บุกรวบชาย-หญิงชาวแอฟริกัน 20 ชีวิต แอบกบดานในบ้านกลาง เมืองกำแพงเพชรที่แท้เป็นแก๊งสแกมเมอร์หนีตายข้ามฝั่งมาจากเมียนมา เตรียมเดินทางไปลาว ก่อนข้ามชายแดนเข้ากัมพูชา เพื่อทำงานต้มตุ๋นต่อ มี 2 ผัวเมียไทยคอยดูแล แต่ 1 ในกลุ่มทนความโหดร้ายไม่ไหวโทร.ฟ้องญาติที่บ้านเกิด แจ้งสถานทูตประสานตำรวจไทยเข้าช่วยเหลือ แฉนรก “เคเคปาร์ค” ต้องทำยอดหลอกลวงให้ได้ 5 หมื่นดอลลาร์ จะได้โบนัส 1 หมื่นบาท ถ้าไม่สำเร็จโดนทุบตี ทารุณ เหยื่อส่วนใหญ่เป็นชาวอเมริกันและอังกฤษที่ห้องประชุม ชั้น 4 สภ.เมืองกำแพงเพชร เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 12 ธ.ค. นายชาธิป รุจนเสรี ผวจ.กำแพงเพชร พล.ต.ต.โอภาส คงเมือง ผบก.ภ.จ.กำแพงเพชร พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลจับกุมแก๊งสแกมเมอร์ชาวต่างชาติ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. เวลา 13.00 น. ตำรวจ สภ.เมืองกำแพงเพชร รับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่าได้รับการประสานจากสถานทูตแอฟริกาใต้ ประจำประเทศไทย มีชาวต่างชาติส่งพิกัดขอความช่วยเหลือ อ้างถูกกักขังหน่วงเหนี่ยวอยู่ในบ้านเลขที่ 3/5 หมู่ 7 ต.เทพนคร อ.เมืองกำแพงเพชร ประสานชุดสืบสวน สภ.เมืองกำแพงเพชร ไปตรวจสอบพบชาวต่างชาติชาย-หญิง รวม 20 คน อยู่ในบ้านหลังดังกล่าว สัญชาติแอฟริกาใต้ 15 คน สัญชาตินามิเบีย 4 คน และสัญชาติซิมบับเว 1 คน สอบถามผ่านแอปพลิเคชันแปลภาษาทราบว่าทุกคนมีพาสปอร์ต ได้นำตัว 2 ผัวเมียอายุ 42 ปีเจ้าของบ้านและชาวต่างชาติทั้งหมดมาสอบปากคำที่ สภ.เมืองกำแพงเพชร ชุดสืบสวน สภ.เมืองกำแพงเพชร ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ฝ่ายปกครองอำเภอเมือง กำแพงเพชร เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกำแพงเพชร (พมจ.) ร่วมสอบปากคำชาวต่างชาติทั้งหมดอย่างละเอียด เพื่อคัดแยกกลุ่มว่าเป็นเหยื่อที่ถูกหลอกมา หรือพวกแก๊งสแกมเมอร์ เพื่อขยายผลเชื่อมโยงกับเครือข่ายอะไรบ้าง การเดินทางเข้ามาในพื้นที่ จ.กำแพงเพชร มีวัตถุประสงค์อะไร เจาะจงมาหรือแค่ทางผ่านสอบสวนทราบว่าชาวต่างชาติทั้งหมดเข้ามาในประเทศไทยถูกต้อง และออกจากไทยทางช่องทางธรรมชาติไปประเทศเมียนมา ทำงานออนไลน์กับกลุ่มจีนเทาในพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ เคเคปาร์ค เมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ฝั่งเมียนมา ต่อมารัฐบาลเมียนมา ถูกนานาชาติกดดัน ส่งทหารเร่งปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์ ชาวต่างชาติหลายพันคนกลายเป็นผึ้งแตกรัง แยกย้ายกันหลบหนี ชาวแอฟริกันกลุ่มนี้ใช้ช่องทางธรรมชาติ หนีข้ามแม่น้ำเมย เข้ามายังฝั่งไทยทาง อ.พบพระ จ.ตาก เดินข้ามภูเขามาพักที่บ้านผาผึ้ง อ.วังเจ้า จ.ตาก จากนั้นเดินทางต่อมาจนถึงเขต อ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร มีรถยนต์มารับพามาพักไว้ที่บ้านหลังเกิดเหตุ มีเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวเป็นผู้ให้ที่พักพิงชาวแอฟริกันกลุ่มนี้ยังให้ข้อมูลผ่านล่ามว่า ใน 1 วันจะต้องโทร.หาเหยื่อให้ได้ 15 ราย และต้องทำยอดให้ได้ 50,000 ดอลลาร์ จะได้ส่วนแบ่ง 10,000 บาท ขณะทำงานอยู่ในกลุ่มสแกมเมอร์ ชาวต่างชาติทุกคนจะถูกยึดพาสปอร์ต หากทำยอดได้ถึงจะได้พาสปอร์ตคืนมา แต่หากทำยอดไม่ได้ จะถูกทุบตีทำร้ายร่างกาย หลังหลบหนีออกจากเมียนมาเข้ามาเมืองไทย และมาพักพิงในบ้านหลังดังกล่าวแล้ว ตามกำหนดเดิมในเวลา 19.00 น. วันที่ 11 ธ.ค. จะมีรถมารับชาวต่างชาติทั้ง 20 คน เดินทางต่อไปยังประเทศลาว และข้ามชายแดนไปยังปลายทางประเทศกัมพูชา ร่วมทำงานกับกลุ่มสแกมเมอร์ แต่มี 1 ในกลุ่มทนไม่ไหวและไม่อยากทำงานต่อ โทร.ไปเล่าเรื่องให้ญาติที่บ้านเกิดฟัง ญาติแจ้งสถานทูตแอฟริกาใต้ประจำประเทศไทย ประสานตำรวจบุกจับกุมได้ก่อนพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาชาวต่างชาติทั้ง 20 คน ในฐานความผิด “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ขณะที่ 2 สามีภรรยาคนไทย ที่ให้บ้านเป็นสถานที่พักพิงรับสารภาพว่าเป็นผู้ขับรถยนต์ไปรับชาวต่างชาติกลุ่มนี้มาดูแล ให้อาหาร ที่พัก ก่อนจะส่งต่อไปประเทศกัมพูชา ไม่ได้มีแผนจะมาตั้งฐานสแกมเมอร์หลอกลวงในพื้นที่ จ.กำแพงเพชร และเคยทำมาแล้ว 1 ครั้ง เบื้องต้นแจ้งข้อหาให้ที่พักพิงหรือซ่อนเร้นคนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายชุดสืบสวนได้ตรวจสอบไทม์ไลน์พบว่า ชาวแอฟริกันกลุ่มนี้ เดินทางโดยเครื่องบินเข้ามาประเทศไทย มาลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ จากนั้นเดินทางโดยรถยนต์ ผลัดเปลี่ยนกัน 3-4 คัน ไปยังชายแดน จ.ตาก แล้วนั่งเรือข้ามไปฝั่งเมียนมา ทำงานที่เคเคพาร์ค ตั้งเงินเดือน 24,000 บาท แต่ได้จริง 13,000 บาท หากทำยอดหลอกเหยื่อได้ 50,000 ดอลลาร์ จะได้โบนัส 10,000 บาท ทำงานตั้งแต่เวลา 16.30-05.00 น. เหยื่อส่วนใหญ่ เป็นคนอเมริกัน-อังกฤษ ต่อมาช่วง ต.ค.-พ.ย.68 ทหารเมียนมากวาดล้างกลุ่มสแกมเมอร์ ทั้งหมดได้นั่งเรือข้ามมาชายแดน จ.ตาก แล้วเดินทางด้วยรถยนต์มาพักรออยู่ที่บ้านเลขที่ 3/5 หมู่ 7 ต.เทพนคร อ.เมืองกำแพงเพชร กระทั่งถูกตำรวจบุกเข้าจับกุมในที่สุดอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่