ในหนังสือ ปากพูดหูเพี้ยน (สังคีต จันทนะโพธิ เขียน เพชร ประกาย พิมพ์ พ.ศ.2553) ชื่อเรื่อง อะไร! คือน่ำแช สาวโคมเขียว... ในยามนี้สะดุดใจให้เปิดอ่านคุณสังคีตเริ่มต้นว่า อาชีพโสเภณีมีมาก่อนสมัย ร.5 แต่ยังไม่มีการจัดระบบระเบียบดูแลอย่างเป็นทางการ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว...ทรงมีพระราชดำริว่าแต่ก่อนมา นายโรงช่วยไถ่หญิงมาเป็นทาส รับตั๋วจากเจ้าภาษีแล้วตั้งเป็นโรงหญิงนครโสเภณีขึ้นในหลายตำบลนั้น ครั้นต่อมา โปรดเกล้าฯให้เลิกทาสแล้ว หญิงบางจำพวกที่สมัครใจรับตั๋วจากเจ้าภาษีแล้วก็ขึ้นกับหัวหน้า อยู่ในท้องที่โรงอันควรบ้าง มิควรบ้างกระทำให้มีเหตุเกิดการวิจารณ์ขึ้นเนืองๆอีกประการหนึ่ง หญิงบางคนป่วยเป็นโรค ซึ่งอาจจะเกิดต่อเนื่องไปถึงผู้ชาย...ก็มิได้มีแพทย์ตรวจตรารักษา โรคร้ายนั้นอาจจะต่อเนื่องกันจนถึงเป็นอันตรายแก่ร่างกายและชีวิตมนุษย์เป็นจำนวนมากและยังหาได้มีกฎหมายและข้อบังคับอย่างใดจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ตราพระราชบัญญัติสัญจรโรค รัตนโกสินทร์ ศก 127 ขึ้น มีคำอธิบายความหมายคำว่า หญิงนครโสเภณี หมายถึง หญิงที่รับจ้างทำชำเราสำส่อนโดยได้รับเงินผลประโยชน์เป็นค่าจ้างในมาตรา 5 ระบุชัดว่า ผู้ซึ่งจะเป็นนายโรง อนุญาตให้เป็นเฉพาะแต่ผู้ที่เป็นหญิงด้วยกัน นายโรงจะเลี้ยงได้เฉพาะผู้ที่มีความสมัครใจ จะต้องทำบัญชีคนที่อยู่ประจำหรือเข้ามาอยู่ใหม่หรือไปจากโรง ยื่นต่อให้เจ้าพนักงานได้ทราบภายใน 24 ชั่วโมงนายโรงต้องคอยดูแลหน้าโรงให้มีที่ปกปิดกำบังมิดชิด อย่าให้คนเดินทางไปมามองเข้าไปเห็นสภาพภายใน ห้ามมิให้ลูกน้องยื้อยุดฉุดผู้ชายทำทุราจารกับทั้งต้องมีโคมไฟแขวนไว้หน้าโรงเป็นเครื่องหมายให้คนทั่วไปได้เห็นเป็นที่ประจักษ์ โดยมิต้องเสียเวลาแวะเวียนเข้าไปถามไถ่ ส่วนชื่อ “น่ำแช” ภาษาจีนนั้น ก็แปลตรงตัวว่าโคมเขียวเท่านั้น ไม่มีความหมายไปทางอื่นระเบียบข้อบังคับเดียวกัน เปิดช่องว่างไว้สำหรับผู้ประสงค์กลับใจจะเป็นคนดิบคนดีไว้ด้วย โดยยื่นคำร้องแสดงความประสงค์ต่อเจ้าพนักงานถอนใบอนุญาต และเลขชื่อออกจากทะเบียนการเป็นหญิงนครโสเภณีการนี้ ให้ถือเป็นความลับส่วนตัว จะแพร่งพรายให้รู้ถึงผู้อื่นไม่ได้มีรายละเอียดถึงขั้น ลูกโรงต้องชำระค่าธรรมเนียมฉบับละ 12 บาท ใบอนุญาตมีอายุแค่ 3 เดือนส่วนสถานที่ตั้งโรงจะต้องสะดวกต่อการควบคุม บริเวณใกล้เคียงกับที่ขอตั้งนั้นห่างกันแค่ไหน ใกล้ปูชนียสถานหรือวัดวาอารามหรือไม่?กฎหมายอนุญาตอาชีพโสเภณีสิ้นสุดเมื่อปี พ.ศ.2492 ครับตามคำสั่ง รมว.มหาดไทย ขณะที่ประกาศนี้มีโรงหญิงนครโสเภณีอยู่ในเขตพระนคร 73 โรง มีผู้หญิงมาขึ้นบัญชี 557 คนคุณสังคีตทิ้งท้ายด้วยการให้ข้อมูลว่า ใบอนุญาตให้มีโรงโสเภณี ...ทางการแปะตราหัวสุนัขไว้ แต่ตัวคุณสังคีตเองก็ยังหาประจักษ์หลักฐานไม่ได้ เรื่องนี้จึงเป็นได้แค่เรื่องคุยกันในวงเหล้าเรื่องที่คุณสังคีตค้นคว้ามาเล่ามีแค่นี้ล่ะครับ...ว่ากันด้วยกฎหมายเมืองไทยไม่มีโรงโสเภณี หรือซ่องมานานเต็มที ส่วนที่เห็นๆกันตึกรามใหญ่โตเปิดไฟสว่างตาเป็นแค่สถานบันเทิงอาบอบนวดธรรมดาๆ ตำรวจเขารู้ดีว่าไม่มีอะไรเกินเลยไปกว่านั้นสำหรับบริการ...ส่งสินค้าไปถึงสถานที่ต้องห้ามอย่างเรือนจำที่กำลังเป็นข่าวเกรียวกราวเรื่องพรรค์นี้เมืองไทยเกิดขึ้นได้นานๆครั้ง อย่าคิดให้เป็นเรื่องล้างแค้นทางการเมืองอะไรกันเลย...นักการเมืองบ้านเมืองเรา ประชาชนเค้าเลือกเข้ามาเป็นคนดีๆด้วยกันทุกคนยิ่งไปถึงเรื่องแก๊งสแกมเมอร์...ก็ยิ่งเกินไป ใครจะไปเชื่อลง... ท่านผู้ทรงเกียรติของเราจะชั่วช้าสาธารณ์ได้ถึงปานนั้น.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม