โพลการเมืองหลายสำนักสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ต่อสถานการณ์บ้านเมืองที่กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อไหนจะพิษจาก การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ไหนจะ พิษเศรษฐกิจตกต่ำ ที่ว่ากันว่ารุนแรงกว่า วิกฤติเศรษฐกิจในปี 2540 หลายเท่าประเด็นคำถามที่ว่า ถ้ามีการเลือกตั้งในตอนนี้ จะเลือกพรรคการเมืองไหน คนส่วนใหญ่เลือก พรรคก้าวไกล รองลงมาเป็น พรรคเพื่อไทย ตามด้วย ประชาธิปัตย์ และ พลังประชารัฐ ซึ่งถ้าดูจากจำนวนค่าเฉลี่ยแล้ว ก้าวไกล กับ เพื่อไทย นำโด่ง พรรคการเมืองอื่น เป็นการบ่งชี้ว่า ชาวบ้านเลือกข้างชัดเจน สอดคล้องกับโพลที่สำรวจความเห็นชาวบ้านก่อนหน้านี้ ให้คะแนนนิยม ฝ่ายค้าน มากกว่าฝ่ายรัฐบาลอาการน่าเป็นห่วงมากที่สุดน่าจะเป็น พรรคประชาธิปัตย์ คะแนนนิยมลดลงฮวบฮาบ ฐานเสียงภาคต่างๆที่เคยเป็นพื้นที่ของ ประชาธิปัตย์ ถูกตีแตกหมดเช่นเดียวกับ พรรคพลังประชารัฐ ถึงการเลือกตั้งซ่อมในระยะหลังๆ จะชนะคู่แข่งแบบขาดลอย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า คะแนนนิยมของรัฐบาล จะเพิ่มขึ้นหรือกรณีที่โพลสำรวจความเห็นประชาชนต่อความนิยมของ ผู้นำประเทศ ตำแหน่งนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเป็นอันดับหนึ่งชนิดไม่มีคู่แข่ง แต่เมื่อวัดจากความนิยมในตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ เอง กลับลดลงเรื่อยๆ นอกจากนี้ กรณีของ การเลือกตั้งซ่อม กับ เลือกตั้งสนามใหญ่ จะมีปัจจัยและสิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมือนกันทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับ ผลงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ และ สถานการณ์บ้านเมือง ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งมาประกอบด้วย ถ้ามีผลงานเข้าตาชาวบ้าน จะเป็นคะแนนบวกให้กับรัฐบาลเป็นเท่าตัว แต่สถานการณ์ในปัจจุบันค่อนข้างจะเสี่ยงทั้งความตกต่ำทางเศรษฐกิจ จากวิกฤติไวรัสโควิด-19 จากสงครามการค้าโลกรอบใหม่ภายในระยะเวลา 2 ปีนี้ ถ้าประคับประคองให้ดี สามารถฟื้นวิถีปากท้องของชาวบ้าน ได้บรรเทาความเดือดร้อน ผ่านวิกฤติไวรัสโควิด–19 ไปได้ ก็จะเป็นคะแนนบวก แต่ถ้าไม่ผ่าน โอกาสที่ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จะไปต่อเหลือน้อยเต็มที ท้ายที่สุดจะนำไปสู่วิกฤติการเมืองระลอกใหม่ต่อมาประเด็น การปรับ ครม. ส่วนใหญ่ ชาวบ้านต้องการให้มีการปรับ ครม. และ มีการล้างไพ่ใหม่ ปรับใหญ่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทั้งเศรษฐกิจและการเมือง ปรับใหญ่ในที่นี้คงไม่ใช่เฉพาะทีมเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ทุกตำแหน่งทุกกระทรวง ที่ต้องการมืออาชีพและถูกฝาถูกตัวจริงๆอย่าทำเป็นลูบหน้าปะจมูกไม่ต้องไปเกรงอิทธิพลจากหน้าบ้านหลังบ้านใดๆทั้งสิ้น เข้าใจ พล.อ.ประยุทธ์ ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะองค์ประกอบของประชาธิปไตยขึ้นอยู่กับเสียงส่วนใหญ่ของ ส.ส. ถ้าไม่เอานักการเมืองหรือ ส.ส.เลยก็อยู่ไม่ได้ ถ้าเอาแต่ ส.ส.ทั้งหมดก็บริหารงานไม่ได้ หรือถ้าเอานักวิชาการทั้งหมดก็ไปไม่รอด จะทำเป็นลอยตัวปัญหายิ่งบานตะไทภาวะผู้นำพิสูจน์กันตรงนี้แหละ.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.th
