วันเสาร์สบายๆวันนี้ไปคุย “ผลร้ายของ Social Media” กันนะครับ 10 ธันวาคมนี้ ออสเตรเลีย จะเริ่มใช้กฎหมายใหม่ ห้ามเด็กอายุตํ่ากว่า 16 ปีใช้โซเชียลมีเดีย กฎหมายฉบับนี้ “บังคับให้แพลตฟอร์มโซเชียลยอดนิยมอย่าง TikTok Instagram ระงับบัญชีผู้ใช้ที่มีอายุตํ่ากว่า 16 ปี ฝ่าฝืนมีโทษปรับสูงสุด 49.5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ประมาณ 32 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ราว 1,024 ล้านบาท” ถือเป็นประเทศแรกในโลกประชาธิปไตยที่มีกฎหมายคุมแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่เข้มงวดรุนแรงขนาดนี้ออสเตรเลียออกกฎหมายคุมเข้มโซเชียลมีเดีย เพราะมีข้อมูลบ่งชี้ว่า เด็กที่ติดสมาร์ทโฟนและโซเชียลมีเดีย ทำให้เกิดวิกฤติสุขภาพจิตครั้งใหญ่ จึงต้องมีกฎหมายมาปกป้องกระทรวงศึกษาสิงคโปร์ ก็เพิ่งประกาศเมื่อต้นเดือนธันวาคมนี้ จะออกกฎห้ามนักเรียนระดับมัธยมศึกษาใช้สมาร์ทโฟนและสมาร์ทวอตช์ในโรงเรียน ตลอดช่วงเวลาที่อยู่ในโรงเรียน ตั้งแต่เดือนมกราคม 2569 นักเรียนต้องเก็บอุปกรณ์สื่อสารไว้ในจุดที่โรงเรียนจัดเตรียมให้ หรือเก็บไว้ในกระเป๋านักเรียนตลอดเวลาที่อยู่ในโรงเรียน ยกเว้นมีความจำเป็นเร่งด่วนก่อนหน้านี้ กระทรวงศึกษาสิงคโปร์ได้ห้ามนักเรียนใช้โทรศัพท์มือถือเฉพาะในเวลาเรียน แต่กฎใหม่ห้ามในช่วงเวลาพักทั้งหมด ไม่ว่าจะพักกลางวัน ช่วงทำกิจกรรมหลักสูตร เพื่อลดความหมกมุ่นในการอยู่กับหน้าจอ ของนักเรียนกระทรวงศึกษาสิงคโปร์ระบุว่า มีผลการศึกษาชี้ชัดว่า พฤติกรรมติดจอของเยาวชน ส่งผลกระทบไปถึงการเบียดเบียนเวลาพักผ่อน การนอนหลับ การออกกำลังกาย รวมทั้ง การมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมกับเพื่อนและครอบครัว ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาวะรวมของเยาวชน “เราต้องการคืนสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ให้นักเรียนกลับมามีสมาธิจดจ่อกับบทเรียน ส่งเสริมให้เกิดการปฏิสัมพันธ์กันจริงๆ ในสังคมโรงเรียน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของนักเรียนทุกคน” กระทรวงศึกษาสิงคโปร์ระบุดูเขาแล้วย้อนดู กระทรวงศึกษาไทย จิตสำนึกต่อสังคมเทียบกันไม่ได้เลย ทุกวันนี้กระทรวงศึกษาไทยยังปล่อยเด็กยากจนนับล้านคนหลุดจากวงจรการศึกษา เด็กนับล้านคนที่ไม่ได้เรียนหนังสือ สุดท้ายก็กลายเป็นเยาวชนที่ไร้อนาคตและเป็นปัญหาของสังคมมาเลเซีย เป็นอีกประเทศก็กำลังจะออกกฎหมายบังคับ “ห้ามเด็กเยาวชนอายุตํ่ากว่า 16 ปีใช้สื่อโซเชียลมีเดีย” แบบออสเตรเลีย ฟะฮ์มี ฟัดซิล รัฐมนตรีกระทรวงสื่อสารมาเลเซีย เปิดเผยว่า รัฐบาลกำลังทบทวนกลไกการจำกัดอายุผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียภายในปีหน้า (2569) โดยถอดแบบมาจากออสเตรเลีย เพื่อปกป้องเยาวชนจากปัญหาการกลั่นแกล้งทางออนไลน์ การหลอกลวงทางการเงินและการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก โดย ห้ามผู้ให้บริการแพลตฟอร์มเปิดบัญชีผู้ใช้ให้เด็กอายุตํ่ากว่า 16 ปี ผู้ใช้ต้องยืนยันอายุผ่านเอกสารทางราชการเท่านั้น เช่น บัตรประชาชน หนังสือเดินทาง MyDigital IDในยุโรป เดนมาร์ก ก็กำลังจะออกกฎหมาย “ห้ามเด็กอายุตํ่ากว่า 15 ปีใช้โซเชียลมีเดีย” ขณะที่ ฝรั่งเศส สเปน กำลังทดสอบระบบยืนยันอายุ สหรัฐอเมริกา กำลังจะใช้ กฎหมายความปลอดภัยออนไลน์ ห้ามเยาวชนใช้โซเชียลมีเดียในวันที่ 1 มกราคม 2569เมตเต เฟรเดอริกเซน นายกฯเดนมาร์ก กล่าวว่า โทรศัพท์มือถือและโซเชียลมีเดียกำลัง “ปล้นช่วงวัยเด็ก” ของลูกหลานเราไป เราพบข้อมูลที่น่าตกใจว่า เด็กชายเดนมาร์กอายุ 11-19 ปี ราว 60% เลือกที่จะอยู่บ้านมากกว่าออกไปพบเพื่อนฝูงนักประสาทวิทยาเตือนว่า การเข้าถึงโลกออนไลน์ตลอดเวลา ส่งผลกระทบต่อสมรรถนะของสมอง ทำให้ความสามารถทางสมองลดลงโดยไม่รู้ตัว ทักษะการคิดก็ลดลง การเรียกดูข้อมูลได้ง่ายผ่านอุปกรณ์ ทำให้สมองลดการจดจำข้อมูล การใช้เทคโนโลยีมากเกินไปในกลุ่มวัยรุ่นอาจนำไปสู่ “ภาวะสมองเสื่อม” และระดับความวิตกกังวลสูงขึ้นการออกกฎหมายที่เข้มงวดของเดนมาร์ก จึงเป็นก้าวแรกในการทวงคืน “ช่วงวัยเด็ก” ของลูกหลานเราที่ “ถูกปล้นไป” กลับคืนสู่โลกแห่งความเป็นจริงอีกครั้ง."ลม เปลี่ยนทิศ"คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม