ปฏิทินฝรั่งข้างตัว จันทร์ 6 ต.ค.ปี 2568 นี้ น.นพรัตน์ บอกว่า ปฏิทินจีน เป็นวัน 15 ค่ำ กลางเดือนแปด เริ่มวันจงชิวเจี๋ย เทศกาลไหว้พระจันทร์อาจารย์ถาวร สิกขโกศล เขียนไว้ในหนังสือ เทศกาลจีน และการเซ่นไหว้ (แสงดาวพิมพ์ครั้งที่ 2 พ.ศ.2568) ว่า วันนี้ทุกคนต้องกลับไปอยู่พร้อมหน้ากันที่บ้าน ปัจจุบันในจีนเกือบทุกถิ่น ไต้หวัน ฮ่องกง นับเป็นเทศกาลใหญ่ตามวัฒนธรรมจีนถือว่าบรรพชนสำคัญกว่าเทวดา ฉะนั้นจึงใช้ข้าวฟ่างซึ่งสุกก่อน และเป็นข้าวรสดี ได้รับยกย่องว่า เป็นราชาแห่งธัญญชาติ บูชาพระเทพบิดรก่อนในปักษ์ลี่ชิว ประเพณีที่เป็นที่มาของสารทจีนส่วนข้าวเหนียว ข้าวเจ้าสุกทีหลัง ใช้ไหว้พระจันทร์ เทพประจำธรรมชาติองค์หนึี่งจีนโบราณเคารพธรรมชาติ โอรสสวรรค์ถือว่าฟ้าเป็นพ่อ ดินเป็นแม่ พระอาทิตย์เป็นพี่ชาย พระจันทร์เป็นพี่สาว คัมภีร์หลี่จี้ อธิบายจารีตตอนหนึ่งว่า “เซ่นสรวงพระจันทร์ในฤดูใบไม้ร่วง”เหตุที่ไหว้พระจันทร์ในฤดูใบไม้ร่วง เพราะฤดูนี้พระจันทร์งามที่สุด อากาศอบอุ่นสบาย ดังมีบทกวีชมว่า “สารทงามจันทร์กระจ่างพร่างฟ้าใส”ย้อนไปรู้เรื่องการบูชาเส้อ (เทพแผ่นดิน เจ้าที่) ทำกันปีละ 2 ครั้ง ครั้งแรกในฤดูใบไม้ผลิ ครั้งหลังในฤดูใบไม้ร่วง “ชิวเส้อ” วันชิวเส้อ บางปีอาจตรงกับวัน 15 ค่ำเดือนแปด คนจีนจึงกลางวันไหว้เส้อ กลางคืนไหว้พระจันทร์การไหว้เส้อทำเป็นหมู่คณะ มีคนมาร่วมมาก ทำให้เกิดการรวมคนครั้งใหญ่ เรียกว่า เส้อฮุ่ย หมายถึงการชุมนุมไหว้เสื้อบ้าน เสื้อเมืองสมัยราชวงศ์หยวน พ.ศ.1844-1911ของชาวมองโกล ห้ามจัดงานนี้กลัวคนจีนคิดต่อต้าน งานเส้อฮุ่ยจึงชะงัก ถึงสมัยราชวงศ์หมิง ความรุ่งเรืองของตระกูลแซ่ มีผลให้งานเส้อฮุ่ยหมดไปตั้งแต่นั้นการไหว้เส้อ ซึ่งเดิมเป็นเจ้าที่ จึงไปแฝงรวมอยู่กับวันไหว้พระจันทร์ และถือกันว่าวัน15ค่ำเดือนแปด เป็นวันประสูติกาลเส้อด้วยยุคราชวงศ์เซี่ย ซาง โจว การไหว้พระจันทร์เป็นกิจของโอรสสวรรค์ และเจ้าผู้ครองแคว้น สมัยราชวงศ์ฮั่น มีเทศกาลจิงเหล่าเจี้ย (คารวะผู้สูงอายุ) ในปักษ์ลี่ชิว เลือกคนชราผู้มีคุณธรรมและชื่อเสียงจำนวนหนึ่ง มาทำการมอบไม้เท้า ขนมนึ่งด้วยแป้งข้าวเหนียวและของอืี่นๆให้พิธีไหว้พระจันทร์เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย จุดเปลี่ยนสำคัญในสมัยราชวงศ์หยวน ราชสำนักซึ่งเป็นชาวมองโกลรับเทศกาลนี้ไปจากชาวจีน แต่ห้ามเทศกาลชิวเส้อชุมนุมคนไหว้เจ้าที่ราษฎรจึงใช้วันไหว้พระจันทร์ชุมนุมนัดหมายกันแทนมีตำนานเล่าว่า คนจีนเขียนหนังสือนัดหมายลุกฮือฆ่ามองโกล สอดเข้าไปในขนมไหว้พระจันทร์ ซึ่งแต่ละบ้านนำไปมอบให้ต่อๆกันไป มีผลให้กู้ชาติพิฆาตมองโกลได้สำเร็จตำนานนีี้มีผู้รู้ทัก เชื่อได้ไม่มากนัก แต่ก็คงมีมูลความจริงอยู่บ้าง เพราะปัจจุบันเทศกาลไหว้พระจันทร์ในหลายท้องถิ่นจีน เช่นแต้จิ๋ว เจียงซี (กังไส) มีกิจกรรมรำลึกถึงการโค่นล้มมองโกลรวมอยู่ปัจจุบันเทศกาลไหว้พระจันทร์ ยิ่งมีกิจกรรมหลากหลาย เป็นนักขัตฤกษ์ยิ่งใหญ่กว่าเดิม แข่งเคียงกับเทศกาลขนมจ้างและตรุษจีน จนเป็น 1 ใน 3 ของเทศกาลใหญ่ในจีนวันสองวันมานี้ หลานจีนรุ่นผมรับรู้เรื่องเทศกาลไหว้พระจันทร์ ก็เมื่อมีเพื่อนพ้อง น้องพี่ ส่งขนมไหว้พระจันทร์ชิ้นใหญ่ ชิ้นน้อยมาให้ นับๆก็มีสี่ห้าชิ้น ผมเป็นเบาหวานระวังเรื่องน้ำตาล...ชิมบ้างไม่ได้ชิมบ้างแต่ก็ยังไม่เจอจดหมายสักแผ่น นัดไปการสำคัญอะไร? ซ่อนมาในไส้ขนมฟังข่าว ดูคลิป หลายๆทาง...มีกระแสการต่อต้าน ก๊กโจรปล้นเมือง ตึงตังโครมคราม แต่ดูเหมือนว่าชาวบ้านจะตกลงปลงใจ ยกให้งานไล่โจรเป็นงานของทหาร...วงจรของบ้านนี้เมืองนี้ เขาก็มักหมุนไปอย่างนี้.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม