กรณีกรมโรงงาน (กรอ.) กองบังคับการ ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา ลงพื้นที่ตรวจสอบบริษัทแห่งหนึ่งที่ประกอบกิจการรับกำจัดกากอุตสาหกรรมใน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา แต่ใช้วิธีกองไว้บนดินและฝังกลบในที่ดินของตัวเองเจ้าของบริษัทดังกล่าวนี้ถือเป็น พ่อเจ้าที่ดินคนหนึ่ง ใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ที่ขุดพบขยะพิษเกือบ 5 หมื่นตัน พบข้อมูลบัญชีจ่ายเงินให้นักการเมืองท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ตำรวจท้องที่ ข้าราชการ ทุกพื้นที่ที่สร้างเครือข่ายอุปถัมภ์ กับผู้มีอำนาจในท้องถิ่น ทำให้ธุรกิจนี้เสี่ยงต่ำ รายได้สูง ปัญหาจึงหนักข้อขึ้นทุกวันประชาชนในพื้นที่ร้องเรียนผ่านหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เรื่องถูกปิดเงียบตลอด ในยุคนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เป็น รมว.อุตสาหกรรม ลงพื้นที่แก้ปัญหาแบบถึงลูกถึงคน แต่ถูกมองว่าเป็นการแก้ที่ปลายเหตุ การลักลอบทิ้งกากของเสียอุตสาหกรรม ขยะอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกยังไหลเข้ามาที่ภาคตะวันออก ไทยตกเป็นถังขยะอุตสาหกรรมในยุคพัฒนาเศรษฐกิจ–อุตสาหกรรม ช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา สารมลพิษทางอากาศ น้ำเสีย ของเสียอันตราย ถูกปล่อยสู่สิ่งแวดล้อมตลอดเวลา ส่งผลทั้งโดยตรงและทางอ้อมต่อสุขภาพประชาชน ทำลายระบบนิเวศและความสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ ก่อความเสียหายต่อสังคม เศรษฐกิจ และความมั่นคงหลายฝ่ายในสังคมมองเห็นเรื่องนี้เป็นปัญหาระดับชาติ เสนอให้แก้ปัญหาที่ระบบกฎหมาย สส.จากหลายพรรคเสนอกฎหมาย เช่น ร่างแก้ไข พ.ร.บ.โรงงาน กำหนดจัดโซนนิ่งย้ายไปอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม ภาคประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วมพิจารณาออกใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน มีสิทธิร่วมตรวจสอบโรงงานกับเจ้าหน้าที่พร้อมเสนอเพิ่มโทษทางอาญาให้สูงขึ้น มีความรับผิดชอบทางแพ่ง รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ง แวดล้อม วุฒิสภา ได้จัดเสวนาหาช่องทางสะสางปัญหานี้ให้สะเด็ดน้ำ โดยเสนอให้ผู้ใดหรือบริษัทใดกระทำผิดเข้าข่ายเป็นอาชญากรรมสิ่งแวดล้อม พ่วงความผิดมูลฐานฟอกเงินทั้งหมดสะท้อนให้เห็นถึงสังคมตื่นตัว ต้องการวางระบบคุ้มครองสวัสดิภาพประชาชน รักษาทรัพยากรธรรมชาติ แต่คดีสิ่งแวดล้อมใช้เวลายาวนาน มีภาระพิสูจน์เยอะ พยานผู้เชี่ยวชาญมีน้อย เกือบทุกคดีผู้บริหารระดับท้องถิ่นถูกจ่ายปิดปาก ถึงเวลาประชาชนต้องกล้าสั่งสอนผู้บริหารท้องถิ่นนั้นๆโดยไม่เลือกกลับเข้ามาอีก.คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม