“รังสิมันต์ โรม” นำคณะ กมธ.ดูพื้นที่ขัดแย้งบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เล็งจัดหาอุปกรณ์จำเป็น “โดรน-แอนตี้โดรน” ช่วยตรวจจับและสกัดการรุกล้ำจากฝ่ายตรงข้าม พร้อมเสนอรัฐบาลใหม่ ฟ้องกัมพูชาต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ(ICC) เพื่อปราบขบวนการคอลเซ็นเตอร์ ยันแม้ไทยไม่ได้เป็นภาคีแต่มีวิธีเอาผิด ขณะที่สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ฝั่งอีสานใต้ ยังไม่นิ่ง ทภ.2 ชี้พบโดรนเขมร 44ลำบินป่วน รวมถึงพบการปรับปรุงที่มั่นทางทหารบางพื้นที่แม้ไทยมีการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ แต่การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ครั้งที่ 2 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-10 ก.ย.นี้ ณ เกาะกง ประเทศกัมพูชา ที่เป็นการจัดต่อเนื่องจากการประชุม GBC เมื่อ 7 ส.ค. ที่ประเทศมาเลเซีย ยังคงเดินหน้า ท่ามกลางสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคุกรุ่นและตึงเครียด โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยเมื่อวันที่ 6 ก.ย. ภาพรวมตลอดวันมีประชาชนจำนวนมากทั้งจากในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง เดินทางมามอบสิ่งของและอาหารให้กับทหารและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติภารกิจตรึงกำลังแนวชายแดน รวมถึงกลุ่มชาวบ้านจากจังหวัดพิจิตรที่นำธงไตรรงค์ผืนใหญ่ มาโบกสะบัดริมถนนสีเพ็ญ สร้างความฮึกเหิมถึงความรักชาติและส่งพลังใจให้เจ้าหน้าที่ขณะเดียวกัน นายรังสิมันต์ โรม ประธาน กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดน ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร พาคณะเดินทางมาติดตามและรับฟังปัญหาสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมี พันเอกชัยณรงค์ กาสี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ ให้การต้อนรับและชี้แจงสภาพพื้นที่จริง รวมทั้งพาคณะไปดูจุดที่มีการปักป้ายสามภาษา (ภาษาไทย-กัมพูชา-ภาษาอื่น) บริเวณแนวเขตชายแดน ซึ่งบรรยากาศขณะเข้าพื้นที่ยังมีความตึงเครียด เมื่อปรากฏชาวกัมพูชาส่วนหนึ่งมาคอยยืนดูและใช้โทรศัพท์มือถือคอยบันทึกภาพอยู่หลังแนวรั้วลวดหนาม แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าสถานการณ์ยังอยู่ภายใต้การควบคุม ไม่ได้รุนแรงตามภาพที่บางสื่อเผยแพร่ทั้งนี้ นายรังสิมันต์ระบุว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อรับฟังข้อเท็จจริงจากหลายฝ่าย ทั้งปัญหาความมั่นคงชายแดน การลักลอบเข้าเมือง การค้าชายแดน รวมถึงข้อพิพาทสิทธิในที่ดินที่มีผลกระทบต่อการดำรงชีพของประชาชนในพื้นที่และต่อความมั่นคงของประเทศ โดยเฉพาะกรณีที่มีการอ้างสิทธิในพื้นที่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อชาวบ้านฝั่งไทยกว่า 170 หลังคาเรือน เป็นประเด็นสำคัญที่ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนนำเสนอเป็นนโยบาย รวมทั้งการใช้ที่ดินในแนวเขต ปัญหาที่ได้รับการหยิบยกขึ้นมาจากชาวบ้าน ได้แก่ การอ้างสิทธิที่ดินจากฝั่งตรงข้ามแนวเขตที่ไม่ชัดเจน การลักลอบเข้าเมืองและการค้าของเถื่อน ล้วนมีผลต่อความมั่นคงและความเป็นอยู่ของประชาชน รวมถึงมาตรการเสริมความมั่นคงที่เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการรับมือภัยจากเทคโนโลยี เช่น โดรน คณะเห็นว่าจำเป็นต้องมีมาตรการป้องกันหรืออุปกรณ์ “แอนตี้โดรน” เพื่อช่วยตรวจจับและสกัดการรุกล้ำที่อาจเป็นภัยต่อกำลังพลและประชาชนในพื้นที่และจะเสนอประสานกับส่วนกลางเพื่อพิจารณาจัดหาและติดตั้งในพื้นที่ที่จำเป็นเป็นลำดับแรกนายรังสิมันต์ระบุด้วยว่า เมื่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการแล้ว จะเสนอให้ใช้กลไกศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ฟ้องกัมพูชา เพื่อการปราบปรามคอลเซ็นเตอร์ แม้ว่าไทยจะไม่ได้เป็นภาคี แต่มีวิธีเอาผิดและหลักฐานที่เชื่อได้ว่ากัมพูชาเป็นฐานคอลเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ทั้งนี้ ตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่ได้ฝากถึงคณะกมธ.ด้วยว่า ต้องการให้การแก้ไขเป็นไปอย่างยุติธรรม และให้หน่วยงานกลางเร่งรัดการรังวัดแนวเขตและคืนความชัดเจนด้านสิทธิที่ดิน เพื่อให้ชาวบ้านสามารถทำมาหากินได้โดยไม่ต้องหวาดระแวง ขณะเดียวกันชาวบ้านยังคาดหวังการดูแลด้านสาธารณูปโภคและความปลอดภัยเพิ่มเติมจากรัฐด้านพันเอกชัยณรงค์ กาสี ชี้แจงกับคณะ กมธ. ว่า หน่วยได้จัดกำลังและมาตรการควบคุมพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันเหตุร้ายและคุ้มครองสิทธิของประชาชนไทย พร้อมยืนยันว่าจะร่วมมือกับหน่วยงานพลเรือนในการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทพื้นที่เชิงกฎหมายจากนั้นในช่วงบ่าย ทีมงาน “กันจอมพลัง” เดินทางมาที่บ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว นำบังเกอร์และกล้องวงจรปิด มามอบให้เจ้าหน้าที่ โดยมีพันเอกชัยณรงค์ กาสี รอต้อนรับและพาดูจุดที่จะนำบังเกอร์เข้าไปตั้ง โดยทีมงานกันจอมพลัง กล่าวว่าจุดประสงค์ของการลงพื้นที่ครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการตรวจเยี่ยม แต่เพื่อดูความต้องการเร่งด่วนของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ โดยเฉพาะในส่วนของความปลอดภัยและการสังเกตการณ์ เนื่องจากพื้นที่ชายแดนบ้านหนองจานมีการสัญจรของบุคคลจากฝั่งประเทศกัมพูชา เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องมีเครื่องมือช่วยตรวจสอบว่ามีกิจกรรมใดที่อาจเป็นอันตรายต่อเจ้าหน้าที่หรือประชาชนสำหรับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ฝั่งอีสานใต้ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ออกแถลงสถานการณ์ประจำวันที่ 6 กันยายน 2568 ณ เวลา 14.00 น. สถานการณ์โดยรวมตรวจพบความเคลื่อนไหวของฝ่ายกัมพูชา โดยตรวจพบโดรน 44 ลำ และตรวจพบการปรับปรุงที่มั่นในบางพื้นที่ ปัจจุบันกองกำลังทั้ง 2 ฝ่าย ยังคงวางกำลังตามแนวที่มั่นของตนเอง ฝ่ายไทยจัดกำลังพลประจำจุดเฝ้าตรวจตามเหตุการณ์ เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามและเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตอบโต้ตามสถานการณ์ ขณะที่การดูแลผู้อพยพ สนับสนุนส่วนราชการทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน อำนวยความสะดวกประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงภัยไปยังพื้นที่รวบรวมพลเรือนในพื้นที่ จ.สุรินทร์ จำนวน 3 ศูนย์ ปัจจุบันมียอดรวม 153 คน เนื่องจากไม่มั่นใจในสถานการณ์ในพื้นที่ โดยฝ่ายปกครองได้จัดชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน เข้าดูแลพื้นที่ บ้านเรือนของพี่น้องประชาชนที่อพยพอย่างต่อเนื่องส่วนที่ศาลากลางของหมู่บ้านไทยสมบูรณ์ ม.2 ต.บ้านชบ อ.สังขะ จ.สุรินทร์ หน่วยงานราชการ พร้อมชาวบ้าน จัดกิจกรรมศาสนาสร้างขวัญกำลังใจ ฟื้นฟูและเยียวยาจิตใจ ทำบุญหมู่บ้าน ทำพิธีบายศรีสู่ขวัญทำพิธีบอกกล่าวดวงวิญญาณบรรพบุรุษให้ช่วยคุ้มครอง ปกปักรักษาหมู่บ้าน ให้มีแต่ความสุขและปลอดภัย หลังจากจรวด BM-21 ของทหารกัมพูชายิงมาใส่หมู่บ้าน โดยเฉพาะที่บ้านเลขที่ 68 บ.ไทยสมบูรณ์ ต.บ้านชบ ได้รับความเสียหายเกือบทั้งหลัง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย ในจำนวนนี้มีเด็กวัย 2 เดือน และอายุ 12 ปีด้วย โดยมีพระครูปทุมสังฆการ รองเจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ จากวัดปทุมเมฆ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พราหมณ์ประเสริฐ สุดสมัย เป็นผู้ทำพิธีบายศรีสู่ขวัญชาวบ้าน ขณะที่นายบุญเลี้ยง เรียมทอง นายอำเภอสังขะ ประธานในงาน กล่าวให้กำลังใจพร้อมมอบสิ่งของจากกาชาดจังหวัดเพื่อเป็นกำลังใจให้กับชาวบ้านทั้งนี้ บ้านไทยสมบูรณ์ ม. 2 ต.บ้านชบ อ.สังขะ จ.สุรินทร์ เป็นหมู่บ้านกระสุนตกจากเหตุการณ์สู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา มีกระสุนปืนใหญ่จากฝั่งกัมพูชามาตกภายในหมู่บ้าน และรอบๆหมู่บ้านส่วนใหญ่ตกใส่ไร่นาร่วม 40 ลูก มีผู้ได้รับบาดเจ็บและบ้านเรือนได้รับความเสียหายจำนวนมากวันเดียวกัน กระทรวงสื่อสารกัมพูชาเปิดเผยว่า นางอานิตตา ฮิปเปอร์ โฆษกสหภาพยุโรปด้านกิจการต่างประเทศและนโยบายความมั่นคง ออกแถลงการณ์ผ่านโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มเอ็กซ์ กระตุ้นให้กัมพูชาและไทยพยายามทุกวิถีทางเพื่อปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างแข็งขัน ทั้งสองฝ่ายต้องเคารพกฎหมายระหว่างประเทศและหลีกเลี่ยงการกระทำใดๆที่จะยกระดับความตึงเครียดตามแนวชายแดน นอกจากนี้ยังระบุว่าสหภาพยุโรปสนับสนุนมาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียนในปีนี้สำหรับความพยายามที่จะสร้างสันติภาพและเสถียรภาพที่ยั่งยืน ขณะที่ทางการกัมพูชาได้ยืนยันพันธสัญญาสันติภาพ พร้อมเน้นย้ำว่ากัมพูชาเคารพและปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเต็มที่มาตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค. และขอเรียกร้องให้ไทยดำเนินการเช่นเดียวกัน เพื่อสร้างเสถียรภาพและเสริมสร้างความร่วมมือในภูมิภาค ขณะเดียวกันยังแถลงว่าทหารกัมพูชายังคงถูกทหารไทยควบคุมตัวโดยผิดกฎหมายมาเป็นเวลานาน 39 วันแล้ว นับจนถึงวันที่ 6 ก.ย.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่