พระราชดำรัส สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน ในโอกาสที่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทูลเกล้าฯถวาย ปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิต กิตติมศักดิ์สาขาวิชาการพัฒนาระหว่างประเทศ เมื่อ 22 ธันวาคม 2568 ณ หอประชุมจุฬาฯ คุณ Keng Jirawuthitanant ได้นำคำแปลไม่เป็นทางการส่วนหนึ่งโพสต์ลงเฟซบุ๊กซึ่งน่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง ผมขออนุญาตนำมาลงให้อ่านกันตรงนี้นะครับผมขอนำบางตอนของพระราชดำรัสมาลงเท่าที่เนื้อที่จะอำนวยครับ“...ข้าพเจ้าขอเล่าเรื่องหนึ่งให้ฟัง เมื่อข้าพเจ้ายังเป็นนักศึกษาทั้งในสหรัฐอเมริกา และต่อมาในประเทศอังกฤษ ข้าพเจ้าก็เหมือนนักศึกษาหลายคนที่อยู่ไกลบ้าน และมักจะคิดถึงบ้านอยู่เสมอ และเมื่อภูฏานคิดถึงบ้าน ความรู้สึกนั้นมีรสชาติอันพิเศษเฉพาะตัว เพราะในเวลานั้นไม่มีร้านอาหารภูฏานเลย ไม่มีเลย ไม่ว่าจะในบอสตันในลอนดอนหรือที่ใดก็ตาม ไม่มีอามาติ ไม่มีคาวาติ ไม่มีข้าวสวยที่เหมาะสม กับแกงเผ็ดรสจัด ข้าพเจ้าเดินไปตามถนนด้วยความหิวโหยและโหยหาบ้าน แต่ไม่พบสิ่งใดตอบแทนความคิดถึงนั้นได้จนกระทั่งข้าพเจ้าค้นพบ อาหารไทยความเผ็ด ข้าว ความอบอุ่น มันไม่ใช่อาหารภูฏาน แต่ใกล้เคียงอย่างยิ่ง มันกลายเป็นอาหารปลอบใจของข้าพเจ้า ร้านอาหารไทยทุกแห่งที่ข้าพเจ้าเดินเข้าไป ให้ความรู้สึกเหมือนมีบ้านเล็กๆอยู่ในนั้น ข้าพเจ้าไม่อาจนับได้เลยว่า แกงเขียวหวานกี่ถ้วย ที่ช่วยประคองข้าพเจ้าไว้ในช่วงปีเหล่านั้น ประเทศไทยได้หล่อเลี้ยงข้าพเจ้าอย่างแท้จริง ในยามที่ข้าพเจ้าอยู่ห่างไกลจากทุกสิ่งที่คุ้นเคยในช่วงที่เป็นนักศึกษา เราทุกคนถูกขอให้นำเสนอสั้นๆเกี่ยวกับประเทศของตนเอง เมื่อ เพื่อนร่วมชั้นชาวไทย ของข้าพเจ้าลุกขึ้นพูด เธอได้นำเสนอสิ่งหนึ่งที่ยังคงอยู่กับข้าพเจ้ามานานกว่าสองทศวรรษเธอกล่าวถึงประเทศไทยในฐานะประเทศพุทธ ไม่ใช่เพียงในนาม แต่ในวิถีชีวิตประจำวัน เธอพูดถึงวัดวาอารามทั่วประเทศ พระภิกษุที่เดินบิณฑบาตด้วยเท้าเปล่าในยามรุ่งสาง ชายหนุ่มที่สมัครใจสละเวลาส่วนหนึ่งของชีวิต เพื่ออุปสมบทและศึกษาธรรม และสตรีที่เลือกเส้นทางการบวชชี เธอพูดถึงวิธีที่คำสอนของพระพุทธเจ้าหล่อหลอมลักษณะนิสัยของคนไทย ให้เป็นคนจริงใจ อ่อนน้อม เอื้อเฟื้อ และเปี่ยมด้วยเมตตาข้าพเจ้าพยักหน้าไปพร้อมกับคิดว่า “ใช่ นี่ช่างงดงาม นี่แหละคือสิ่งที่ข้าพเจ้ารู้สึกเมื่ออยู่ในประเทศไทย”แล้วเธอก็กล่าวต่อว่า “แต่กีฬาประจำชาติของเราคือ มวยไทย คิกบ็อกซิ่ง” ห้องทั้งห้องเงียบลง เธอยิ้มและถามว่า “สิ่งนี้หมายความว่าอย่างไร” แล้วเธอก็ตอบคำถามนั้นด้วยตัวเอง มันหมายความว่า เราเปี่ยมด้วยเมตตา แต่เราไม่อ่อนแอ เราเป็นคนรักสันติ แต่เราไม่เฉยชา หากประเทศไทยถูกคุกคาม เราจะต่อสู้ เราจะยืนหยัดร่วมกันด้วยความกล้าหาญ เสียสละ และมุ่งมั่น เพื่อปกป้องชาติ และวิถีชีวิตของพวกเราข้าพเจ้าไม่เคยลืมถ้อยคำเหล่านั้นเลย ความเมตตาแบบพุทธ และจิตวิญญาณนักรบ คือสิ่งที่นิยามประเทศไทย เป็นการผสมผสานที่จะรับใช้ประเทศนี้ไปอีกหลายศตวรรษประเทศไทยและภูฏานมีสายสัมพันธ์ที่หาได้ยาก เราเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่ไม่เคยตกเป็นอาณานิคม ขณะที่จักรวรรดิต่างๆ เข้ายึดครองและแบ่งแยกดินแดน ประเทศไทยยังคงเป็นเอกราช ด้วยพระปรีชาสามารถของ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ความอัจฉริยะของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และผู้นำผู้ยิ่งใหญ่ต่อเนื่องกันมา และที่สำคัญที่สุดด้วยความเข้มแข็งอดทนของประชาชนชาวไทย จิตวิญญาณแห่งเอกราชหยั่งรากลึกในแผ่นดินนี้...”เป็น พระราชดำรัสอันงดงาม ที่คนไทยได้ฟังแล้วรู้สึกปีติซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่ง พระองค์ทรงรู้จักคนไทยและประเทศไทยอย่างแท้จริง."ลม เปลี่ยนทิศ"คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม