“บิ๊กเต่า” นำทีม 4 ป. แถลงผลปฏิบัติการ “นารีพิฆาตพระ” รวบ “สีกากอล์ฟ” คาบ้าน แจ้ง 3 ข้อหาหนัก ในคดีพบเส้นเงินรับโอนจากอดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ 3.8 แสน เผยที่มาเรื่องฉาวในดงขมิ้นรับบัญชาจาก ผบ.ตร.เรื่องมีเหตุกรรโชกทรัพย์จนพบความสัมพันธ์ระหว่าง “สีกากอล์ฟ” กับ “สมีอาชว์” สืบจนพบเส้นเงินเกี่ยวพันหลายวัด เปิดปฏิบัติการตรวจค้นยึดมือถือตรวจสอบพบความสัมพันธ์กับพระหลายรูปแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม อึ้งเงินหมุนเวียน 3 ปีย้อนหลัง 385 ล้าน ส่วนใหญ่พบโอนไปเว็บพนันสูงสุดครั้งละ 5 แสนบาท ขณะที่กองปราบฯจ่อหมายจับอีก 2 คดี ฉ้อโกงอดีต ผอ.พศจ.พิจิตร 4.5 แสน และรีดเอาทรัพย์ “สมีแหล่” บังคับให้เขียนร้องเรียน “สมีอาชว์” เสพเมถุน ด้านเจ้าคณะจังหวัดพิจิตรเข้าลาสิกขากับรองเจ้าคณะภาค 4 วัดตากฟ้า จ.นครสวรรค์ หลังคลิปใส่เสื้อยืดสีขาวไอเลิฟยูว่อนเน็ต ในหลวงทรงยกเลิกพระราชทานสมณศักดิ์พระ 81 รูป ผิดวินัยกระทบจิตใจพุทธศาสนิกชนจากข้อมูลคลิปในโทรศัพท์มือถือ 5 เครื่องของ “สีกากอล์ฟ” วัย 35 ปี ส่งผลให้วงการสงฆ์เสื่อมอย่างไม่เคยปรากฏ พระชั้นผู้ใหญ่สึกกันระเนนระนาดเพราะหลักฐานภาพเสพสังวาสกับผู้หญิงคนเดียวกันชัด เริ่มจาก 1.พระเทพวชิรปาโมกข์ อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ กรุงเทพฯ 2.พระเทพวชิรธีราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉายวรวิหาร จ.สระบุรี 3.พระเทพวชิรธีรคุณ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ กทม. 4.พระมหาบุญเลิศ อินฺทปญฺโญ วัดใหม่ยายแป้น กรุงเทพฯ 5.พระครูสิริวิริยธาดา อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวราราม จ.ฉะเชิงเทรา 6.พระครูปลัดสุรพล อิทธิเตโช อดีตเจ้าอาวาสวัดพรหมเกษร จ.พิษณุโลก ล่าสุดวันที่ 14 ก.ค.พระชั้นผู้ใหญ่ยอมสึกอีก 2 รูปคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ กทม.ย่องถอดจีวรที่บ้านค่าย จ.ระยอง และพระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม พระอารามหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา รวมขณะนี้สึกแล้วทั้งหมด 8 ราย ขณะที่นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกฯ จี้ พศ.เร่งแก้ พ.ร.บ.สงฆ์ เอาผิดพระ-สีกา เสพเมถุน ทั้งปรับทั้งติดคุก จ่อกฎเหล็กวัดห้ามถือเงินสดเกิน 1 แสน ที่เหลือฝากเข้าบัญชีธนาคารในพื้นที่วัดตั้งอยู่ ตามที่เสนอข่าวไปนั้นศาลออกหมายจับ “สีกากอล์ฟ”เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 15 ก.ค. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป.พร้อมพนักงานสอบสวนบก.ปปป. นำหลักฐานคดีสีกากอล์ฟ ขออำนาจศาล อาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ น.ส.วิลาวัลย์ ขอสงวนนามสกุล หรือสีกากอล์ฟ อายุ 35 ปี เลขที่ จ.66/2568 ลงวันที่ 15 ก.ค.2568 ข้อหาเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานละเว้นหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, หรือรับของโจร, สมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน“บิ๊กเต่า” จับเองถึงบ้านปากเกร็ดต่อมาเวลา 12.30 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.ท.ศิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) พ.ต.อ.เพิ่มวุฒิ ปทุมราช ผกก.1. บก.ปปป. พ.ต.อ.วนัสชัย ยิ่งยงสมสวัสดิ์ ผกก.2 บก.ปปป. พร้อมพนักงานสอบสวน บก.ปปป.นำหมายจับ เดินทางไปจับกุมสีกากอล์ฟ ที่บ้านพัก ในหมู่บ้านหรูย่านปากเกร็ด ทั้งนี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวกับสีกากอล์ฟว่า “ตำรวจทำตามพยานหลักฐานข้อเท็จจริง ไม่ได้เป็นการรังแก เป็นไปตามกระบวนการ ต้องเข้าสู่กระบวนการ มีอะไรไปว่ากันในชั้นศาล” จากนั้นนำตัวมาสอบสวนที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางทันที“อดีตเจ้าวัดชูจิต” อ้างถูกยืมเงินรายงานว่า หลังจากเมื่อวานนี้ (14 ก.ค.) ตำรวจบก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.นำตัวอดีตพระเทพพัชราภรณ์ หรือนายสมพงษ์ ฐิตว์โส อายุ 67 ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม จ.พระนครศรีอยุธยา มาสอบปากคำเรื่องเส้นเงินที่นำเงินเก็บส่วนตัวโอนไปให้สีกากอล์ฟ 12.8 ล้านบาท ยังไม่รวมเงินบัญชีวัดโอนไปให้สีกากอล์ฟ อีก 3.8 แสนบาท ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.ค.67 อดีตพระเทพพัชราภรณ์หรือนายสมพงษ์ อ้างว่าสีกากอล์ฟ มาขอยืมเงินไปทำธุรกิจเซรามิก ทำให้หลงเชื่อโอนเงินเก็บส่วนตัวให้เรื่อยมาจนเกลี้ยงบัญชี สุดท้ายไม่รู้ว่าจะหาเงินจากไหนมาให้ เอาเงินวัด 3.8 แสนบาท โอนให้ก่อนจะนำคืนกลับเข้าบัญชีวัดอีกครั้งตร.แจ้ง 2 ข้อหา–ปล่อยชั่วคราวการกระทำดังกล่าวถึงจะนำเงินกลับคืนบัญชีวัดแล้ว แต่ถือว่าการกระทำผิดสำเร็จแล้ว พนักงานสอบสวน บก.ปปป. แจ้งข้อกล่าวหานายสมพงษ์หรืออดีตพระเทพพัชราภรณ์ ในฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานยักยอกเงินวัด และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 147 และ 157 แต่ทั้งนี้อดีตพระเทพพัชราภรณ์มาพบพนักงานสอบสวนด้วยตัวเองไม่มีความคิดหลบหนี รวมทั้งรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี รวมทั้งให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี หลังแจ้งข้อหาพนักงานสอบสวนจึงอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวปูดคลิปน้อยใจใช้ไฟฉายตีหัวส่วนหลักฐานอดีตพระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม จ.พระนครศรีอยุธยา กับสีกากอล์ฟ ประพฤติตัวไม่เหมาะสม เป็นคลิปทะเลาะกันฟีลผัวเมียในห้องส่วนตัวในวัดชูจิตฯ ทั้งคู่มีปากเสียงกันถึงขั้นยื้อยุดฉุดแขน มีบางจังหวะที่อดีตพระเทพพัชราภรณ์แสดงอาการเหมือนน้อยใจใช้กระบอกไฟฉายตีหัวตัวเองอีกด้วย สำหรับคลิปดังกล่าวมีญาติสีกากอล์ฟเป็นผู้ถ่ายไว้เจ้าคณะพิษณุโลกยังล่องหนนอกจากนี้ยังมีภาพยืนยันถึงการประพฤติตัวไม่เหมาะสมของพระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ที่แอบไปมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสีกากอล์ฟ หลักฐานดังกล่าวเป็นรูปภาพที่ถูกบันทึกไว้ในขณะพระราชรัตนสุธีกำลังนอนเปลือยกายท่อนบนอยู่บนเตียงนอน มีขวดนมเด็กเล็กตั้งอยู่ข้างๆ นอกจากนี้ยังมีภาพหน้าจอโทรศัพท์มือถือที่ถูกบันทึกไว้ขณะที่พระราชรัตนสุธีกำลังวิดีโอคอลพูดคุยกับสีกากอล์ฟ ข้อมูลเหล่านี้อยู่ระหว่างรวบรวมส่งสำนักพุทธให้เอาผิดทางวินัยสงฆ์ตามขั้นตอนต่อไป สำหรับ พระราชรัตนสุธีพบว่าหนีหายออกจากวัดตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ก.ค. หรือตั้งแต่มีการเปิดโปงความสัมพันธ์สวาทของสีกากอล์ฟกับพระชั้นผู้ใหญ่ต่างๆ เกิดขึ้นด้วยคลิปว่อนโล้นหน้าคล้ายพระดังส่วนกรณีมีการเผยแพร่ภาพแชต “สีกากอล์ฟ” พูดคุยกับชายหัวโล้นใส่เสื้อยืดสีขาวมีหน้าตาคล้ายพระผู้ใหญ่ใน จ.พิจิตร เมื่อวาน (14 ก.ค.) ที่ผ่านมา ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์อย่างกว้างขวาง ล่าสุดเมื่อเวลา 07.00 น.วันเดียวกัน ที่พระอุโบสถวัดท่าหลวง พระอารามหลวง อ.เมืองพิจิตร ไม่พบพระเทพวัชรสิทธิเมธี เจ้าอาวาสวัดท่าหลวง และเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ลงมาทำวัตรเช้าร่วมกับคณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนตามปกติ ส่วนบริเวณกุฏิที่พักและสำนักงานเจ้าคณะจังหวัดประตูปิดเงียบสุดท้ายย่องสึกเป็นรายที่ 9มีรายงานว่า พระเทพวชิรสิทธิเมธี เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร เจ้าอาวาสวัดท่าหลวง หลังถูกพาดพิงเกี่ยวข้องกับ “สีกากอล์ฟ” ได้เข้าพบพระธรรมวชิราภรณ์ (ริด ริตเวที ป.ธ.9) หรือ “เจ้าคุณริด” เจ้าอาวาสวัดตากฟ้า พระอารามหลวง อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์ เพื่อลาสิกขา ในโบสถ์วัดตากฟ้าพระอารามหลวง ใช้เวลาประมาณ 20 นาที หลังจากนั้น ได้เดินทางกลับ ขณะที่พระธรรมวชิราภรณ์ (ริด ริตเวที ป.ธ.9) หรือ “เจ้าคุณริด” ก็ไม่สะดวกให้สัมภาษณ์เพราะต้องไปทำศาสนกิจที่จังหวัดพิษณุโลก ตามหมายกำหนดการที่ได้ประสานไว้ก่อนหน้านี้แล้วแฉชาวบ้านร้องเรียนหลายเรื่องสำหรับพระเทพวัชรสิทธิเมธี ก่อนหน้านี้เคยมีชาวบ้านยื่นหนังสือร้องเรียนต่อสำนักงานพระพุทธ ศาสนาแห่งชาติ ให้ตรวจสอบพฤติกรรมในหลายประเด็น เช่น การใช้เงินซื้อขายตำแหน่ง ไม่ทำวัตรสวดมนต์ ไม่บิณฑบาต ใช้ของหรูหราฟุ่มเฟือย เสพเมถุนกับสีกา และฉ้อโกงทรัพย์สินวัด เรื่องอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นปกครองของสงฆ์ ส่วนเรื่อง “สีกากอล์ฟ” ที่ผ่านมาเจ้าตัวยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องและยอมจะให้ตรวจสอบตามกระบวนการทั้งหมดด้วยอ้างสึกเพราะป่วย–ดูแลบุพการีมีรายงานว่า พระเทพวัชรสิทธิเมธี ให้เหตุผลการลาสิกขาว่าประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เมื่อ มี.ค.64 เป็นเหตุให้ต้องผ่าตัดฝังเหล็กตามกระดูกสันหลัง และกระดูกต้นขาเป็นระยะเวลาหลายปี และยังคงมีอาการอาพาธอยู่เนืองๆ ยังมีภาระที่ต้องดูแลบุพการีผู้มีอุปการคุณที่อายุ 99 ปี เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติกิจของสงฆ์ และหน้าที่พระสังฆาธิการ อีกทั้งยังตกเป็นข่าวฉาวกับสีกากอล์ฟ ทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อคณะสงฆ์เป็นอย่างมาก ขอลาออกจากการเป็นเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อคณะสงฆ์โดยรวมต่อไป“บิ๊กเต่า” นำทีมแถลงผลปฏิบัติการต่อมาเวลา 16.30 น. วันเดียวกัน ที่ห้องแถลงข่าวชั้น 2 กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการ คณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษสำนักงานคณะกรรมการป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ร่วมแถลงผลการจับ น.ส.วิลาวัลย์ หรือสีกากอล์ฟ และแจ้งข้อหานายสมพงษ์ ฐิตว์โส อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมารามเบื้องหลัง “บิ๊กต่าย” สั่งการสืบพล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวต่อว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ให้ความสำคัญอย่างมาก ให้ดำเนินการกับทุกคนที่เกี่ยวข้องในทุกข้อหาอย่างตรงไปตรงมา เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ผบ.ตร.ให้ตรวจสอบว่ามีลักษณะของการกรรโชกทรัพย์อย่างอุกอาจ ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง ป.ป.ช. ปปง. ป.ป.ท. บก.ป. ร่วมกันสืบสวนและดูเรื่องวินัยสงฆ์ เนื่องจากคลิปต่างๆ หากหลุดไปในสังคมจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันศาสนาเป็นอย่างมากเปิดปฏิบัติการตรวจค้นหามือถือรอง ผบช.ก.กล่าวต่อว่า หลังได้รับข้อมูลมา 1 สัปดาห์ เบื้องต้นพบว่าสีกากอล์ฟเรียกรับทรัพย์สินมีความสัมพันธ์กับเจ้าคุณอาชว์ เจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ ตั้งแต่ พ.ค.67 ก่อนจะห่างกันไป ต่อมามีการอ้างว่ามีลูกที่เกิดกับเจ้าคุณอาชว์ ขอค่าเลี้ยงดู 20 ปี รวมเป็นเงิน 7.2 ล้านบาท เจ้าคุณอาชว์ไม่มีจ่ายจึงตีตัวออกห่าง ตรวจสอบเส้นเงินพบว่ามีเส้นเงินเกี่ยวข้องกับอีกหลายวัด มีปฏิบัติการตรวจค้นเพื่อเอาโทรศัพท์มือถือ หรือโน้ตบุ๊กหรือเอกสารต่างๆที่เกี่ยวข้อง เมื่อนำมาตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังพบว่ามีพระที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก มีคลิปและไลน์หลายอันที่ทำเพื่อกรรโชกทรัพย์หรือแบล็กเมล์ พระที่ทยอยสึกเป็นจำนวนมากรู้ตัวว่ากระทำผิดวินัยสงฆ์อึ้งเงินหมุนเวียน 3 ปี 385 ล.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. กล่าวว่า หลังจากเหตุวัดตรีทศเทพวรวิหาร ได้ทราบข้อเท็จจริงตัวผู้หญิงมีข้อมูลที่ก่อเหตุใน จ.พิจิตร ตัวสีกากอล์ฟ เดิมมีพฤติกรรมลักษณะแบบนี้ มีการตรวจสอบเส้นทางการเงิน และเข้าค้นบ้านสีกากอล์ฟ พบว่ามีพระจำนวนมากที่เข้ามาเกี่ยวข้อง จนมีการแยกกลุ่มพระออกเป็น 3 กลุ่ม คือกลุ่มที่ 1 เป็นกลุ่มที่สีกายอมรับว่ามีการร่วมประเวณีหรือเสพเมถุน 9 รูป สึกแล้ว 8 รูป เหลือ 1 รูป คือเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ทุกคนพบว่ามีเส้นเงินโอนให้ตั้งแต่หลักพันไปถึงหลักสิบล้านบาท กลุ่มที่ 2 คือกลุ่มที่มีความสัมพันธ์ลักษณะเชิงชู้สาว 3 รูป กลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มพระที่ประพฤติตนไม่เหมาะสมไม่สมควร กลุ่มนี้อยู่ระหว่างพิจารณาว่ามีพระจำนวนเท่าใด ตรวจสอบเงินในบัญชีของสีกากอล์ฟ 3 ปีย้อนหลังพบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้าน ส่วนใหญ่พบโอนไปเว็บพนันสูงสุดครั้งละ 500,000 บาท และเหลือเงินในบัญชี 8,000 บาทมีเหยื่อแจ้งจับฉ้อโกง 2 คดีด้าน พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป.กล่าวว่า มีผู้เสียหายมาร้องทุกข์เอาผิดสีกากอล์ฟ 2 เรื่องเมื่อวันที่ 13 ก.ค. มีอดีต ผอ.พศจ.พิจิตร ร้องทุกข์ความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกง โดยปี 2561 ขณะที่ผู้เสียหายได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับเจ้าคณะจังหวัดพิจิตรเสพเมถุนกับสีกากอล์ฟตั้งแต่ปี 2559 ได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจนถูกย้าย และเกษียณอายุราชการเมื่อปี 2564 จากนั้นปี 2565 มีการร้องเรียนว่ามีการเสพเมถุนและประพฤติทุจริตเกี่ยวกับเงินสำนักงานพระพุทธศาสนายังไม่ได้ดำเนินการ จึงสืบสวนต่อได้เบอร์โทรศัพท์ของสีกากอล์ฟ และได้ติดต่อไป สีกากอล์ฟยืนยันว่ามีหลักฐานเกี่ยวพันกับเจ้าคณะจังหวัดพิจิตรจริง แต่ไม่ยอมให้ข้อมูล กระทั่งปี 2566 ได้ติดต่อกลับมาอ้างตัวเองป่วยหนักต้องผ่าตัดใน รพ.ในกรุงเทพฯ ขอยืมเงิน 400,000 บาท นำมารักษาตัว แต่ในข้อความแชตไลน์ได้พูดเหมือนมีข้อมูลแต่จะไม่ให้เงินก็ได้ ผู้เสียหายจึงโอนเงินไปให้ ต่อมาวันรุ่งขึ้นได้ทักไลน์ขอเงินอีก 50,000 บาท เนื่องจากบัตรเครดิตได้ตัดไปเงินไม่ครบ เมื่อได้เงินไปกลับติดต่อไม่ได้และไม่ได้ให้ข้อมูล สีกากอล์ฟยืนยันว่าไม่มีการผ่าตัดจริงและไม่มีข้อมูล ผู้เสียหายมาร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกง“สมีแหล่” แจ้งจับถูกรีดทรัพย์พ.ต.อ.เอนกกล่าวต่อว่า วันเดียวกันอดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร มาร้องทุกข์กับกองปราบฯ ให้ดำเนินคดีสีกากอล์ฟฐานรีดเอาทรัพย์ ทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ สีกากอล์ฟพยายามจะเข้าหาเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ผ่านผู้เสียหายจนภายหลังมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาว และได้ทักมาขอเงิน 15,000 บาท เพื่อนำไปมัดจำเซรามิกที่นำเข้าจากต่างประเทศ เหยื่อไม่มีเงิน สีกากอล์ฟข่มขู่จะเผยความลับที่เสพเมถุน จำต้องโอนให้ 8,000 บาท และถูกบังคับให้ทำหนังสือร้องเรียนเจ้าคุณอาชว์เรื่องเสพเมถุน พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับข้อหารีดเอาทรัพย์และทำให้เสื่อมเสียต่อเสรีภาพ จากนี้จะไปแจ้งข้อหาส่งอัยการดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปชี้เป็นความผิดมูลฐานฟอกเงินนายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการ ปปง.กล่าวว่า ได้ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนมีการออกหมายจับแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งพฤติการณ์พระชั้นผู้ใหญ่และฆราวาส ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ และความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ในข้อหาฉ้อโกงและการรีดเอาทรัพย์ เป็นความผิดมูลฐานการฟอกเงิน ซึ่งจะนำเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ไม่ว่าจะไปถึงใครหากเป็นเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิดมูลฐานดังกล่าวจะดำเนินการจนถึงที่สุดยกเลิกสมณศักดิ์พระ 81 รูปมีรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศยกเลิกพระบรมราชโองการประกาศสถาปนาสมณศักดิ์ และพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ระบุว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทร รามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณมหิศรภูมิพล ราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทรา ธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้า เจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า ตามที่ทรงพระกรุณาโปรดสถาปนาสมณศักดิ์ พระสงฆ์ 4 รูป และพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ 77 รูป รวมทั้งหมด 81 รูป ตามประกาศพระบรมราชโองการ 2 ฉบับ ลงวันที่ 22 มิถุนายน 2568 ในโอกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม พุทธศักราช 2568 นั้น บัดนี้ ทรงมีพระราชดำริว่า ตามที่ปรากฏ เป็นข่าวทางสื่อมวลชนเกี่ยวกับพระภิกษุ ประพฤติตนไม่เหมาะสมแก่สมณสารูป และพระราชาคณะกระทำผิดพระธรรมวินัย เป็นเหตุให้พุทธศาสนิกชน ได้รับผลกระทบต่อจิตใจเป็นอย่างยิ่ง จึงประกาศยกเลิกพระบรมราชโองการประกาศสถาปนาสมณศักดิ์ และพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ดังกล่าว ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค.2568 ประกาศ ณ วันที่ 15 ก.ค.2568 เป็นปีที่ 10 ในรัชกาลปัจจุบัน“สุชาติ” เร่งดันแก้ ก.ม.พระเช้าวันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาสงฆ์ จะสามารถแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 206 เอาผิดพระสงฆ์ที่มีพฤติกรรมเสพเมถุนได้หรือไม่ว่า ไม่ได้ ควรแก้กฎหมายดีกว่า เพราะเป็นเรื่องสถานที่ ไม่ใช่บุคคล รัฐบาลจะเร่งเจรจากับสภาฯให้พิจารณาเร่งด่วน 3 วาระรวดในคราวเดียวได้หรือไม่ จะเป็นการแก้กฎ หมายเพราะถ้าเป็นการร่างกฎหมายใหม่มีหลายองค์ประกอบ ตอนนี้ต้องเน้นเรื่องพระสงฆ์เป็นเรื่องเร่งด่วน ส่วนที่แก้ไขจะเป็นเรื่องความผิดผู้เสพเมถุนจะเป็นพระสงฆ์ สามเณรหรือสีกา สำหรับพระสงฆ์จะโดนเรื่องนี้ บุคคลธรรมดาถึงจะสมัครใจก็โดน มีทั้งโทษปรับสูงสุด 24,000 บาท และโทษจำคุก 1-7 ปี เมื่อถามว่าจะนำกฎหมายเข้าสภาฯได้เมื่อไหร่ นายสุชาติกล่าวว่า เร่งอยู่เพราะขั้นตอนเยอะ ทั้งนี้ ร่างกฎหมายที่เขาร่างมายังไม่พอใจขอไปแก้ไขนิดหน่อย ยังไม่ทราบว่าจะนำเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันไหน แต่จะเร่งให้เร็วที่สุดขึ้นอยู่ที่กระบวนการทำประชาพิจารณ์ด้วยพระต้องรายงานการใช้เงินด้วยเมื่อถามว่ากฎกระทรวงที่จะบังคับใช้ให้วัดถือเงินสดได้ไม่เกิน 1 แสนบาทจะต้องไปตรวจสอบบัญชีส่วนตัวของพระด้วยหรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่าตรวจสอบด้วย ต้องให้พระรายงานด้วย เพราะที่จริงแล้วพระไม่ควรจะต้องถือเงิน แต่เงิน 1 แสนบาทสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายที่วางไว้ในวัดได้ ห้ามเกินนั้น ถ้าเกินนั้นต้องเข้าบัญชี ก็จะรายงานได้ เมื่อถามว่าจะสั่งการอย่างไรเพราะระเบียบมีแล้ว แต่การตรวจสอบไม่เข้มข้นเลยทำให้เกิดช่องโหว่ นายสุชาติกล่าวว่า ก็อยู่มหาเถรสมาคม (มส.) สั่งการไปที่เจ้าคณะหนและเจ้าคณะหนสั่งการไปที่วัดต่างๆให้กำชับให้ปฏิบัติตาม ถ้าไม่ปฏิบัติตามก็เป็นการฝ่าฝืนคำสั่งสบช่องเอาผิด “สีกากอล์ฟ”ต่อมาเวลา 12.30 น. นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงกรณีศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้อนุมัติออกหมายจับสีกากอล์ฟ ว่า หลังดูข้อประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 338 เห็นช่องทางที่จะเอาผิดได้ มีการข่มขู่เพื่อรีดทรัพย์โดยทำเป็นปกติธุระ จะเข้ามาตรา 3 กฎหมายการฟอกเงิน สามารถเอาผิดเพิ่มได้ เป็นข้อหาหนัก มีการข่มขู่รีดทรัพย์เพราะดูจากที่เป็นข่าวไม่ต้องดูหลักฐานก็ชัด เชื่อว่าตำรวจมีหลักฐานจำนวนมาก จะเป็นกรณีตัวอย่างกรณีแรกที่เป็นตัวบ่อนทำลายศาสนา ไม่ให้มีใครกล้าทำตามจี้พระผิดควรสึกเองไม่ต้องรอจับสึกนายสุชาติได้กล่าวถึงพระผู้ใหญ่ยอมสึกเพิ่มเติม ว่า ยอมสึกด้วยตัวเองดีกว่ารอหมายจับจากศาล ถ้าทำผิดควรจะต้องสึก ไม่ต้องรอให้จับสึก ท่านต้องรู้ตัวเอง เป็นถึงพระชั้นผู้ใหญ่ด้วย ไม่มีข้อยกเว้นแม้ว่าจะไม่มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาว เป็นการโอนเงินอย่างเดียวก็ไม่ได้ เพราะเงินไม่ใช่เงินพระ เป็นทรัพย์ของวัดที่ได้มาจากคนทำบุญ เพื่อให้ทำนุบำรุงศาสนา จะเอาไปให้ใครไม่ได้ ถ้าอ้างว่าเป็นเงินส่วนตัว ขอถามกลับว่าเอาเงินส่วนตัวมาจากไหน ถ้าไม่ใช่เงินชาวบ้าน พระไม่ควรถือครองเงิน ควรจะสมถะมีเท่าที่พอใช้กินอยู่ตามปัจจัยสี่ ระหว่างนั้นเป็นจังหวะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯและ รมว.วัฒนธรรม เดินลงมาจากตึกบัญชาการ ไปยังตึกคู่ฟ้า นายสุชาติได้ยกมือสวัสดี และพูดว่าเรื่องพระทำตามที่ท่านสั่งแล้ว นายกฯหัวเราะและยกมือรับไหว้นายสุชาติพศ.ขึงขังเอาผิดวัดถือเงินสดที่รัฐสภา นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวถึงการเตรียมแก้ระเบียบให้วัดถือเงินสดไม่เกิน 1 แสนบาทว่า พศ. มีกฎกระทรวงตั้งแต่ปี 2564 ให้วัดจัดทำบัญชีรับจ่ายตามแบบฟอร์มที่ พศ.กำหนด และต้องเปิดบัญชีธนาคารเป็นชื่อวัด มีผู้มีอำนาจเบิกจ่าย 2 ใน 3 และให้ถือเงินสดไม่เกิน 1 แสนบาท ถ้าเกินจากนั้นให้ฝากธนาคาร แต่กฎกระทรวงฉบับนี้ไม่มีมาตรการบังคับหากไม่ปฏิบัติแล้วจะทำอย่างไร จึงเกิดมติมหาเถรสมาคมตามที่นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลง มหาเถรสมาคมออกมติแล้ว หากวัดใดไม่ปฏิบัติตามจะมีมาตรการลงโทษ เป็นกฎกระทรวงจัดการทรัพย์สินวัด ถ้าไม่ปฏิบัติตามจะลงโทษเหมือนวินัยข้าราชการฟันผิดสักยันต์–รดน้ำมนต์ด้วยนายอินทพรกล่าวต่อว่า ครั้งนี้เป็นการใช้วิกฤติให้เป็นโอกาส ในวันที่ 16 ก.ค. นายสุชาติ ตันเจริญ จะไปมอบนโยบายให้ พศ.ทั่วประเทศ เป็นการทำงานเชิงรุกมากขึ้นกับวัดที่มีรายได้สุ่มเสี่ยงต่อความ ไม่โปร่งใส ขณะนี้มีพระ 300,000 รูป ไม่อยากแก้ตัวเป็นเรื่องตัวบุคคล แต่กรรมนั้นส่งผลกระทบต่อภาพรวม พระดีๆยังมีอีกเยอะ ต้องช่วยกันตรวจสอบ พศ.ทั่วประเทศจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ส่วนความคืบหน้าการยกร่างกฎหมายห้ามพระเสพเมถุน ได้ส่งให้หลายหน่วยงานแสดงความเห็นบทกำหนดโทษทั้งพระ สีกา ที่เสพเมถุน รวมถึงอีกหลายกรณีที่ทำให้คณะสงฆ์เสียหาย เช่น การอวดอุตริ การสัก การรดน้ำมนต์ อยู่ในบทลงโทษด้วย บางโทษมีผู้แสดงความเห็นว่า สูงเกินไป เมื่อถามว่ายังมีพระอีกหลายรูปหรือไม่ที่อยู่ในกระบวนการสอบสวน นายอินทพรตอบว่า เท่าที่ทราบมี 11 รูป ที่ได้ข้อมูลมา“ภูมิธรรม” สั่งเร่งจัดการผู้เกี่ยวข้องด้านนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย รักษาการนายกฯ เป็นประธานว่า นายภูมิธรรมมีข้อสั่งการกรณีพระชั้นผู้ใหญ่หลายรูปกระทำผิดวินัยสงฆ์ ส่งผลกระทบต่อความศรัทธาของพี่น้องประชาชน มีข้อสั่งการให้นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่กำกับสำนักงานพระพุทธศาสนา (พศ.) ร่วมกับมหาเถรสมาคม (มส.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งติดตามพระสงฆ์และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดทุกฝ่ายในเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย ดำเนินตามวินัยสงฆ์ ตลอดจนให้พิจารณาแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ครอบคลุมถึงความผิดทุกมิติ รวมถึงการบริหารจัดการดูแลเงินของวัดให้โปร่งใสตรวจสอบได้ ให้กระทรวงวัฒนธรรมรณรงค์ร่วมกับ พศ. กระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมไทยพุทธที่ถูกต้อง วิธีการปฏิบัติตนระหว่างฆราวาสและพระสงฆ์ ในการดำเนินชีวิตตามวิถีขนบ ธรรมเนียมประเพณีไทยเพื่อธำรงไว้ซึ่งศีลธรรมอันดี และความสงบเรียบร้อยของประชาชนในสังคมไทยอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่