จากการเสวนาเรื่อง “บูรณาการเชิงรุกเพื่อส่งเสริมสุขภาพเชิงป้องกันในระยะยาวของประเทศ ไทย” ในงานส่งเสริมภูมิกาย สร้างเสริมภูมิใจให้วัย Gen ยัง Active 50+ เนื่องในวันผู้สูงอายุสากล นพ.ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปจะพบทั้งโรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ สิ่งที่ควรทำคือการปรับพฤติกรรมการบริโภค ออกกำลังกาย ทั้งเสริมภูมิคุ้มกันด้วยวัคซีน เช่น วัคซีนไข้หวัดใหญ่ นิวโมค็อกคัส RSV งูสวัด โควิด-19 บาดทะยัก คอตีบ และต้องระวังการพลัดตกหกล้มของผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของความพิการและเสียชีวิตนพ.นคร เปรมศรี ผอ.สถาบันวัคซีนแห่งชาติ กล่าวว่า ผู้สูงอายุต้องมีสุขภาพที่แข็งแรงเพื่อเป็นหลักในการดูแลลูกหลาน และพาลูกหลานมารับวัคซีนพื้นฐานตามเวลาที่กำหนด ส่วนวัคซีนของผู้ใหญ่ที่ฟรียังมีน้อย ส่วนมากต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง โดยสถาบันวัคซีนกำลังศึกษาข้อมูลความคุ้มค่าของวัคซีนงูสวัด เพื่อนำเสนอ สปสช.เป็นสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ทั้งสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการรับวัคซีน ซึ่งปัจจุบันมีการเผยแพร่ข้อมูลที่บิดเบือนทำให้ประชาชนเข้าใจผิดในวงกว้าง ทำให้เกิดความลังเลใจในการรับวัคซีนป้องกัน ส่งผลให้เสียโอกาสในการป้องกันโรค เช่น ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทำให้เป็นโรคได้ ทั้งที่ความจริงแล้ววัคซีนไข้หวัดใหญ่ทำจากเชื้อตายหรือองค์ประกอบของเชื้อที่ไม่ก่อโรคแล้ว เป็นต้น ส่วนในอนาคตจะส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำงบฯมาจัดซื้อวัคซีนต่างๆ และขยายกลุ่มเป้าหมายในการฉีดให้สร้างเสริมภูมิคุ้มกันให้กว้างขวางมากขึ้นขณะที่ ศ.นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล และที่ปรึกษาโครงการ Gen ยัง Active 50+ กล่าวว่า การขับเคลื่อนโครงการ Gen ยัง Active 50+ จะต้องบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจด้านการดูแลสุขภาพและการป้องกันโรคที่ถูกต้องให้กับประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 50+ ที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัย ผ่านเว็บไซต์ www.GenYoungActive.com และไลน์ : @GenYoungActive.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่