ฝนถล่มใต้หนัก เมืองคอนอ่วมน้ำป่าหลากซัดพ่อเฒ่าดับ 1 ศพ และเร่งอพยพกลุ่มเปราะบาง ปภ.พัทลุงประกาศเตือน 5 อำเภอริมเทือกเขาบรรทัด สตูลปักธงแดงน้ำไหลเชี่ยว สุราษฎร์น้ำล้นตลิ่งท่วม 7 อำเภอ ตำรวจระดมกำลังช่วยผู้ป่วยติดเตียง อุตรดิตถ์บ้านริมน้ำน่านถล่มและบ้านทรุดหลายหลัง ชาวชัยนาทเดือดร้อนน้ำเน่าเหม็น ยุงและแมลงชุม สิงห์บุรีน้ำล้อม รพ.ผู้ป่วยเข้าออกทุลักทุเล ขณะที่กรมอุตุฯแจ้งเตือนภาคใต้ฝนตกหนักระวังน้ำป่าไหลหลากวิกฤติฝนถล่มภาคใต้หลายพื้นที่เกิดน้ำป่าซัดบ้านเรือนเสียหาย เมื่อวันที่ 20 พ.ย. มีรายงานว่าเกิดกระแสน้ำป่าจากน้ำตกโยง ต.ถ้ำใหญ่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช และน้ำป่าจากเขื่อนวังอ้ายว่าว ต.นาหลวงเสน ไหลบ่าทะลักเข้าท่วมพื้นที่ โดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองทุ่งสงน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมเป็นบริเวณกว้าง และยังไหลท่วมข้ามถนนสายเอเชีย 41 บริเวณหน้าปั๊มน้ำมันผาทอง ชาวบ้านต้องอพยพขนของหนีน้ำท่วมขึ้นที่สูง ตำรวจ สภ.ทุ่งสงรับแจ้งพ่อเฒ่าวัย 76 ปี ถูกน้ำป่าซัดเสียชีวิต ส่วนทหารกองทัพภาคที่ 4 จัดชุดปฏิบัติการช่วยเหลือชาวบ้านพื้นที่ ต. ท้ายสำเภา อ.พระพรหม เร่งอพยพกลุ่มเปราะบาง ได้แก่ ผู้สูงอายุ เด็ก และผู้ป่วยไปยังสถานที่ปลอดภัย รวมทั้งช่วยเหลือขนย้ายสิ่งของและทรัพย์สินขึ้นที่สูง หลังเกิดน้ำป่าหลากเข้าท่วมพื้นที่ที่ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช น้ำล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนที่ลุ่มต่ำ ชาวบ้านจัดพิธีศพญาติที่บ้านต้องช่วยเคลื่อนย้ายโลงไว้ที่สูง ส่วนที่ริมถนนสายสนามบิน-ท่าศาลา บ้านวัดโหนด ปากซอยส้มส้า หน้าสถานีวิทยุชุมชนโมคลานเรดิโอ หมู่ 6 ต.โพธิ์ทอง อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ไฟลัดวงจรลุกไหม้มิเตอร์เสาไฟฟ้าก่อนมีเสียงระเบิดสนั่นไฟดับทั้งหมู่บ้าน ขณะที่อาสาหน่วยกู้ภัยสยามท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ ปภ.และผู้นำท้องถิ่น เร่งอพยพชาวบ้านกว่า 20 ราย หลังน้ำป่าไหลหลากที่บ้านเขาดิน ต.ตลิ่งชัน อ.ท่าศาลามีรายงานจากการรถไฟแห่งประเทศไทย ประกาศปิดเส้นทางรถไฟระหว่างสถานีช่องเขา-ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช บริเวณหลักกิโลเมตร 775/15-776/3 หลังตรวจพบระดับน้ำท่วมสูงเหนือสันรางประมาณ 15 ซม. และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สภาพทางไม่ปลอดภัยต่อการเดินรถจำเป็นต้องสั่งปิดทางเป็นการชั่วคราว พร้อมปรับเปลี่ยนสถานีต้นทาง-ปลายทาง 6 ขบวนจ.พัทลุง เจ้าหน้าที่ ปภ.พัทลุงประกาศเตือน 5 อำเภอริมเทือกเขาบรรทัด ได้แก่ กงหรา ป่าบอน ตะโหมด ศรีนครินทร์ และป่าพะยอม เฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก-ดินโคลนถล่ม ขณะนี้น้ำป่าไหลหลากระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วไหลท่วมถนน รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ชาวบ้านนำกระสอบทรายมากั้นหน้าบ้านเพื่อป้องกันความเสียหาย ส่วนโรงเรียนในเขตเทศบาลเมืองพัทลุงประกาศปิดเรียนเกือบทั้งหมด ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยพัทลุงร่วมกับทหารจากค่ายอภัยบริรักษ์ช่วยเหลือตายายในชุมชนบ้านนางลาดเหนือ ต.คูหาสวรรค์ อ.เมืองพัทลุง หลังน้ำหลากเข้าท่วมบ้านสูง ทั้งคู่ป่วยติดเตียงเร่งเคลื่อนย้ายไปที่บ้านญาติจ.สตูล ฝนตกหนักน้ำในลำคลองดุสน อ.ควนโดน จ.สตูล เริ่มไหลท่วมบ้านเรือน สวนผลไม้ และสวนยางพารา ถนนหมู่บ้านหลายสายถูกตัดขาด ด้านนายเชษฐ์ บุตรรักษ์ นายอำเภอควนโดนออกสำรวจพื้นที่ ต.ควนโดน และ ต.ย่านซื่อ ชาวบ้านได้รับผลกระทบ 625 ครัวเรือน 1,875 คน นอกจากนี้น้ำในลำคลองดุสนไหลท่วมพื้นที่ลุ่ม 2 ฝั่งคลองใน ต. ฉลุง อ.เมืองสตูล เจ้าหน้าที่ ปภ.สตูล ขึ้นธงแดงเตือนภัยที่บริเวณหัวสะพานคลองฉลุง ต.ฉลุง ด้านนายคณิต คงช่วย รอง ผวจ.สตูล รรท.ผวจ.สตูล สั่งให้พื้นที่ 7 อำเภอติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิดที่ จ.สุราษฎร์ธานี ระดับน้ำในลำคลองล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนในพื้นที่ 7 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ท่าชนะ อ.ไชยา อ.ท่าฉาง อ.วิภาวดี อ.ดอนสัก อ.กาญจนดิษฐ์ และ อ.คีรีรัฐนิคม รวม 27 ตำบล 185 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับผลกระทบ 5,674 ครัวเรือน 24,823 คน ด้านตำรวจ สภ.เสวียด ต.เสวียด อ.ท่าฉาง ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียงพักอยู่ชั้นล่างขึ้นไปอยู่ที่ชั้น 2 หลังน้ำท่วมขังสูงถึงหัวเข่า สถานการณ์น้ำในพื้นที่มีฝนตกหนักมวลน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แจ้งเตือนชาวบ้านเตรียมรับมือและย้ายของขึ้นไว้ที่สูงจ.สงขลา ฝนตกหนักต่อเนื่อง น้ำป่าจากน้ำตกโตนปลิวและน้ำตกโตนงาช้าง เทือกเขาแก้ว ไหลหลากท่วมพื้นที่หมู่ 1, 2 และ 7 ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ ชาวบ้านขนย้ายข้าวของไม่ทัน น้ำท่วมถนนเส้นทางเข้าออกหมู่บ้าน สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วงเพราะมีฝนตกต่อเนื่องและมวลน้ำไหลผ่านหมู่บ้านไม่หยุด นอกจากนี้น้ำท่วมใน อ.จะนะและ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา น้ำจากคลองภูมีล้นตลิ่งเข้าท่วมในหลายหมู่บ้านแล้วเช่นกันจ.สุโขทัย พื้นที่หมู่ 7 ต.ทับผึ้ง อ.ศรีสำโรง น้ำที่ไหลมาจากอ่างเก็บน้ำแม่มอก อ.เถิน จ.ลำปาง เอ่อล้นท่วมบ้านเรือนชาวบ้านสูงกว่าครึ่งหลังนานกว่าครึ่งเดือนแล้ว น้ำเริ่มส่งกลิ่นเน่าเหม็น ชาวบ้านอยู่กันอย่างลำบากนายนิตย์นิชัย บุญสุวรรณ นายอำเภอพิชัย จ.อุตรดิตถ์ ลงพื้นที่ชุมชนริมน้ำน่าน ซอย 5 เทศบาล ตำบลท่าสัก ตรวจสอบเหตุบ้านริมน้ำน่านถล่มไป 1 หลัง และเริ่มทรุดอีก 6 หลัง เร่งอพยพชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำน่านบริเวณตลาด 100 ปี กว่า 40 หลังคาออกจากพื้นที่ประกาศให้เป็นพื้นที่ภัยพิบัติฉุกเฉิน พื้นที่อันตราย ห้ามผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าในพื้นที่เด็ดขาด พร้อมจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวและโรงครัว ก่อนประสานเจ้าหน้าที่โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดอุตรดิตถ์เข้าตรวจสอบสำหรับพื้นที่น้ำท่วมภาคกลาง ที่เขื่อนเจ้าพระยาทยอยปรับลดการระบายจากอัตรา 2,637 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เหลืออัตรา 2,570 ลบ.ม.ต่อวินาที ระบายน้ำชั่วโมงละ 10 ลบ.ม.ต่อวินาที น้ำท้ายเขื่อนจะลด 5 ซม. และคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่องเพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำฝน-น้ำท่าในปัจจุบัน สถานการณ์น้ำในตอนนี้ถือว่าดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยังคงท่วมขังอยู่เนื่องจากน้ำที่เอ่อเข้ามาในพื้นที่ลุ่มต่ำยังท่วมเต็มพื้นที่ ต้องรอให้เขื่อนลดการระบายต่อกว่า 2,000 ลบ.ม.ต่อวินาที สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกตินางมารินทร์ พรมไพร ชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ 5 ต.หาดอาษา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท เปิดเผยว่า น้ำที่ท่วมขังในพื้นที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำและเน่าส่งกลิ่นเหม็น หากไม่จำเป็นจะไม่ลุยน้ำ เพราะกลัวโรคน้ำกัดเท้าและโรคอื่นๆ ตอนนี้ใช้ชีวิตอย่างลำบากขาดน้ำดื่มและน้ำใช้ด้านนางชัณณ์ญาช์ สุภาวิตา นายกเทศมนตรีตำบลหาดอาษา เปิดเผยว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ ต.หาดอาษา อ.สรรพยา เริ่มมีปริมาณลดลงเรื่อยๆน้ำเริ่มเน่าเหม็น ทางเทศบาลตำบลหาดอาษา ประสานไปยังสถานีพัฒนาที่ดินจังหวัดชัยนาทและเพื่อขอน้ำ EM มาแจกจ่ายให้กับชาวบ้าน ส่วนเรื่องของความช่วยเหลือปัจจุบัน ต.หาดอาษา ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 1,666 ครัวเรือน ขาดแคลนน้ำดื่มไม่เพียงพอ ทางเทศบาลประสานไปยังหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อขอสนับสนุนน้ำดื่มมาแจกแล้วที่ จ.สิงห์บุรี น้ำท่วมล้อมรอบโรงพยาบาลอินทร์บุรีเป็นเวลาหลายวัน ระดับน้ำเริ่มลดลง ชาวบ้าน ยังเดินทางไป รพ.ด้วยความยากลำบาก เจ้าหน้าที่แบ่งทางเข้าเป็น 2 ทาง ทางแรกทางโรงพยาบาลอินทร์บุรี สร้างสะพานทางเดินเข้า รพ. เป็นระยะทาง 800 เมตร ส่วนอีกทางผู้ป่วยที่เดินไม่ไหวหรือผู้สูงอายุต้องอ้อมไปลงทางเข้าวัดโบสถ์ระยะทางเข้า 2 กม. เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูใช้เรือท้องแบนนำผู้ป่วยเข้า รพ. ส่วนคณะสงฆ์วัดพิกุลทอง อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี ช่วยกันแจกข้าวให้กับผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมในเขตบริเวณชุมชนที่ ต.โรงช้าง อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรีด้านนายณรงค์ศักดิ์ วิงวอน นายกเทศมนตรีเมืองสิงห์บุรี นายสังคม วิเลปนะ รองนายกเทศมนตรีเมืองสิงห์บุรี ขอรับการสนับสนุนน้ำหมักชีวภาพ (EM) จากสถานีพัฒนาที่ดินสิงห์บุรี เพื่อบำบัดน้ำเสียและขจัดกลิ่นเหม็นในพื้นที่อุทกภัยเขตเทศบาลเมืองสิงห์บุรี ปัจจุบันพื้นที่ประสบอุทกภัยในฝั่งตะวันตกของเทศบาลเมืองสิงห์บุรีประสบปัญหาน้ำท่วมขังเกิดน้ำเน่าเสีย ส่งกลิ่นเหม็นเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของเชื้อโรคและยุง ส่วนที่บริเวณหมู่บ้านมั่นคงชุมชนที่ 11 ต.ป่าโมก อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง น้ำท่วมบ้าน 77 หลังคาเรือน ระดับน้ำสูงหัวเข่า ชาวบ้านต้องพายเรือเข้าออกกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศฉบับที่ 12 แจ้งว่า วันที่ 21-23 พ.ย. ภาคใต้มีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ส่วนบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร ภาคเหนือและภาคตะวันออก เฉียงเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรงอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล และภาคตะวันออก มีอากาศเย็นกับมีลมแรงอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่