คณะนายตำรวจไทย นำโดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ที่ยกขบวนบินไปเยอรมนี เพื่อจับตัวอดีตพระพรหมเมธี ผู้ต้องหาคนสำคัญในคดีเงินทอนวัด กลับมาดำเนินคดีในไทยโดยเร็ว อาจต้องผิดหวัง เพราะทำท่าจะเป็นเรื่องยาว แม้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าจะรู้ผลภายใน 3 วัน ว่าจะได้ตัวผู้ต้องหาเมื่อใดเรื่องนี้อาจกลายเป็นหนังเรื่องยาว เพราะมีรายงานข่าวว่าผู้ต้องหาได้ขอลี้ภัยในเยอรมนี ซึ่งมีกฎหมายให้ต่างชาติขอลี้ภัยด้วยเหตุผลหลายประการ เช่น ขอลี้ภัยทางการเมือง ขอลี้ภัยในฐานะผู้ลี้ภัย ขอรับความคุ้มครองบางส่วน และขอคุ้มครองเพื่อไม่ให้ถูกส่งตัวไปยังประเทศต้นทาง อดีตพระพรหมเมธีอาจอ้างเหตุผลทางการเมืองหรือศาสนาอาจจะอ้างว่าถูกกลั่นแกล้งดำเนินคดี ถูกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม ด้วยเหตุผลทางการเมืองหรือศาสนา โดยละเมิดพื้นฐานความเป็นมนุษย์ อาจถูกจับสึก เช่นเดียวกับอดีตพระเถระหลายรูป และเยอรมนีไม่จัดว่าไทยอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีความปลอดภัยตามหลักเกณฑ์เยอรมนี และพิจารณาว่าผู้ต้องหามาจากประเทศประชาธิปไตย หรือประเทศเผด็จการสถานะของอดีตพระพรหมเมธีขณะนี้ ถ้ายึดตามหลักวินัยสงฆ์และกฎหมายบ้านเมืองอาจถือว่ายังเป็น “พระภิกษุ” อยู่ เพราะยังไม่มีองค์กรใดใช้อำนาจจับสึก ฐานทำผิดพระวินัยร้ายแรง เช่น ปาราชิก เพียงแต่ถูกถอดสมณศักดิ์ ส่วนคดีอาญาข้อหาทุจริตเงินทอนวัด หรือฟอกเงิน ก็ยังไม่มีคำพิพากษาศาลถึงที่สุดว่าทำผิดจริง จึงมีสิทธิขอลี้ภัยในเยอรมนีเหตุที่เยอรมนียินยอมให้ต่างชาติขอลี้ภัย เพราะประเทศประชาธิปไตยมีกฎหมายคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ทั้งของพลเมืองของตนเองและประชากรทั่วโลก ไม่ให้รัฐบาลเผด็จการกลั่นแกล้งจับกุมดำเนินคดี โดยเฉพาะผู้ที่เห็นต่างจากรัฐบาล ในเรื่องการเมืองหรือศาสนา จึงไม่น่าแปลกใจที่อดีตนายกรัฐมนตรีไทยสองพี่น้องได้รับการลี้ภัยในต่างประเทศอาจจะต้องจากกัมพูชา ประเทศเพื่อนบ้านของเรา ที่ไม่เคร่งครัดในประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน จึงยินยอมให้นายตำรวจไทยตามจับผู้ต้องหา ซึ่งเป็นชาวกัมพูชา และนำตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย ภายในเวลาอันรวดเร็ว เพราะไม่ต้องผ่านกระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ที่จะต้องได้รับความเห็นชอบจากศาล ซึ่งต้องใช้เวลาการขอให้เยอรมนีส่งตัวอดีตพระพรหมเมธีกลับประเทศไทยก็อาจต้องใช้เวลา พล.อ.ประวิตรบอกว่า ตามปกติมีขั้นตอนดำเนินการ 2 เดือน แต่เราขอให้ดำเนินการภายใน 3 วัน และทางการเยอรมนีรับจะดำเนินการ เหตุที่อาจยึดยาวถึง 2 เดือน เพราะผู้ขอลี้ภัยอาจยื่นอุทธรณ์ต่อศาล หากสำนักงานดูแลผู้อพยพและผู้ลี้ภัยปฏิเสธคำขอลี้ภัยของตน.
