้างอย่างชัดเจนและพร้อมปกป้องอย่างเต็มที่ทำให้หลุดพ้นภาวะ “แตกหัก” มาได้แม้ทุกวันนี้ยังมีความพยายามที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง แต่ก็ยากขึ้นเมื่ออีกฝ่ายก็เดินใหม่ยึด “มวลชน” เป็นพลังสำคัญอย่างน้อยก็สบายใจได้ระดับหนึ่ง เมื่อมีอำนาจในมือผ่านรัฐบาล “ประยุทธ์” ที่จะต้องร่วมมือร่วมใจกันอย่างเต็มที่ยิ่งใกล้จะครบเทอม 4 ปี ซึ่งจะต้องเลือกตั้งกันใหม่การเตรียมการเพื่อถือครองอำนาจรัฐต่อไป จึงมีความสำคัญยิ่ง จึงต้องชนะการเลือกตั้งและตั้งรัฐบาลใหม่“พลังประชารัฐ” จึงต้องเป็นแกนหลักต่อไปให้ได้อีกทั้งจะต้องหาพรรคการเมืองเข้ามาร่วม เพราะลำพังพรรคเดียวไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ ถ้าเป็นไปได้พลังประชารัฐ ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ และชาติไทยพัฒนา 4 พรรคนี้จับมือกันเพื่อเป็นรัฐบาลต่อไป จึงเป็นหนทางดีที่สุดภายใต้ “ร่มธง” อำนาจที่ 4...“สายล่อฟ้า”