เรื่องราวลึกๆซ่อนเร้นมากมายสมัยโบราณที่ผู้รู้บันทึกไว้ในสารานุกรมวัฒนธรรมภาคใต้ พ.ศ.2529 10 เล่มใหญ่ ค้นหาด้วยการเรียงตามลำดับอักษร ต้องเปิดอ่านไปเรื่อยๆไม่มีสารบัญวันนี้ผมเจอเรื่องวัดโฉลก การกำหนดขนาด ซึ่งเป็นความนิยมของคนสมัยหนึ่ง จึงอยากบันทึกไว้สำหรับพ่อค้าแม่ขายที่ต้องหาบคอนสินค้าเร่ขาย ก็ควรเรียนรู้ เรื่องโฉลกคานหาบโฉลกคานหาบคือการนับข้อไม้ไผ่ที่ทำคาน เมื่อเริ่มนับก็ต้องบริกรรมสี่คำ คานแคน ยากแค้น มั่งมี ศรีสุข เลือกตัดข้อสุดท้ายให้ลงคำที่เป็นมงคลการวัดโฉลกเป็นเคล็ดในการสร้างขวัญกำลังใจ เช่น แม่ค้าที่ได้ไม้คานโฉลก “มั่งมี” ก็จะมีกำลังใจในการทำมาค้าขาย ย่อมเป็นประโยชน์แก่ชีวิตการค้านักเลงรุ่นโบราณสมัยหนึ่งนิยมการถือไม้เท้า โฉลกไม้เท้าใช้มือข้างหนึ่งของผู้จะใช้ กำวัดตอนหัวไม้เท้า แล้วบริกรรมในใจ หรือจะกล่าวออกมาดังๆก็ได้คำแรก เสือเว เอามืออีกข้างกำวัดต่อไป จระเข้วา กำที่สาม ยักษ์แยกเขี้ยว กำที่สี่ เคี้ยวฟัน บริกรรมสลับกันไปจนกระทั่งสุดปลายไม้เท้าถ้าลงคำว่า เสือเว หรือจระเข้วา ท่านว่าเสือจะหนีเข้าป่า หรือจระเข้จะหนีลงน้ำถือว่าดีแต่ถ้าลงอันดับสาม ยักษ์แยกเขี้ยว หรืออันดับสี่ เคี้ยวฟัน ถือว่าไม่ดี เอาไม้เท้าไปใช้จะทำให้เกิดโชคร้ายนักเลงไม้ตะพดใช้อีกวิธี นับตาไม้ เริ่มต้น กูตีมึง มึงตีกู สลับกันไป ถ้าตกคำกูตีมึง ถือว่าใช้ได้ ถ้าตกมึงตีกู ถือว่าไม่ดี ต้องตัดส่วนนั้นออกโฉลกปืนที่ใช้เป็นอาวุธ หรือคันกระสุนที่ใช้ล่าสัตว์ ใช้หัวแม่มือวัดกะความยาวของลำกล้องปืนหรือคันกระสุน ท่านให้เลือกบริกรรมสองวิธี วิธีแรกเป็นภาษาบาลี ชยะกัง วิวาทัง มรณัง สุขขังหรือบริกรรมภาษาไทย เข้าป่าต้องหิ้ว เดินตัวปลิวกลับบ้าน เนื้อเค็มเต็มชาน ถึงวันยิงก็ตาย ไม่ยิงก็ตายถ้าตกอันดับหนึ่งหรืออันดับสอง เจ้าของจะไม่เอาไว้ใช้ เพราะคำว่า ชยะกัง หรือวิวาทัง หรือเข้าป่าต้องหิ้ว เดินตัวปลิวกลับบ้าน ความหมายก็บอกอยู่แล้วว่าเข้าป่าไม่ได้อะไร แบกหรือถือไปเมื่อยมือเปล่าๆแต่ถ้าตกสาม มรณัง หรือเนื้อเค็มเต็มชาน พวกพรานจะถือว่าอาวุธของเขา “หมวย” หมายความว่าโชคดีนักคุณสมพงษ์ นาควิเชียร ผู้บันทึกเรื่องนี้บอกว่า การวัดโฉลกจะให้คุณจริงอย่างที่เชื่อถือหรือไม่ เป็นเรื่องพิสูจน์ไม่ได้ แต่ก็เป็นความเชื่อถือที่กระทำสืบต่อๆกันมาผมจงใจเอาเรื่องนี้มาขยายต่อก็เผื่อว่าผู้หลักผู้ใหญ่ที่กำลังลังเลกับการเลือกใช้คน หลายคนที่ต้องเลือกก็ล้วนแต่เป็นคนเก่งระดับเทพมารสะท้านภพ จนยากกับการตัดสินใจจะปรับวิธีวัดโฉลกไปใช้เลือกคนก็น่าจะได้วัดโฉลกไม้ตะพดน่าจะดีกว่า เริ่มบริกรรมกูตีมึง มึงตีกู คนไหนลงล็อกมึงตีกู ก็น่าเชื่อว่าได้คนไม่ซื่อ คนอกตัญญู ขืนเลือกไว้ใช้ก็คงไม่นานส่วนคนที่ลงโฉลกกูตีมึง ก็แสดงว่าเป็นคนหัวอ่อน สอนง่าย ให้งานไปทำในสภา เวลาจะยกมือก็ต้องขนเงินไปจ้าง หรือออกอาการตีรวนกวนเกมให้เหนื่อยโดยใช่เหตุมีคนจับความนายกฯประยุทธ์หลุดประโยคยังสู้ไหว แสดงว่าเจอโฉลกเลือกคนใช้ไม่เป็นมงคล.กิเลน ประลองเชิง
