คงต้องวัดใจด่านอรหันต์จะผ่านบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายนายพลสีกากีไปแบบฉลุยหรือไม่การบ้านชิ้นสำคัญสำหรับ ก.ตร.ที่คาดว่าจะมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาการนายกรัฐมนตรี “นั่งหัวโต๊ะ” พิจารณาร่วมกับคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิหลังบอร์ดกลั่นกรองใช้เวลานานกว่า 10 ชั่วโมงคัดขุนพลนั่ง “ตำแหน่งสำคัญ” เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ความเหมาะสมผิดฝา ผิดตัว เลือกเอา “คนมีของ” ใกล้ชิดขั้วอำนาจไปนั่งเก้าอี้หลายพื้นที่มองข้ามกลุ่มคนทำงานด้วยข้ออ้างถึงความอาวุโสทั้งที่ “กันโควตา” ให้อาวุโสไปแล้ว 50 เปอร์เซ็นต์ที่จะได้พิจารณาเลื่อนตำแหน่งระดับ ผบช.ลงมาทำไมต้องเอามาเป็นเกณฑ์ “ตัดผู้มีคุณสมบัติ” เต็มไปด้วยความรู้ความสามารถขึ้นมา “ซ้ำซ้อน” อีกตัวอย่างชัดเจนเกิดขึ้นกับ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ที่ถูกสังคมจับตามอง32 ปีแห่งการทุ่มเททำงานรับใช้ประชาชน พิทักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ภายใต้ชื่อ “ลูกหม้อนครบาล” ไม่สามารถการันตีตำแหน่งหน้าที่ให้เจริญก้าวหน้าแฟ้มประวัติยาวเหยียดอธิบายเป็นเล่มยิ่งกว่านิยายสืบสวนสอบสวนคดีอาชญากรรมเป็นที่ประจักษ์ต่อสื่อมวลชน และเหล่าผู้พิทักษ์สีกากีรอบกาย บันทึกสรุปผลการปฏิบัติงานเหลือเวลาอีกเพียงแค่ 4 ปีต้องเกษียณอายุราชการในปี 2572ผ่านหลักสูตรการสืบสวนจากต่างประเทศนับไม่ถ้วนคลี่คลายคดีสำคัญระดับชาติด้วยการลงไปคลุกคลีด้วยตัวเองตั้งแต่ยังเป็นนายตำรวจหนุ่ม 30 ทายาทนักสืบรุ่นแรก ของนครบาลจนก้าวเป็นอาจารย์ถ่ายทอดตำราผ่านลูกศิษย์รุ่นน้องวัดเกรดคะแนนครบเครื่อง “เหนือคนอื่น” ที่ถูกหยิบลงตะกร้าแล้ว ก.ตร.จะเป็นเพียง “ตรายาง” ประทับผ่านไปไม่ดูดายอย่างนั้นหรือ.สหบาทคลิกอ่านคอลัมน์ “ส่องตำรวจ” เพิ่มเติม