ในที่สุดสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ก็ทรงประสบความสำเร็จจากความพิริยะอุตสาหะที่ทรงมุ่งมั่นทุ่มเทมานานนับสิบปีให้กับงานค้นคว้าวิจัยตัวยาเพื่อการรักษามะเร็งให้แก่คนไทยโดยทรงพัฒนาเซลล์ต้นแบบ กระบวนการผลิต และการผลิตยารักษามะเร็งแบบมุ่งเป้า (Targeted Therapy) ในกลุ่มชีววัตถุตัวแรกของประเทศไทย...นั่นก็คือ ตัวยาที่มีชื่อเรียกทางเคมีว่า ทราสทูซูแมบ (Trastuzumab) หรือยาในชื่อ อิมครานิบ 100 (IMCRANIB 100 MLg) และตัวยานี้ก็ได้รับการขึ้นทะเบียนตำรับยาจากคณะกรรมการอาหาร และยา (อย.) เป็นที่เรียบร้อยแล้วตำรับยานี้มุ่งจำเพาะเจาะจงต่อการทำลาย หรือยับยั้งเซลล์มะเร็งตามเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ ช่วยลดการทำลายเซลล์ปกติในร่างกายเป็นการลดผลข้างเคียงจากการรักษาแบบดั้งเดิม เช่น เคมีบำบัดนอกจากนี้ยังสามารถปรับแผนการรักษาได้อย่างรวดเร็วตามลักษณะการแพร่กระจายโรคของผู้ป่วยแต่ละรายด้วยมิสไฟน์ เฝ้ารอความสำเร็จของสมเด็จเจ้าฟ้าหญิงพระองค์นี้มานานหลายปี หลังจากที่ได้มีโอกาสรับทราบจากคุณหมออาวุโสหลายท่านซึ่งก็เฝ้าติดตามความสำเร็จของเจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์เหมือนๆกันเพราะตัวยาและเภสัชภัณฑ์ในการรักษาโรคมะเร็งนั้นมีราคาแพงระยิบ และยังต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ความสำเร็จของพระองค์จึงถือเป็นความสำเร็จของสถาบันพระมหากษัตริย์ ประเทศชาติ นักวิทยาศาสตร์ และคณะแพทย์ไทยด้วยนับแต่ที่ได้ทรงสร้างสถาบันมะเร็งจุฬาภรณ์ กระทั่งทรงต่อยอดขึ้นเป็นโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย และสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ด้วยพระปรีชาสามารถ พระวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล และพระปณิธานที่แน่วแน่ในการพัฒนางานด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ และการสาธารณสุขประเทศไทย ที่ทรงตระหนักถึงความยากลำบากของผู้ป่วยมะเร็งซึ่งขาดโอกาสการเข้าถึงตัวยาและเภสัชภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูงจึงได้ทรงจัดตั้งโรงงานผลิตเภสัชภัณฑ์ในพระราชดำริขึ้นอีกทาง ณ พระตำหนักพิมานมาศ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี นับแต่ปี 2563 เพื่อให้เป็นโรงงานต้นแบบผลิตยา และเภสัชภัณฑ์ที่จะเข้ามาเพิ่มขีดความสามารถการวิจัย และการพัฒนาเภสัชภัณฑ์สำหรับผู้ป่วยมะเร็งให้ต่อเนื่องสมบูรณ์ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย กระทั่งทรงพบความสำเร็จ และได้ตำรับยา “อิมครานิบ 100” ตัวแรกขึ้นมาคุณสมบัติของยาตัวนี้จะยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซีนไคเนสอย่างจำเพาะเจาะจง ด้วยความแม่นยำ และช่วยควบคุมการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะในโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรังชนิดซีเอ็มแอล (CML) มะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดฟิลาเดลเฟีย (Philadelphia) บวกมะเร็งเนื้อเยื่อในระบบทางเดินอาหาร (GIST) มะเร็งผิวหนังชนิดหายาก (DFSP)ยาตัวนี้จะนำไปรักษาผู้ป่วยมะเร็งที่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้อันเป็นเดือนพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และของพระองค์เอง เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการนำยาจากต่างประเทศเข้ามาเพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการรักษา และเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นแก่คนไทยทรงพระเจริญยิ่ง.มิสไฟน์คลิกอ่านคอลัมน์ “กระจก 8 หน้า” เพิ่มเติม