กลุ่มก๊วนการเมืองในพรรคพลังประชารัฐเพิ่งฉลองการยึดพรรคสำเร็จ ชู “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค อวยให้เป็นผู้อยู่เหนือพรรค หวังยกให้เป็น “พระประธาน” เรื่องในพรรคจะได้ไปจัดการกันเองเมื่อยึดพรรคเสร็จสรรพ คุณอนุชา นาคาศัย เลขาธิการพรรคคนใหม่ก็ประกาศเปิดตัว “ทีมเศรษฐกิจชุดใหม่” ทันที นำโดย คุณนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค โฆษกรัฐบาล เปิดตัวไปไม่ทันข้ามวันก็เจอเสียงยี้กระหึ่มโลกโซเชียล งานโฆษกรัฐบาลยังทำไม่ได้ดี จะเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ นำประเทศฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจไปได้อย่างไร ในที่สุดคุณอนุชา ต้องออกมาแถลงปฏิเสธแค่ให้คิดนโยบายพรรค ไม่ใช่ผู้คุมทีมเศรษฐกิจรัฐบาลคุณอนุชา รีบออกมาปฏิเสธ คงไม่ใช่เพราะถูกกระแสโซเชียลกระหน่ำอย่างเดียว แต่คงเพิ่งนึกได้ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจรัฐบาลตัวจริงคนปัจจุบัน คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ใช่ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ งานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ คงมีเคืองเล็กน้อย ยึดพรรคไปปุ๊บก็จะปลดนายกฯจากหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันที วันจันทร์ที่ผ่านมา “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร เลยแจ้งงดทุกภารกิจในทำเนียบรัฐบาลกะทันหันวันนี้เศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญกับคลื่นยักษ์สึนามิ และพายุใหญ่ จากการปิดเมือง ปิดประเทศ ปิดเศรษฐกิจ ทำให้เศรษฐกิจไทยปีนี้ดิ่งเหว จีดีพีติดลบกว่า 8% หนักกว่ายุคต้มยำกุ้ง รัฐบาลต้องกู้เงิน 1 ล้านล้านบาท มาช่วยพยุงเศรษฐกิจ แบงก์ชาติปล่อยซอฟต์โลนอีก 5 แสนล้านบาท ช่วยอุ้มเอสเอ็มอี ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐศาสตร์ ประเมินว่ารัฐบาลต้องใช้เงินอีกกว่า 2 ล้านล้านบาท ใน 2 ปีข้างหน้าจึงจะกอบกู้เศรษฐกิจคืนมาได้ดังนั้นทีมเศรษฐกิจใหม่จึงต้องเป็นทีมเศรษฐกิจที่สามารถ “สร้างความเชื่อมั่น” ให้นักลงทุนมากกว่าชุดปัจจุบัน เห็นชื่อแล้วไม่ร้องยี้ ต้องมีความรู้ ความสามารถ มีวิสัยทัศน์ คิดนอกกรอบได้ มีคอนเนกชันในประเทศต่างประเทศ ไม่ใช่มือใหม่ทางการเมืองอย่าง คุณนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกรัฐบาล ที่ผ่านมาก็ไม่ค่อยมีบทบาทมากนัก ตอบคำถามนักข่าวไม่ได้ทุกเรื่อง แม้แต่การแถลงข่าวโควิด-19 ของ ศบค. พล.อ.ประยุทธ์ ก็แต่งตั้งให้ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน เป็นโฆษก ศบค.คนเก่งทางเศรษฐกิจในเวลานี้ไม่ใช่หาได้ง่ายๆ คุณปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย ประธานสมาคมธนาคารไทย ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล อดีตผู้ว่าการแบงก์ชาติ ประธานกลุ่มเซ็นทรัลรีเทล ที่มีข่าวว่าถูกทาบทามเป็น รัฐมนตรีคลัง ต่างก็ปฏิเสธไปแล้วภายใต้สถานการณ์วิกฤติเศรษฐกิจการเงินที่มองไม่เห็นฝั่งอย่างนี้ จะมีคนเก่งคนดีที่ไหนกล้าโดดเข้ามา จะมีใครกล้าเอาชื่อเสียงและอนาคตไปเสี่ยงกับตำแหน่งรัฐมนตรีที่ไม่มีความแน่นอน ขนาด 4 กุมารผู้ก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐ ยังถูกกลุ่มก๊วนการเมืองในพรรคถล่มถอดออกจากตำแหน่ง ถ้าเป็น “คนนอก” หัวเดียวกระเทียมลีบ จะทำงานในตำแหน่งรัฐมนตรีคลังรอดได้อย่างไร คนเก่งเขาคิดปัญหานี้ออกอยู่แล้วการกดดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ ปรับ ครม.เศรษฐกิจ บีบให้ตัดแขนตัดขามือเศรษฐกิจของตัวเอง หวังให้ทีมเศรษฐกิจใหม่บิ๊กป้อมเข้ามาแทน เช่น คุณนฤมล จะทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ทำงานยากขึ้นกว่าเดิม ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ก็ใช้บริการ ดร.สมคิด ดร.อุตตม และดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรี อว.มาตลอด เพราะนายกฯไม่เชี่ยวชาญเรื่องเศรษฐกิจการเงินมองไปในพรรคพลังประชารัฐ ผมยังมองไม่เห็นใครที่เก่งกว่า ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ดร.อุตตม สาวนายน เรื่องเศรษฐกิจการคลังเป็นเรื่องละเอียดอ่อน โดยมี “ความเชื่อมั่น” เป็นตัวแปรสำคัญ ถ้าตั้งทีมเศรษฐกิจใหม่ขึ้นมาแล้ว “คนไม่เชื่อมั่น” ก็มีหวังพังกันทั้งประเทศ แม้นายกฯจะมีกองกำลัง 4 เหล่าทัพหนุนหลัง ก็ไปไม่รอดแน่นอน.“ลม เปลี่ยนทิศ”