ศาลอาญาตัดสินประหารชีวิตกลุ่มจำเลยอดีตเด็กช่างกลปทุมวัน 11คน หลังร่วมกันวางแผนก่อเหตุกราดยิงกลุ่มสถาบันคู่อริในงานแต่งงานที่บ้านหลังหนึ่ง ย่านรัชดาเมื่อปี 65 จนมีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บอีกหลายคน ศาลระบุพยานหลักฐานปรากฏชัดเป็นการแก้แค้นกราดยิงโดยไม่เจาะจงตัวบุคคล แบ่งหน้าที่กันทำ แต่คำให้การมีเหตุบรรเทาโทษคงจำคุกตลอดชีวิตและร่วมกันชดใช้เงิน 1.67 ล้านบาทให้แม่ผู้ตาย ส่วนอีก 3 คนยกฟ้อง ขณะที่แม่เหยื่อขอบคุณศาลที่ให้ความเป็นธรรมศาลสั่งประหารชีวิต 11 อดีตเด็กช่างกลปทุมวันกราดยิงคู่อริตายเจ็บในงานแต่งเมื่อปี 65 เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 ก.ย. ที่ศาลอาญา ศาลอ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ฟ้อง นายชนัญชิต แสงจันทร์ นายเวชพิสิฐ เลือกหา นายภัทรดนัย เปรมจิตต์ นายธนาวุฒิ มุสตอฟาดี นายสหัสวรรษ ภักดีนอก นายนัฐภัทร สุวรรณไตร นายยศพล กุลยะ นายชุติวัต ผสมทอง นายณัฐวุฒิ ดอกกระฐิน นายปณิธาน ชูพรัด นายปองพล จันทรศร นายณัชพล สันเต๊ะ นายอิทธิศักดิ์ เนาะสันเทียะ และนายศุภรพงศ์ สุขประสงค์ เป็นจำเลยที่ 1-14 ฐานสมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปเพื่อฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น และพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตโจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้ง 14 คน เคยเป็นหรือเป็นนักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน วางแผนฆ่านักศึกษาหรือผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ทั้ง 2 สถาบันนี้มีความขัดแย้งมาหลาย 10 ปี ต่อมาวันที่ 14 ส.ค.65 จำเลยทั้ง 14 กับพวกร่วมกันใช้ปืน 3 กระบอกยิงกลุ่มบุคคลซึ่งจบการศึกษาจากสถาบันคู่อริและกำลังร่วมงานแต่งงานในบ้านหลังหนึ่งย่านถนนสุทธิสารวินิจฉัย แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง กทม. กระสุนถูกนายณัฐวุฒิ พินิจใหม่ แขกมาร่วมงานเสียชีวิต มีผู้บาดเจ็บสาหัส 3 คน บาดเจ็บอันตรายแก่กาย 2 คน โดยจำเลยที่ 10 นำ จยย.คันที่ใช้เป็นพาหนะไปซุกซ่อนที่บ้านผู้มีชื่อเป็นตาจำเลยที่ 10 และร่วมกันนำเสื้อผ้าที่จำเลยที่ 1-9 และจำเลยที่ 11-14 สวมใส่ในวันเกิดเหตุเผาทำลายที่บ้านใน จ.พระนครศรีอยุธยาศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พยานหลักฐานมีน้ำหนักรับฟังได้ว่าเมื่อเดือน ก.ค.65 มีเหตุนักเรียนเทคโนโลยีช่างกลปทุมวันถูกยิงเสียชีวิตในพื้นที่ สน.บางขุนเทียน เป็นเหตุให้กลุ่มจำเลยร่วมกันกราดยิงโดยไม่เจาะจงเพื่อแก้แค้นสถาบันคู่อริ วันที่ 12 ส.ค.65 จำเลยประชุมวางแผนที่บ้านจำเลยที่ 7 ย่านหนองจอก มีจำเลยที่ 1, 4, 7, 8, 11-13 ไปดูลาดเลาแบ่งหน้าที่จัดเตรียมปืน รถ จยย. เบอร์โทรศัพท์เฉพาะกิจไว้ก่อเหตุ วันเกิดเหตุจำเลยที่ 2 ใส่ชุดไรเดอร์ขี่รถ จยย. โทรศัพท์ส่งสัญญาณให้กลุ่มจำเลยขี่รถ จยย.เข้าไปกราดยิงจนมีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บก่อนหลบหนีคำต่อสู้จำเลยที่ 1-5, 7-9, 11-13 รวม 11 คน ไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ พิพากษาว่าทั้ง 11 คนมีความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนอันเป็นบทลงโทษหนักสุดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 พิพากษาประหารชีวิต แต่คำให้การจำเลยมีประโยชน์มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกตลอดชีวิต รวมทั้งร่วมกันชดใช้เงินแก่มารดาของผู้เสียชีวิต 1,677,400 บาท และพิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 6, 10, 14ภายหลังนางรุจลักษณ์ (ขอสงวนนามสกุล) แม่นายณัฐวุฒิ ผู้ตาย กล่าวขอบคุณผู้พิพากษา อัยการ และตำรวจที่ทำสำนวนคดีได้อย่างเป็นธรรมกับการที่สูญเสียลูก ยังมีอีกหลายคนหลายเหตุการณ์ที่เจอเรื่องแบบนี้ อยากให้ได้รับความเป็นธรรมเช่นเดียวกัน ลูกชายตนจบจากราชมงคลวิทยาเขตพระนคร ไม่ได้เรียนที่อุเทนถวายแต่มาถูกยิงในงานแต่ง อยากจะบอกว่าทั้ง 2 สถาบันต่างพัฒนาและสร้างบุคลากรออกมาได้ดี เพียงแต่เรื่องความขัดแย้งอาจจะเกิดจากรุ่นพี่มีอุดมการณ์หล่อหลอมแบบผิดๆ อยากให้เลิกเพราะการสูญเสียลูกเป็นเรื่องที่เจ็บปวดมากด้านนางพรพิมล ประจำเมือง แม่นายธนสรณ์ หรือหยอด ห้องสวัสดิ์ อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปี 1 อุเทนถวายที่ถูกกลุ่มสถาบันคู่อริยิงเสียชีวิตพร้อม น.ส.ศิรดา หรือครูเจี๊ยบ สินประเสริฐ อายุ 45 ปี ครูสอนวิชาคอมพิวเตอร์ ชั้น ม.ต้น โรงเรียนพระหฤทัย คอนแวนต์ที่เดินผ่านมาพอดี เหตุเกิดหน้าธนาคาร ทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) สาขาคลองเตย ถนนสุนทรโกษา แขวงและเขตคลองเตย กทม. เมื่อเช้าวันที่ 11 พ.ย.66 กล่าวว่า ขอบคุณศาลที่ให้ความยุติธรรม วันนี้มาให้กำลังใจและเรียกร้องความเป็นธรรมให้นายณัฐวุฒิหรือน้องเฟิร์ส เพราะมีผู้ต้องหา 2 คนในกลุ่มนี้ก่อเหตุซ้ำ เพราะหลังก่อเหตุยิงน้องเฟิร์สในงานแต่งงานเสียชีวิต ได้ประกันตัวออกไปยิงครูเจี๊ยบกับน้องหยอด มือปืนกับคนพาหลบหนีคดีนี้โดนศาลชั้นต้นตัดสินประหารชีวิต แต่อีก 20 กว่าคนได้ประกันตัวระหว่างยื่นอุทธรณ์คดี ตอนนี้อยู่ระหว่างรอฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่