คุณสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการ พรรคพลังประชารัฐ แกนนำจัดตั้งรัฐบาล เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวที่พรรคว่า การจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีของพรรคเรียบร้อยแล้ว โควตารัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดอยู่ที่นายกรัฐมนตรีตัดสินใจ หลังจากที่พรรคร่วมทยอยส่งรายชื่อมาให้นายกฯ ใครจะได้อยู่ในตำแหน่งใดต้องรอดู คาดว่าหลังการประชุมสุดยอดอาเซียน (20-23 มิถุนายน) ทั้งหมดจะชัดเจน เชื่อว่านายกฯรู้จักพวกเราเป็นอย่างดี และจะพิจารณาด้วยดุลพินิจ ซึ่งต้องใช้เวลาสรุปจากคำพูดของ คุณสนธิรัตน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ก็คือ รายชื่อรัฐมนตรีทุกคนทุกพรรค จะได้เป็นรัฐมนตรีหรือไม่ อยู่กระทรวงไหน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็น ผู้ตัดสินใจ ทั้งหมดเพียงผู้เดียวดังนั้น ครม. ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ 2 ที่จะคลอดออกมาปลายเดือนนี้ จะดีหรือเลว ก็อยู่ที่การตัดสินใจของ พล.อ.ประยุทธ์ เพียงคนเดียว จะไปโทษคนอื่นไม่ได้ เพราะเป็นผู้เช็กประวัติตรวจสอบด้วยตัวเอง การตัดสินใจตั้งรัฐมนตรี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จะสวนทางกับ ข้อเท็จจริงของรัฐมนตรีแต่ละคน และ ความรู้สึกของประชาชนหรือไม่ จะได้เห็นกันในปลายเดือนนี้หรือต้นเดือนหน้ากันแล้วผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะ ไม่ลืมปณิธานของท่าน ตอนลุกขึ้นมา ปฏิวัติรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประกาศ จะปฏิรูปประเทศให้ดีขึ้น สร้างยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ร่างรัฐธรรมนูญปราบโกง อย่าให้มีเสียงนินทาว่า “ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเสียเอง”วันนี้ผมขออัญเชิญ พระบรมราโชวาท ของ พระบาทสมเด็จพระบรม ชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 อันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย ในพิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ณ ค่ายลูกเสือวชิราวุธ วันที่ 11 ธันวาคม 2512 มาเป็นเครื่องเตือนใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อใช้เป็นคู่มือในการตัดสินใจเลือก ครม.ประยุทธ์ 2 ให้ได้คนดีเข้ามาปกครองบ้านเมือง คุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ“...ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครจะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปกติสุขเรียบร้อย จึงไม่ใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมความดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง และ คุมคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้...”ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเตือนผู้บริหารบ้านเมืองว่า การทำให้บ้านเมืองมีความปกติสุขเรียบร้อย นอกจากจะต้อง ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมืองแล้ว ยังต้อง คุมคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจ ซึ่งเป็น “หัวใจ” ของ พระบรมราโชวาท ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะท่องพระบรมราโชวาทนี้จนขึ้นใจแล้ว เพราะทำรายการ “ศาสตร์พระราชา” มานานถึง 5 ปีแล้ว มีความเข้าใจและซาบซึ้งกว่าใครทุกคน คงไม่ทำให้ประชาชนทั้งประเทศผิดหวังคุณมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ไปร่วมยกแขนกากบาทประกาศ เจตนารมณ์ต่อต้านการคอร์รัปชันทุกรูปแบบอยู่บ่อยๆ ก็ได้โพสต์ในเฟซบุ๊กเรื่อง แย่งเก้าอี้–แย่งอะไร? ว่า“กระทรวงเกรด A ที่นักการเมืองแบ่งสรรกันอยู่ ไม่ได้แปลว่าต้องมีงบประมาณมากเท่านั้น เห็นได้จากกระทรวงศึกษาฯ ที่มีงบประมาณสูงสุด แต่ไม่เป็นที่สนใจ เพราะที่เขาต้องการคือกระทรวงที่ทำให้มี “โอกาส” ได้สิ่งเหล่านี้มากที่สุด 1.ร่ำรวย 2.คะแนนนิยม3.อำนาจ จากการคุมกลไกรัฐ โดยเฉพาะ ทหาร ตำรวจ มหาดไทย คลัง 4.ดูแลพวกพ้อง...“พลังงาน” และ “อุตสาหกรรม” เป็นสองกระทรวงที่มีงบประมาณน้อยที่สุด แต่เป็นที่หมายปองมากที่สุด เพราะมีอำนาจมาก แถมมีรัฐวิสาหกิจใหญ่เงินเยอะอยู่ในมือ อย่าง ปตท. การไฟฟ้าฝ่ายผลิต ชาติของเราคงเจริญกว่านี้ ถ้านักการเมืองหันมาพูดว่า อยากบริหารงานกระทรวงที่สร้างอนาคตให้ประเทศมากที่สุด”อนาคตประเทศไทยจะดีหรือไม่ อยู่ในมือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพียงคนเดียวแล้ว โปรดตัดสินใจให้ดีก่อนเลือก อย่าให้เหมือนกรณี ส.ว.สำรองอีก.“ลม เปลี่ยนทิศ”