เมื่อวันที่ 5 พ.ย. นายเจษฎา จันทรประภา ผอ.สำนักการระบายน้ำ กล่าวว่า จากอิทธิพลของน้ำทะเลหนุนสูง ส่งผลให้ระดับแม่น้ำเจ้าพระยา เพิ่มสูงขึ้น ช่วงวันที่ 5-14 พ.ย.นี้ ซึ่งคาดว่าระดับน้ำจะสูงประมาณ 1.80-1.90 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ส่งผลให้เกิดสภาวะระดับน้ำล้นตลิ่ง ประกอบกับผลกระทบของพายุไต้ฝุ่นคัลแมกี ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่ ช่วงวันที่ 7-9 พ.ย.นี้ สำนักการระบายน้ำ (สนน.) ได้มีการเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างเต็มที่ โดยหลังจากวันลอยกระทง วันที่ 6 พ.ย.นี้ จะมีการปรับระดับน้ำให้ต่ำที่สุดทันที โดยเฉพาะบริเวณหน้าสถานีสูบน้ำทุกจุดจะลดให้เหลือ -1 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง เพื่อเตรียมพร้อมรับมือภาวะน้ำหนุน และน้ำฝน“ขณะนี้ที่น่าห่วงคือมีแนวฟันหลอยาวประมาณ 200 เมตร บริเวณแนวริมแม่น้ำ ชุมชนโรงสี ถนนพระราม 3 ซึ่งยังอยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ อาจจะมีบ้านเรือนได้รับผลกระทบกว่า 200 หลังคาเรือน จึงแจ้งเตือนให้เฝ้าระวังสถานการณ์ พร้อมทั้งยกของขึ้นที่สูง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ได้มีการหารือถึงการรื้อบ้านเรือนที่รุกล้ำแม่น้ำ เพื่อจะทำเขื่อนกั้นริมแม่น้ำ โดยใช้งบประมาณ ปี 2569” นายเจษฎากล่าวผอ.สนน.กล่าวต่อว่า เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา มีปริมาณฝนตกอย่างหนักหลายพื้นที่ของกรุงเทพฯ มีการใช้งานเครื่องมืออุปกรณ์การสูบน้ำ ระบายน้ำ อย่างหนักเต็มอัตรา มีโอกาสที่เครื่องจะเสียได้ง่าย จึงสั่งการให้มีการตรวจสอบสภาพให้ใช้งานได้เต็มกำลัง พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย เข้าดูแลแก้ไขได้ทันท่วงทีกรณีเกิดการชำรุด.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่