ความคิดเห็นของนายตำรวจระดับ ผกก.ขึ้นไปในการปฏิรูปองค์กรตัวเองอีกคำถาม คือ ทำอย่างไรข้าราชการตำรวจจึงจะมีความสุขกับภารกิจผู้พิทักษ์สันติราษฎร์พ.ต.อ.คนเดียวกันมองว่า ดัชนีความสุขตำรวจไทยที่อยู่ในระดับต่ำ สาเหตุสำคัญมาจากปัจจัยสำคัญ ตั้งแต่คุณภาพชีวิต เพราะไม่มีเวลาพักผ่อนตามมาตรฐานการทำงาน สวัสดิการที่พักอาศัยไม่เพียงพอ หรือชำรุดทรุดโทรม สุขภาพและสิทธิในการรับการรักษาพยาบาล เฉพาะโรงพยาบาลของรัฐที่มีขีดจำกัดรายได้ที่ไม่เหมาะสมกับงานเสี่ยงต่อการแสวงหาประโยชน์ในกระบวนการยุติธรรม และต่ำกว่าเป้าในการกวาดล้างอาชญากรรม ไม่มีสิทธิในการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายครอบครัวตามกรอบจำกัดที่กำหนดเป็นมาตรฐานกลาง เช่น โอกาสในการให้บุตรธิดาตำรวจได้ศึกษาในโรงเรียนดีโดยไม่ต้องเสีย “ค่าวิ่งเต้น”เขาเสนอแนวทางการแก้ปัญหาที่น่าจะนำไปสู่การปฏิรูปตำรวจ เริ่มต้น ต้องแก้ไขระบบการบริหารงานบุคคล ก่อน เพราะความทุกข์อันดับแรกๆของตำรวจ คือ “การไม่ได้รับความเป็นธรรม” ในการแต่งตั้งโยกย้ายควรเน้นการวัดความรู้ความสามารถที่เป็นรูปธรรม เช่น การสอบ การดูผลการปฏิบัติงาน การแสดงวิสัยทัศน์ ทว่าหลักเกณฑ์การแต่งตั้งของตำรวจไม่ได้กำหนดกรอบในการใช้ดุลพินิจของผู้บังคับบัญชาในเรื่องเหล่านี้ไว้อย่างเป็นรูปธรรมก่อนแก้ไข “ค่านิยมของตำรวจ” ปลูกฝังความเชื่อว่า เกียรติและศักดิ์ศรี คือ ความสุขที่แท้จริงขณะเดียวกัน ผู้บังคับบัญชาต้องทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี ทั้งในเรื่องการครองตน ครองคน และครองงาน มีคุณธรรมและจริยธรรมในการปฏิบัติงาน ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ต้องทำตัวเป็นผู้บังคับบัญชาของตำรวจทั้งหน่วยงานที่ตัวเองรับผิดชอบไม่ใช่เป็นนายของเพียงบางกลุ่ม บางพวก เลือกสนับสนุนลูกน้องที่ตัวเองสนิทสนม ผูกพันด้วย นำไปสู่วงจร “วิ่งเต้น หาเส้นสาย” ที่ไม่เกิดประโยชน์อันใดต่อประชาชนคำตอบตามคำถาม 2 ข้อหลักที่ พ.ต.อ.คนนี้ส่งไป เพราะเชื่อว่า จะเกิดการเปลี่ยนแปลงวิถีตำรวจไทย ในทิศทางที่ดีขึ้นจากการรับฟังของผู้บังคับบัญชาระดับสูงสุดท้ายละลายหายไปกับความฝัน!!!สหบาท