“รองเต่า” เผยผลการตรวจค้น 11 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ และสุราษฎร์ธานี เครือข่าย “บิ๊กโจ๊ก” อดีตรอง ผบ.ตร. กล่าวหาใช้ทองแท่งหนัก 246 บาท วิ่งเต้นคดีกับกรรมการ ป.ป.ช.หลังรู้ข่าวการเข้าตรวจค้นเจ้าตัวรีบเข้าพบพนักงานสอบสวน เอง ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขอทำคำให้การส่งมาให้ภายหลัง พนักงานสอบสวน บก.ปปป.พิมพ์มือ แจ้งข้อกล่าวหาแล้วปล่อยตัวไป เบื้องต้นตรวจยึดหลักฐานเอกสารจำนวนมาก รวมทั้งทองคำแท่งหนัก 120 บาท จาก 1 ใน 6 ผู้ร่วมขบวนการกรณีคณะทำงานชุดสืบสวนสอบสวน ตร. ที่แต่งตั้งโดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ระดมกำลังตรวจค้น 11 จุดในพื้นที่กรุงเทพมหานครและ จ.สุราษฎร์ธานี หาหลักฐานเครือข่าย พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. ติดสินบนคณะกรรมการ ป.ป.ช.เป็นทองคำแท่ง 246 บาทให้ช่วยเรื่องคดีเมื่อปี 67 หลังรู้ข่าวบิ๊กโจ๊กชิงเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปปป.ถูกแจ้งข้อกล่าวหาความผิดตาม ม.157 เมื่อคืนที่ผ่านมาความคืบหน้าเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 27 ธ.ค. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ฐานะรองหัวหน้าคณะชุดสืบสวนสอบสวนคดีที่ ตร.ตั้งขึ้น เผยทางโทรศัพท์ว่า เมื่อวานนี้คณะทำงานระดมกำลังตรวจค้นหาทรัพย์สิน รวมทั้งพยานหลักฐานเอกสารสำคัญต่างๆทั้งหมด 11 จุด ที่เกี่ยวพันเชื่อมโยงกับคดีติดสินบนกรรมการ ป.ป.ช. จากการตรวจค้นสามารถตรวจยึดทองคำแท่งหนักประมาณ 120 บาท จากบ้านนายสมบัติ ธรธรรม (เคยได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการ ป.ป.ช. แต่ไม่ผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาเมื่อปี 2566) รวมทั้งยึดเอกสารต่างๆจำนวนมากจากหลายสถานที่นำมาตรวจสอบ“ส่วนตัว พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล หรือบิ๊กโจ๊ก อดีตรอง ผบ.ตร. เมื่อคืนเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมให้การปฏิเสธ หลังสอบสวนพิมพ์ลายนิ้วมือเสร็จ เดินทางกลับไปตั้งแต่ช่วงดึกเมื่อคืนแล้ว นอกจากนี้ยังมีนายสมบัติ ธรธรรม ผู้ถูกกล่าวหาอีกราย เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาเมื่อวานแล้วเช่นเดียวกัน” รองเต่ากล่าวด้าน พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป.กล่าวว่า ผลการตรวจค้นเมื่อวาน ขณะนี้ให้พนักงานสอบสวน บก.ปปป.บันทึกรวบรวมรายละเอียดว่า คณะทำงานที่แต่งตั้งจาก ตร.นำของกลางอะไรมามอบให้บ้าง เท่าที่ได้รับรายงานพบว่ามีเอกสารจำนวนมาก รวมทั้งทองคำแท่งประมาณ 120 บาทด้วย ส่วน พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หลังสอบปากคำพนักงานสอบสวนอนุญาตให้กลับได้ โดย พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ขอทำคำให้การส่งมาให้ภายหลัง เช่นเดียวกับนายสมบัติ ผู้ถูกกล่าวหาอีกคน ตำรวจปล่อยตัวไปช่วงตี 3คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 23 ธ.ค. พ.ต.อ.เอกชัย วิเชียร รอง ผบก.สส.ภ.9 ช่วยราชการสืบสวนสอบสวนชายแดนภาคใต้ กับพวกอีก 2 คน เข้าแจ้งความพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปปป.ดำเนินคดีกับ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.157 และข้อหาอื่นๆ เหตุเกิดที่อาคารรัชดาวัน แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม. และลานจอดรถยนต์สมาคมชาวปักษ์ใต้ ถนนกาญจนาภิเษก แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา เมื่อวันที่ 31 ส.ค.2567 ต่อเนื่องวันที่ 1 ก.ย.2567 ผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด 6 คน ประกอบด้วย 1.พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หรือสุรเชษฐ์ หักพาล 2.นายสมบัติ ธรธรรม 3.นายสามารถ หรือเอ็ดเวิร์ด กอนแก้ว 4.นายสรพงษ์ วงศ์สุวรรณ 5.นายเอกวิทย์ วัชชวัลคุ กรรมการ ป.ป.ช. และ 6.นายสุรสิทธิ์ แพเกิดต่อมาเมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 26 ธ.ค. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สั่งการให้คณะทำงานในนามสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เข้าตรวจค้นบ้านพัก อาคารสำนักงาน และอาคารที่มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร.รวม 11 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯและ จ.สุราษฎร์ธานี หลังถูกแจ้งความคดีเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ร่วมกันเป็นผู้ให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงานในตำแหน่งตุลาการ พนักงานอัยการ ผู้ว่าคดีหรือพนักงานสอบสวนเพื่อจูงใจให้กระทำการ ไม่กระทำการหรือประวิงการกระทำใดอันมิชอบด้วยหน้าที่ และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ม.176 ร่วมกันให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงานของรัฐฯอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่