“นิวนอร์มอล” กระแสใหญ่จับให้ติดคิดให้เป็นจะนำพาไทยไปสู่ชาติพัฒนาได้ แต่ก็ต้องขยับปรับเปลี่ยนกันทั้งระบบ นายกฯ จึงต้องพิสูจน์ความสามารถในฐานะผู้นำประเทศให้ปรากฏข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้ชีพจรลงเท้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เดินสายพบสื่อมวลชนบุกถึงสำนักงานกันเลยทีเดียวแบบว่ามาแนว “นิวนอร์มอล” เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนับแต่ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ มาตั้งแต่ คสช.จนมาถึงยุคเลือกตั้ง ก็เพิ่งจะได้เห็นตัวตนจริงๆก็ครานี้แหละ...ที่ผ่านมาเห็นกันผ่านจอทีวีเท่านั้นว่าไปแล้วต่างฝ่ายต่างก็มีภาระหน้าที่ที่ต่างกัน แต่ภารกิจหรือเนื้อหาสาระก็เพื่อวัตถุประสงค์ไม่ต่างกัน“รัฐบาล” มีหน้าที่บริหารประเทศเพื่อประโยชน์ของชาติและประชาชน“สื่อ” ก็มีหน้าที่รายงานข่าวสารนำเสนอถ่ายทอดไปสู่ประชาชนด้วยข้อเท็จจริง รวดเร็วและถูกต้องตรวจสอบ เสนอแนะ วิพากษ์วิจารณ์ด้วยเคารพซึ่งกันและกันรัฐบาลดี สื่อดี ประโยชน์ก็จะตกแก่ประชาชนและประเทศชาติการได้พบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน มีแต่ได้ประโยชน์ด้วยใจที่เปิดกว้างนำมาซึ่งปัญญาที่ได้กันทั้งสองฝ่ายยิ่งวันนี้ประเทศชาติเกิดปัญหาใหญ่ที่จะต้องช่วยกันแก้ไขร่วมกันทุกฝ่ายจึงจะฝ่าพ้นไปได้ ไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่านั้นมีคำถามจากนักข่าวอาวุโสของ “ไทยรัฐ” ท่านหนึ่งด้วยความเป็นห่วงเป็นใยบ้านเมือง และเสนอความเห็นต่อปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองแคบเข้าก็คือ ระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายค้านทำไมท่านนายกฯ ไม่พูดคุยกับฝ่ายค้านบ้างล่ะ?พล.อ.ประยุทธ์รับฟังด้วยความสนใจ พร้อมกับจดบันทึกในสมุดที่นำติดตัวอยู่ตลอดเวลา พร้อมกับคิดและบอกว่าก็เป็นแนวทางที่ดี น่าสนใจจะนำไปหาวิธีเพื่อดำเนินการต่อไปนอกจากนั้นยังเน้นย้ำว่า ต่อนี้ไปการบริหารราชการแผ่นดินต่อไป ได้วางแนวทาง “นิวนอร์มอล” เพื่อให้มีแนวปฏิบัติไปในทางเดียวกันแน่นอนว่าการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกันนั้นมุ่งไปที่ปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งจำเป็นที่จะต้องร่วมกันแก้ไขในลักษณะ “วาระแห่งชาติ”เพราะได้รับความเดือดร้อนกัน ถ้วนหน้าทั้งระบบ แม้กระทั่ง “สื่อ” ก็อยู่ ในแถวนี้ด้วยไม่ต่างไปจากองค์กรอื่นๆหากเศรษฐกิจฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้เป็นอย่างดีก็จะได้รับผลพวงร่วมไปด้วย...หากย้อนกลับไปที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ต้องถือว่ารัฐบาลสามารถแก้ไขปัญหาทั้งการป้องกัน และรักษาได้เป็นอย่างดีการตั้ง ศบค.ขึ้นเป็นองค์กรหลักในการบริหารจัดการถือว่าสำคัญยิ่งด้วยแนวคิดนี้ก็เลยมีการเสนอว่า ทำไมรัฐบาลไม่ตั้งองค์กรแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ในรูปแบบ ศบค.ขึ้นมาล่ะ...รุ่งขึ้นอีกวันจากการประชุมทีมที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ ซึ่งมีภาคเอกชนเข้าร่วมด้วย โดยนายกฯนั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน“ศูนย์ฟื้นฟูเศรษฐกิจ” ก็เลยเกิดขึ้นมาโดยพลันก็หวังว่าจะดำเนินการ เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล“การบ้าน-การเมือง” เป็นเรื่องของทุกคนไม่ใช่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด!!!“ลิขิต จงสกุล”