หลายจังหวัดยังเผชิญอุทกภัย ที่นครพนม แม่น้ำโขงหนุนลำน้ำสาขาเอ่อท่วมนาข้าวกว่า 4 พันไร่ ที่บึงกาฬ เกิดเหตุสลดแม่พาลูกวัย 2 ขวบ ขี่ จยย.ผ่านฝายน้ำล้นถูกน้ำซัดจมลำห้วย ด้าน “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” นำทีมตอบโต้ภัยพิบัติพร้อมเรือท้องแบนช่วยชาวหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ หลังระดับน้ำยังสูงกว่า 2 เมตร ด้านเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่มรองรับน้ำเหนือ ส่งผลให้แม่น้ำน้อยเอ่อท่วมโรงเรียน อ.บางบาล เมืองกรุงเก่า ต้องปิดเรียนหนีน้ำสถานการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัดยังหนัก เมื่อวันที่ 4 ก.ย.ที่ จ.เลย ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำเลยยังคงได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม บางจุดระดับน้ำสูงเกือบ 2 เมตร โดยเฉพาะบริเวณตรอกไก่ตาย (บ้านล่าง) ต.กุดป่อง อ.เมืองเลย ได้รับผลกระทบหนัก ประชาชนเดือดร้อนกว่า 20 หลังคาเรือน บางครอบครัวไม่สามารถสัญจรออกจากบ้านได้ ต้องนำที่นอนยางพาราเก่ามาพายแทนเรือ ขณะที่ พล.ต.ต.วีระเดช เลขะวรกุล ผบก.ภ.จ.เลย พร้อม พ.ต.ธนู ฤทธิฤาชัย รอง ผบก.ภ.จ.เลย และ พ.ต.อ.วรชัย บางยี่ขัน ผกก.สภ.เมืองเลย ลงพื้นที่ร่วมกับผู้นำชุมชนนำสิ่งของลงเรือไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่ จ.นครพนม แม่น้ำโขงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ลำน้ำสาขาสายหลักระบายช้า เกิดปัญหาเอ่อท่วมพื้นที่ลุ่ม ขณะที่ลำน้ำก่ำที่ระบายน้ำมาจากต้นน้ำหนองหาร จ.สกลนคร ปัจจุบันประมาณน้ำเกินความจุต้องระบายลงลำน้ำก่ำผ่าน อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร อ.วังยาง และ อ.นาแก จ.นครพนม เพื่อระบายลงแม่น้ำโขงที่ประตูระบายน้ำธรณิศนฤมิต โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาน้ำก่ำ สำนักงานชลประทานที่ 7 อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ทำให้ลำน้ำก่ำเอ่อท่วมนาข้าวแล้วกว่า 4,000 ไร่ โดยเฉพาะบ้านปากบัง ต.พิมาน อ.นาแก ชาวบ้านได้รับผลกระทบกว่า 200 หลังจ.บึงกาฬ ร.ต.อ.อดิศักดิ์ เหนือโพธิ์ทอง รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองบึงกาฬ รับแจ้งพบคนจมน้ำ 2 ศพในลำห้วยสนาบ หมู่ 5 บ้านแสนสุข ต.นาสวรรค์ อ.เมืองบึงกาฬ ทราบชื่อ น.ส.น้ำฝน นาเชียงขวาง อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 หมู่ 6 บ้านโคกสว่าง ต.นาสวรรค์ และ ด.ช.ธนพล นาเชียงขวาง อายุ 2 ขวบ ลูกชาย น.ส.น้ำฝน สอบสวนพบว่าเมื่อวันที่ 2 ก.ย.เวลาประมาณ 15.00 น. น.ส.น้ำฝนพาลูกชายซ้อนท้ายรถ จยย.ผ่านฝายน้ำล้นห้วยสนาบเป็นช่วงที่ฝนตกหนักและน้ำล้นฝายซัดจมลำห้วยหายไปทั้งรถทั้งคน ล่าสุดชาวบ้านออกหาปลาพบศพเด็กลอยอยู่ท้ายลำห้วย ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่งมหารถ จยย.จมอยู่ใต้ฝายและศพ น.ส.น้ำฝนอยู่ห่างจากฝายน้ำล้น 2 กม.ด้านนายเอกวิทย์ มีเพียร ผวจ.แม่ฮ่องสอน สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือพื้นที่ประสบอุทกภัยที่บ้านหนองเขียว หมู่ 10 ต.ห้วยโป่ง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน หลังได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มอย่างหนัก ถนนถูกตัดขาด ไฟฟ้าและสัญญาณโทรศัพท์ไม่สามารถติดต่อได้ เจ้าหน้าที่ใช้เฮลิคอปเตอร์นำถุงยังชีพไปแจกจ่ายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน รวมถึงนำผู้ป่วยฉุกเฉินส่งโรงพยาบาล ส่วนถนนเส้นทางเข้าบ้านหนองเขียว ต.ห้วยโป่ง ที่ถูกตัดขาดมากว่า 7 วัน คาดว่าจะสามารถเปิดให้ประชาชนสัญจรได้ในเร็วๆนี้ที่ จ.เพชรบูรณ์ สายวันเดียวกัน นางรัตนา สมสกุลรุ่งเรือง ประธานมูลนิธิร่วมกตัญญู มอบหมายให้นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ผจก.ฝ่ายกิจกรรมพิเศษ มูลนิธิฯ พร้อมทีมตอบโต้ภัยพิบัตินำเรือท้องแบน 5 ลำ พร้อมถุงยังชีพและเครื่องอุปโภคบริโภคกว่า 200 ชุด ไปแจกจ่ายบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน ต.ปากดุก และ ต.หนองไขว่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ที่ยังมีน้ำท่วมขังสูงกว่า 2 เมตรนาน กว่า 10 วันแล้วพร้อมมอบเงินเยียวยาครอบครัวละ 1,000 บาทส่วนสถานการณ์ลุ่มน้ำเจ้าพระยาที่รองรับน้ำเหนือที่เพิ่มขึ้น ล่าสุดเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ระบายน้ำอัตราไม่ต่ำกว่า 1,500 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้พื้นที่ท้ายน้ำได้รับผลกระทบ ที่ จ.อ่างทอง ชาวบ้านที่อาศัยอยู่พื้นที่นอกคันกั้นน้ำริมคลองโผงเผง สาขาแม่น้ำเจ้าพระยา ต.โผงเผง อ.ป่าโมก ได้รับความเดือดร้อน เจ้าหน้าที่ อบต.โผงเผง ร่วมกับทหารกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 11 ช่วยกันวางกระสอบทรายป้องพื้นที่นอกคันกั้นน้ำในพื้นที่หมู่ 1, 2, 3 และ 5 ป้องกันน้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนเช่นเดียวกับ จ.พระนครศรีอยุธยา แม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้แม่น้ำน้อยเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมชุมชน วัด และโรงเรียนหลายแห่ง โดยเฉพาะใน ต.วัดตะกู อ.บางบาล โรงเรียนวัดตะกู ต้องประกาศปิดการเรียนการสอนหนีน้ำชั่วคราวเป็นเวลา 1 สัปดาห์ หลังเขื่อนเจ้าพระยาปล่อยน้ำเพิ่มขึ้น ส่งให้น้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็วกว่า 15-20 ซม. ไหลท่วมอาคารเรียน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและทหารกองพันทหารม้าที่ 24 ไปช่วยครูและชาวบ้านเก็บอุปกรณ์การเรียนการสอนหนีน้ำอย่างเร่งด่วนอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่