คำกล่าว ผู้ชนะเป็นเจ้า ผู้แพ้เป็นกบฏ ทำให้ผมนึกถึง พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ตอนถูกคุมตัวในห้องขังตำรวจสันติบาล เวลานั้นอดีตนายกฯฉายา “อินทรีแห่งบางเขน” อยู่ในเกมการเมืองฝ่ายแพ้ เจอข้อหากบฏภาพจำฝังใจ ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย ก็แค่อาหารในถาดที่ทางบ้านจัดส่งไปให้ ปิดคลุมด้วยพลาสติกบางใส...ช่วงต้นๆ รัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ราวปี 2523-25 นั้น คนไทยทั่วไปยังไม่คุ้นกับการใช้พลาสติกเหตุที่จำได้ เพราะหัวข่าวไม่รู้จักทักว่า “มันอะไรของมึง”ข่าวกบฏยังกรุ่น นายกฯเปรม ภารกิจไปพุทธมณฑล ระหว่างเดินชมต้นไม้...ป๋าก็ชี้ไปที่ต้นไม้ต้นหนึ่ง “ต้นนี้ พี่เกรียงปลูก”สุ้มเสียงท่าทีที่พูดถึงนายกฯรุ่นพี่ ไม่มีวี่แววความบาดหมาง ฟังแล้วอิ่มอุ่นด้วยสายใยไมตรีของพี่ๆน้องๆการเมืองปียุคพลเอกเปรมเจอกบฏหลายครั้งจากคนใกล้ เริ่มแต่พี่ไปถึงน้องไปถึงยังเติร์กหลายคนที่ถูกเรียกลูกป๋า และต่อมาไม่นาน กบฏเหล่านั้นก็ได้รับเงื่อนไขผ่อนปรนพ้นโทษผมเริ่มเรียนรู้ว่า การเมืองเปลี่ยนข้าง น้องพี่เพื่อนได้ แต่ความเป็นพี่น้องของทหารยังคงที่ผมไม่ใช่นักข่าวการเมือง แต่ก็เลือกจำหลายเรื่องที่พลเอกเปรมเล่นบทผู้ให้ได้ยินเสียงบ่นกับคนใกล้ชิด ถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ป๋าไม่มีเงินไปซื้อใคร เพราะป๋าจน แต่ภาพของป๋าที่ออกมา เป็นคนร่ำรวยมากที่เกิดจากการให้ โดยเฉพาะการให้อภัยปลายรัฐบาลป๋า คุณวีระ มุสิกพงศ์ นักการเมืองหนุ่ม เจอข้อหาสมัยนี้เรียก ม.112 ถึงเข้าคุก ก็พอรู้กันโดยทางการเมือง คุณวีระเป็นนักการเมืองคนหนึ่งที่ถูกเรียกลูกป๋าเมื่อถึงเวลาที่พลเอกเปรมตัดเยื่อใยไม่รับตำแหน่งนายกฯที่พรรคการเมืองหลายพรรคพร้อมใจกันไปเชิญ โดยใช้คำพูดว่า “ผมพอแล้ว”ภาพความยิ่งใหญ่ของพลเอกเปรม ก็ยิ่งฉายประกายเจิดจ้าเรื่องที่ต้องจำ ก่อนลาจากเก้าอี้นายกฯ ก็มีข่าว คุณวีระได้รับนิรโทษกรรม พ้นคุกมาได้ ความจริงเงื่อนแง่ทางกฎหมายจะเป็นเช่นไร แต่ชาวบ้านเชื่อกันว่าเกิดจากทานบารมีของป๋าเรื่องที่ผมจำเป็นเรื่องเล็กมากๆ ถ้าหากจะไปเทียบกับ นโยบาย 66/2533–2535 ปัญหา ผกค. ผู้ก่อการร้ายไทย ขจก. ขบวนการโจรก่อการร้าย สามสี่จังหวัดใต้ และปัญหา จคม.โจรจีนคอมมิวนิสต์ ที่สั่งสมบ่มเพาะมานานหมดสิ้นไปทันทีเพราะนโยบายนิรโทษกรรมคนอย่างพลเอกเปรมคนไทยเรียกว่า เป็นคนมีเมตตา พุทธศาสนา แปลคำเมตตาว่า ความรัก ซึ่งหมายกว้างไกลไปถึง ความหวังดี ความปรารถนาดีต่อผู้อื่น ความรู้สึกที่เป็นมิตรเมตตาเป็นภาวะของจิตที่ปราศจากความโกรธ ความอาฆาตมาดร้ายบทสรุปของ “เมตตา” เป็นคุณธรรมของผู้นำ ทำให้เกิดความเคารพรักนับถือและความจงรักภักดีจากผู้น้อยคนเจริญเมตตา สีหน้าจะแช่มชื่นเบิกบาน นอนหลับสบาย ไม่ฝันร้าย ไปไหนมาไหนก็จะปลอดภัยทุกเมื่อผมเห็น ส.ว.คำนูญ สิทธิสมาน เสนอนิรโทษกรรม ผู้รับโทษการเมือง ใบหน้าผ่องใส ก็อยากเห็นอีกหลายๆคน โดยเฉพาะคนระดับผู้นำ ผ่องใส คนที่เข้าคุกแล้ว และคนที่รอคิวเข้าคุก ก็จะพลอยผ่องใสอานิสงส์บารมีทาน พลเอกเปรมอยู่ยั้งยืนยงสง่างามจนวาระสุดท้าย...จะมีใครเดินตามรอยเท้าท่านบ้างชาวบ้านกำลังตั้งตาคอย.กิเลน ประลองเชิง