ดร.พีระพันธ์ เหมะรัต เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยว่า ตามที่ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.ศึกษาธิการ ได้มีนโยบายแก้ไขปัญหาหนี้สินครู โดยให้ สกสค.เป็นหน่วยงานหลักในการแก้ปัญหาดังกล่าวด้วยการจัดตั้งสหกรณ์กลาง สกสค.นั้น ตนได้หารือร่วมกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ซึ่งถือว่าเป็นการบรรลุข้อตกลงที่จะขับเคลื่อนโมเดลสหกรณ์กลางเป็นไปในทิศทางที่ดี โดยเฉพาะการแก้ไขระเบียบนายทะเบียนสหกรณ์ ว่าด้วยหลักเกณฑ์การพิจารณาให้ความเห็นชอบในการซื้อหุ้นของสถาบันที่ประกอบธุรกิจอันทำให้เกิดความสะดวกหรือส่งเสริมความเจริญแก่กิจการของสหกรณ์ พ.ศ.2567 ซึ่งขั้นตอนจากนี้เมื่อได้แนวทางที่ชัดเจนจะเสนอ ศ.ดร.นฤมลนำเข้าที่ประชุม สกสค. เพื่อสรุปเป็นมติที่ประชุม และนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป ซึ่งคาดว่าจะเสนอที่ประชุม ครม.ภายในเดือน ส.ค.นี้เลขาธิการ สกสค.กล่าวอีกว่า ตนขอย้ำว่าการตั้งสหกรณ์กลางนี้ไม่ได้เป็นการตั้งขึ้นแข่งกับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูประจำจังหวัด หรือสถาบันการเงินอื่น โดยการดำเนินงานของสหกรณ์กลาง สกสค.นั้น จะเป็นการโอนหุ้น และโอนหนี้ พร้อมกับการันตีอัตราดอกเบี้ยต่ำในการปรับโครงสร้างหนี้ โดยเฟสแรกจะเปิดให้ครูลงทะเบียนในเดือน ต.ค.นี้ พร้อมกับเงินทุนสำรองประมาณแสนล้านบาท และมีอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ปีแรก 0% ไปจนถึงปีที่ 4 ดอกเบี้ยไม่เกิน 4% ดังนั้น หากใช้โมเดลนี้ในการดำเนินการก็จะทำให้เกิดแรงกระเพื่อมของสหกรณ์ออมทรัพย์อื่นให้ปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลดลงตาม อีกทั้งสหกรณ์กลาง สกสค.จะดำเนินตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยจะนำเข้าระบบเครดิตบูโรด้วย และเมื่อครูสมัครเข้าร่วมโครงการจะมีการอบรมหลักสูตรการเงิน เพื่อวางแผนขั้นตอนการใช้จ่ายเงินป้องกันตัวเองไม่ก่อหนี้หรือไปจมอยู่กับระบบหนี้แบบเดิมอีกต่อไป ถือเป็นการทำงานเฉพาะกิจช่วยแก้ปัญหาหนี้เสีย ปรับโครงสร้างหนี้เร่งด่วนและแก้ปัญหาให้ได้ภายใน 3 เดือน.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่