นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า จากการประชุมคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ในกรุงเทพฯ ครั้งที่ 2/2568 โดยเมื่อวันที่ 8 ก.ย. คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติได้อนุมัติประกาศ ให้กรุงเทพฯ เป็นเขตควบคุมมลพิษเป็นช่วงเวลาครั้งแรกระหว่างเดือน พ.ย. ถึง มี.ค. ของทุกปี ถือเป็นเรื่องที่ดีทำให้ กทม. มีอำนาจมากขึ้นในการกำหนดมาตรฐาน ที่มีความเข้มข้นมากกว่ามาตรฐานของประเทศ โดยมีอำนาจในการปรับมาตรฐานต่างๆนี้ให้เข้มข้นขึ้น เป็นเครื่องมือในการลด PM 2.5 ให้มีประสิทธิภาพได้อย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ยังมีแผนในการหาต้นตอไปดำเนินการต่างๆเพื่อลดฝุ่นด้วยผู้ว่าฯ กทม.กล่าวต่อว่า ขณะที่การติดตั้ง ระบบ CEMS หรือการวัดฝุ่นจากปล่องควันก็มี ความคืบหน้า ซึ่งปัจจุบันในกรุงเทพฯมีที่ที่มีการ ติดตั้ง CEMS อยู่ 7-8 โรงงาน แต่พอมีการปรับ มาตรฐานให้ละเอียดขึ้น หรือข้อกำหนดให้เข้มข้นขึ้นจะทำให้มีโรงงานที่ต้องติดตั้ง CEMS มากกว่า 200 โรงงาน ซึ่งจะทำให้สามารถติดตามการปล่อย ควันได้อย่างละเอียดตามจริง ส่วนในอนาคตจะ เน้นเรื่องฝุ่นจากการเผาภายนอกมากขึ้น ตอนนี้มีพิกัดจุดเผาเข้ามาในกรุงเทพฯแล้ว และได้หารือ กับผู้ว่าราชการจังหวัด ถ้าหากมีความจำเป็นอาจมีการช่วยดับไฟ หรือคุยกับเกษตรกรให้ลดการเผา หรืออาจหาเรื่องอัดฟางให้ สำหรับมาตรการที่จะ เข้มข้นขึ้นคือเขตมลพิษต่ำ Low Emission Zone ในปีนี้จะขยายไปในพื้นที่กรุงเทพฯ 50 เขต ทำให้ต้องนำรถไปปรับปรุงและลงทะเบียน บัญชีเขียว หากรถที่ไม่อยู่ในบัญชีแล้วเข้าพื้นที่ก็จะถูกจับดำเนินคดี ซึ่งปีที่ผ่านมายื่นฟ้องศาลดำเนินคดีแล้วกว่า 400 คัน.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่