พร้อมรุกผงาดเข้ม! “เอ็มจีซี–เอเชีย” ซึ่งมีชื่อเต็มๆคือ “บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน)” หนึ่งในกลุ่มทุนยานยนต์บิ๊กเบิ้มของไทย ที่มี “ดร.จุ๋ย–สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ” เป็นซีอีโอ ประกาศเดินหน้าชนิดนันสต๊อปกางแผนครึ่งปีหลังวางกลยุทธ์สร้างผลงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมส่งสัญญาณบวก จากดีมานด์การใช้รถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขานรับกลุ่มเมกะเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้า มั่นใจรายได้ปี 2568 เติบโต 10%โดย “ดร.จุ๋ย-สัณหวุฒิ” ได้กล่าวในงาน Opportunity Day ร่วมนำเสนอข้อมูล ภายในงานบริษัทจดทะเบียนพบนักลงทุน (Opportunity Day) ได้ตอกย้ำความสำเร็จ หลังจากประกาศผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2568 ที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 109 ล้านบาท เติบโต 167% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (YoY)พร้อมเปิดเผยถึงภาพรวมของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในครึ่งปีหลัง 2568 ว่า บริษัทยังได้รับปัจจัยหนุนจากการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งคาดว่าในปีนี้จะมีจำนวนยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนใหม่เพิ่มขึ้น 100,000 คัน พร้อมทั้งได้ตั้งเป้าการขับเคลื่อนกลยุทธ์ใน 4 กลุ่มธุรกิจเพื่อให้สอดรับกับทิศทางธุรกิจในครึ่งปีหลัง อาทิกลุ่มธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ (Mobility Retail) มองว่า ภาพรวมของรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV มีแนวโน้มเติบโตแบบก้าวกระโดดตามเมกะเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจะเห็นได้จากยอดจองรถ New XPENG G6 SUV ไฟฟ้าอัจฉริยะ และ XPENG X9 รถตู้ไฟฟ้าทรงสปอร์ตอัจฉริยะ ที่บริษัทเป็นตัวแทนจำหน่าย ซึ่งขึ้นแท่นเป็นอันดับ 1 รถตู้ไฟฟ้าพรีเมียม ภายในงาน Big Motor Sale 2025 ได้รับกระแสตอบรับที่ดีเกินคาด และคาดว่ายอดจองจะเพิ่มขึ้นจากการกระตุ้นยอดขาย ส่งท้ายปี ที่เตรียมจัดขึ้นภายใต้งาน “MGC- ASIA Mobility Expo” ที่สยามพารากอน กลางเดือน ต.ค.นี้ ทำให้คาดว่าภายในปีนี้ จะมียอดจองเพิ่มสูงขึ้นเพื่อตอกย้ำบทบาทผู้นำด้านธุรกิจไลฟ์สไตล์โมบิลิตี้แบบครบวงจรที่ก้าวเข้าสู่ปีที่ 25 ภายใต้การเดินหน้าสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านแนวคิด ESG ส่งผลให้บริษัทดำเนินโครงการอย่างครอบคลุมทุกมิติ ภายใต้การนำร่องติดตั้งโซลาร์รูฟ โครงการแรกที่ BMW Millennium Auto สาขาพัฒนาการ ช่วงไตรมาส 4/2568 สู่การขยายไปยังสาขาอื่นๆเพิ่มเติมในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด รวมถึงดาดฟ้าอาคารต่างๆที่ไม่ได้ใช้งาน ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานมากกว่า 30% ต่อปีพร้อมทั้งช่วยสร้างร่มเงาให้กับรถยนต์ของลูกค้าและรถใหม่ที่รอการส่งมอบ ถือเป็นการประยุกต์รูปแบบการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับการสร้างความยั่งยืนให้แก่องค์กรและสังคมให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะ “ESG ไม่ใช่แค่แนวทาง แต่คือคำมั่นสัญญาในการสร้างอนาคตที่ดีกว่าของกลุ่ม”จากแผนเชิงรุกในทุกกลุ่มธุรกิจช่วงครึ่งปีหลัง ประกอบกับการต่อยอดความสำเร็จจากการเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดใน บริษัท นีโอ โมบิลิตี้ เอเชีย จำกัด (Neo Mobility Asia) ทำให้บริษัท สามารถรับรู้รายได้ทั้งหมดเข้ามาตั้งแต่ครึ่งปีหลังเป็นต้นไป ซึ่งจะสร้างอัตราการเติบโตให้ MGC-ASIA ในอนาคตได้อย่างมีนัยสำคัญ“รวมถึงจะผลักดันรายได้ในปี 2568 เติบโต 10% ตามเป้าหมายที่วางไว้”.อัลคาโปนคลิกอ่านคอลัมน์ “มอเตอร์วอร์ส” เพิ่มเติม