นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รมว.สาธารณสุข เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมรับทราบเกี่ยวกับกฎหมายลำดับรองจำนวน 4 ฉบับที่ผ่านการพิจารณาในการประชุมครั้งที่ผ่านมา ทั้งเรื่องการกำหนดเวลาห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กำหนดเวลาห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การตักเตือนและการเปรียบเทียบ ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค. 2568 ทั้งนี้ ได้กำชับให้มีกลไกการติดตามผลหลังจากที่มีการประกาศใช้กฎหมายไปแล้ว โดยเฉพาะช่วงที่มีการผ่อนปรนเวลาที่สามารถขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ ว่าส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสังคมอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขายให้เด็กและคนเมาแล้วไปก่อความเสียหาย ร้านค้าต้องร่วมรับผิดด้วย รวมถึงมอบหมายให้คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระดับจังหวัด กำหนดมาตรการป้องกันผลกระทบ แล้วรายงานผลให้คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทราบทุกเดือน เพื่อพิจารณาหากเห็นความจำเป็นก็อาจจะมีการกำหนดมาตรการเพิ่มเติมได้นายพัฒนา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบให้มีการยกเลิกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี และเห็นชอบร่างประกาศคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกี่ยวกับการกำหนดสถานที่หรือบริเวณห้ามขายหรือบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานอื่นของรัฐ พื้นที่ประกอบกิจการโรงงาน สถานีขนส่ง เป็นต้น เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฉบับที่ 2 ที่กำหนดให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์“แม้จะมีมาตรการขยายเวลาจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวภายในประเทศ แต่สุขภาพและความปลอดภัยของประชาชนยังคงเป็นหัวใจสำคัญ กระทรวงสาธารณสุขมีความห่วงใย อยากให้ประชาชนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือเดินทางท่องเที่ยว ปลอดภัยไร้อุบัติเหตุ หากมีอาการเหนื่อยล้าหรือง่วงนอนควรหยุดพักและไม่ขับขี่ยานพาหนะ สุดท้ายนี้ปีใหม่ปลอดเหล้า กลับบ้านปลอดภัย ขับไม่ดื่ม ดื่มไม่ขับ” นายพัฒนากล่าว.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่