ผู้ว่าการ สตง.แจง กมธ.ป.ป.ช. ยิบ โชว์เอกสารยืนยันการออกแบบ แก้แบบถูกต้องทุกขั้นตอน เป็นเรื่องปกติของการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ อัด “สมเกียรติ ชูแสงสุข” อ้างว่า ถูกนำชื่อไปเป็นวิศวกรผู้ควบคุมงาน เอกสารยืนยันมีชื่อตั้งแต่แรก ยึดตามเอกสารที่ได้รับ บอกว่าไม่รับรู้ด้วย ต้องไปดำเนินคดีกัน ส่วนที่ถูกกล่าวว่าครุภัณฑ์ทั้งโต๊ะ เก้าอี้ ฝักบัว ห้องประชุมราคาแพง อยู่ในขั้นตอนการออกแบบ ยังไม่ถึงขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง ดีเอสไอสอบวิศวกร 10 คน ตามรายชื่อในเอกสาร 7 คน ยืนยันไม่ได้เซ็นชื่อและเคยเข้าไซต์งาน เพราะเป็นวิศวกรระบบเร่งตรวจสอบว่ามีชื่อโผล่ได้ยังไง ส่วนอีก 3 คน ยืนยันว่าเข้าทำงานในอาคารเกิดเหตุจริง “เอกนัฏ” สอยยกแก๊งลอบนำเข้าฝุ่นแดง พบเส้นเงินโผล่ “ซิน เคอ หยวน” จ่อดำเนินคดีไม่ไว้หน้า ทั้งข้าราชการและเอกชนที่มีเอี่ยว ด้านการค้นหาร่างผู้สูญหายจุดเกิดเหตุพบร่างและชิ้นส่วนเพิ่มต่อเนื่อง เหลือผู้สูญหายอีก 26 คน แต่มีคนเข้าร้องทุกข์ว่าญาติสูญหายในที่เกิดเหตุเพิ่มเติมด้วย อยู่ระหว่างตรวจสอบยืนยันกรณีการสืบสวนคลี่คลายคดีอาคารกำลังก่อสร้างสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่ม หลังเหตุแผ่นดินไหว ทำให้มีผู้บาดเจ็บ เสียชีวิต และสูญหายจำนวนมาก หลังเกิดเหตุเมื่อวันที่ 28 มี.ค. การรื้อซากหาร่างผู้เสียชีวิตยังไม่เสร็จสิ้น ขณะที่การสืบสวนสาเหตุการถล่มโดย 2 หน่วยงานประกอบด้วย กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เร่งดำเนินการรวบรวมหลักฐานดำเนินการทุกความผิดความคืบหน้าจากกองอำนวยการร่วม ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์สำนักงานเขตจตุจักร เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 30 เม.ย. นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร (สปภ.กทม.) แถลงความคืบหน้าในปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายและการตรวจพิสูจน์ยืนยันตัวตนผู้เสียชีวิตเหตุการณ์ตึก สตง.ถล่มว่า เมื่อวานนี้ (วันที่ 29 เม.ย.) พบร่างผู้ประสบภัยบริเวณโซนดี เป็นร่างที่อยู่ใต้แผ่นปูนที่ซ้อนกันอยู่จำนวน 5 แผ่น เมื่อรื้อแผ่นแรกออกไปจึงพบร่างผู้ประสบภัย เบื้องต้นสามารถรื้อแผ่นคอนกรีตออกไปแล้ว 2 แผ่น นำผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ“นอกจากนี้ยังได้รับรายงานจากพนักงานสอบสวนว่า มีการแจ้งความผู้สูญหายเพิ่มเติม ยอดผู้สูญหายอาจมากกว่าจำนวนที่รับรายงานจากกองอำนวยการร่วม อย่างไรก็ตาม การพบร่างยังไม่พบว่ามีร่างไหนที่เสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ ส่วนใหญ่พบในลักษณะที่มีแผลฉกรรจ์และถูกทับจากเศษวัสดุที่ถล่มลงมา” ผอ.สปภ.กทม.กล่าวเวลา 11.00 น. สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ รายงานผลการปฏิบัติการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล ผู้เสียชีวิตและสูญหาญว่า นับตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค.จนถึงเวลา 17.00 น.วันที่ 29 เม.ย. สถาบันนิติเวชวิทยารับร่างผู้เสียชีวิตและชิ้นส่วนอวัยวะมนุษย์ที่เข้าระบบการตรวจพิสูจน์ เป็นร่างผู้เสียชีวิตสมบูรณ์ 61 ศพ เป็นชิ้นส่วนอวัยวะ 217 ชิ้น ตรวจพิสูจน์ยืนยันข้อมูลผู้เสียชีวิตได้แล้ว 66 ศพ ในจำนวนนี้เป็นร่างสมบูรณ์ 61 ศพ และเป็นชิ้นส่วนอวัยวะที่ตรวจพิสูจน์แล้วตรงกันเป็นผู้เสียชีวิต 5 ศพ ส่วนการเก็บข้อมูลดีเอ็นเอจากญาติผู้สูญหายเพื่อยืนยันอัตลักษณ์บุคคล สามารถจัดเก็บได้แล้ว 99 คน สามารถส่งมอบร่างให้ญาติรับไปบำเพ็ญกุศลแล้ว 43 ศพบริเวณจุดเกิดเหตุอาคาร สตง.ถล่ม พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมคณะลงพื้นที่เก็บหลักฐาน กล่าวว่า เป็นการทำงานต่อเนื่อง เพราะก่อนหน้านี้มาเก็บหลักฐานไปแล้ว วันนี้ทราบว่ามีการเก็บเพิ่มเติมในโซนดีและโซนเอ เพราะใน 4 มิติใหญ่มีมิติที่สำคัญคือ การอธิบายว่าตึกถล่มเพราะอะไร จึงอำนวยความสะดวกให้กรมโยธาฯเก็บพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุด สำหรับหลักฐานที่จะนำไปจำลอง กรมโยธาฯระบุว่า เป็นแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ จะจำลองแบบอาคารเข้าไปในแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ ใส่เงื่อนไขการก่อสร้างเพื่อดูว่าสาเหตุที่แท้จริงของการพังทลายเกิดจากอะไร โดยจะจำลองร่วมกับตัวแทนจากหลายมหาลัยเข้าไปในโปรแกรม“ส่วนกรณีการเปิดตู้เอกสารนัดกันวันที่ 1 พ.ค.จะเชิญผู้แทนจากกรมโยธาฯมาด้วย เพราะเอกสารที่ยึดมามีจำนวนมากมีความเชื่อมโยงกัน อยู่ในกระบวนการก่อสร้าง จะคุยกันก่อนว่า กระบวนการตั้งแต่ต้นจนจบในหน้างานมีขั้นตอนอะไรบ้าง เอกสารส่วนไหนตอบคำถามเรื่องอะไร เหมือนวางกระดูกสันหลังเอกสารทั้งหมดก่อน แล้วเปิดพร้อมกับคนที่ตรวจยึดและอธิบายเอกสารทั้งหมดแต่ละจุด ส่วนเหล็กตัวอย่างที่นำไปตรวจสอบยังไม่ได้รับข้อมูลกลับมา ส่วนการสอบปากคำพยานของดีเอสไอเมื่อวันที่ 29 เม.ย. สอบปากคำแล้ว 7 ปาก วันนี้สอบปากคำไปอีก 10 ปาก และวันที่ 1 พ.ค.จะสอบปากคำเพิ่มอีก 10 ปาก” โฆษกดีเอสไอกล่าวเวลา 16.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ นายศุภภางกูร พิชิตกุล รอง ผอ.กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบปากคำพยานวิศวกรอีก 10 คนว่า วันนี้มาให้การครบทุกคน 7 คนเป็นวิศวกรบริษัท ว.และสหายคอลซัลแตนตส์ จำกัด ให้การปฏิเสธว่าลายเซ็นที่ปรากฏในเอกสารรายงานประจำสัปดาห์ไม่ใช่ลายเซ็นของตน เพราะเป็นเพียงวิศวกรทำงานด้านระบบไม่เคยเข้าไซต์งาน อยู่ในขั้นตอนสอบสวนว่าชื่อและลายเซ็นไปปรากฏในเอกสารได้อย่างไร ขณะที่อีก 3 คนยอมรับว่าเป็นลายเซ็นของตนจริง ไปคุมงานจริงเวลา 18 00 น. ที่โกดังศูนย์การผลิตและซ่อมบำรุงฝ่ายการช่างโยธา การรถไฟแห่งประเทศไทย ศูนย์ปฏิบัติการทีมกู้ภัย USAR โซนดี นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ และนายเอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ นำคณะเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการค้นหาทุกหน่วยงาน ร่วมทำพิธีเลี้ยงอาหารโต๊ะจีนเรียกชื่อเชิญดวงวิญญาณผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์อาคาร สตง.ถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้ที่วายชนม์ขณะทำงานในอาคารก่อสร้างดังกล่าวได้ไปสู่ภพภูมิที่ดี นิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีเปิดพื้นที่ อันเชิญดวงวิญญาณ 94 ดวงมารับประทานอาหารที่จัดเตรียมเป็นเครื่องเซ่นไหว้ อาทิ หูฉลามทรงเครื่อง ปลากะพงนึ่งซีอิ๊ว ผัดหมี่ฮ่องกง ขาหมูตุ๋น ฯลฯ ภายหลังเสร็จพิธีเลี้ยงอาหารโต๊ะจีนแก่เจ้าหน้าที่มูลนิธิต่างๆ และประชาชนบริเวณใกล้เคียงจำนวน 20 โต๊ะที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์สำนักงานเขตจตุจักร สรุปยอดความคืบหน้าภารกิจกู้ภัยคนงานที่ประสบภัย และผู้สูญหายจากอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินหลังใหม่พังถล่ม ณ เวลา 18.00น. ของวันที่ 30 เม.ย.2568 ว่า มีจำนวนผู้ประสบเหตุ 103 คน แยกเป็นผู้เสียชีวิตที่ได้รับการตรวจยืนยันอัตลักษณ์บุคคลเบื้องต้น 68 คน ผู้บาดเจ็บ 9 คน และยังมีผู้สูญหายอยู่ระหว่างค้นหา 26 คนที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นายฐิติพงศ์ โพธิพรหม หรือ “ช่างเบิร์ด” เจ้าของบริษัทบีแอล จำกัด เป็นตัวแทนกลุ่มผู้รับเหมาช่วงที่ถูกเบี้ยวเงินค่าจ้างจากบริษัท 9PK จำกัด หลังถูกว่าจ้างให้เข้าไปทำงานระบบไฟฟ้าทั้งหมดในอาคาร สตง. รวมถึงกลุ่มผู้รับเหมาช่วงรายอื่นๆที่ถูกว่าจ้างให้เข้าไปทำงานระบบต่างๆ ทั้งประปา งานสปริงเกอร์ และงานท่อลม พร้อมด้วยนายอาทิตย์ ว่องวสุสมวงศ์ ทนายความ เข้ายื่นหนังสือและติดตามเอกสารทวงหนี้ หลังบริษัท 9PK จำกัด ทำเอกสารเซ็นยินยอมรับสภาพหนี้จากผู้รับเหมางานระบบต่างๆแล้ว 23 ราย จากเกือบ 30 ราย ที่ผ่านมาเคยเจรจาระหว่างบริษัท 9PK จำกัด และบริษัทไชน่า เรลเวย์ฯแล้วแต่ยังไม่มีข้อยุติ ถึงวันนี้ยังไม่มีการจ่ายเงินคืนให้ผู้รับเหมาช่วง จึงทำหนังสือมายื่นถึง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เพื่อช่วยหาทางออก โดยมีนายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม เป็นตัวแทนรับมอบหนังสือ กล่าวว่า หลังจากนี้จะนำข้อมูลและเอกสารทั้งหมดไปหารือกับ รมว.ยุติธรรม เพื่อหาแนวทางให้ความช่วยเหลือกับกลุ่มผู้รับเหมาทั้งหมดอีกครั้งและจะรีบดำเนินการให้เร็วที่สุดที่กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม เผยว่า น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานทีมสุดซอย พร้อมด้วยกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ตำรวจ บก.ปทส.นำหมายค้นศาลจังหวัดสมุทรสาคร เข้าตรวจค้นบริษัทหัวจง อุตสาหกรรม จำกัด ตั้งอยู่ที่ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เนื่องจากมีความเชื่อมโยงกับการลักลอบนำเข้าฝุ่นแดง (ฝุ่นจากเตาหลอมที่เกิดจากกระบวนการหลอมเหล็กในเตาไฟฟ้า)จากต่างประเทศ ลักษณะเป็นขบวนการในเครือข่ายธุรกิจรีไซเคิลศูนย์เหรียญ เพื่อขยายผลจากบริษัทซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด ที่ขายฝุ่นแดงไปยังบริษัทหัวจง อุตสาหกรรม จำกัด จากการตรวจสอบในระบบคอมพิวเตอร์พบการจ่ายเงินเกินกว่ารายการจริง 111.8 ล้านบาท และพบเอกสารการนำเข้าฝุ่นแดงจากต่างประเทศหลายรายการ เชื่อมโยงกับบริษัทเค เอ็ม ซี 1953 จำกัด จ.ปทุมธานี ผู้ประกอบกิจการนำเข้าส่งออก ถูกดำเนินคดีข้อหาลักลอบนำเข้าฝุ่นแดงก่อนหน้านี้ด้วย“เมื่อเดือน มี.ค.สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีพบหลักฐานเอกสารประกอบการนำเข้าฝุ่นแดงของบริษัทเค เอ็ม ซี 1953 จำกัด ถึงกรมศุลกากร เป็นเอกสารที่ออกจากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดแห่งหนึ่ง ขณะนี้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงรายงานว่า มีข้าราชการบางรายเข้าไปมีส่วนร่วมการกระทำผิดจริง สั่งให้สอบทางวินัยและจะส่งเรื่องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีอาญากับข้าราชการที่กระทำความผิด ส่วนข้อมูลที่สืบค้นได้จากคอมพิวเตอร์ฝ่ายบัญชีบริษัทหัวจงฯพบว่า มีการชำระค่าฝุ่นแดงให้บริษัทซิน เคอ หยวนฯ มีความผิดปกติ เพราะยอดชำระเกินไปจากมูลค่าจริงถึง 111,862,833.30 บาท จึงยึดอายัดเอกสาร คอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิด โทรศัพท์มือถือของบริษัทหัวจงฯไปตรวจสอบและขยายผลเครือข่าย รวมถึงเส้นทางการเงินที่อาจเชื่อมโยงไปยังเครือข่ายธุรกิจรีไซเคิลศูนย์เหรียญ” รมว.อก.กล่าวนายเอกนัฏกล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังพบเอกสารและข้อมูลการนำเข้าฝุ่นแดงจากต่างประเทศหลายรายการ เชื่อมโยงกับบริษัทเค เอ็ม ซีฯ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ที่ก่อนหน้านี้แจ้งความเอาผิด ทีมสุดซอยเข้าตรวจค้นหลังพบการกระทำผิดปลอม แปลงเอกสารราชการลักลอบนำเข้าฝุ่นแดงเข้ามาในประเทศ 10,262 ตัน เมื่อเดือน ส.ค.67 ถึงช่วงต้นปีนี้ เจ้าหน้าที่อายัดฝุ่นแดง 7,000 ตันและอายัดวัตถุอันตรายต้องสงสัยอีก 200 ตัน ส่งกองวิจัยและเตือนภัยมลพิษโรงงาน กรอ.ตรวจสอบ เป็นข้อมูลดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาครเข้าแจ้งความดำเนินคดีบริษัทหัวจงฯ มีนายยี่หัน หวัง เป็นกรรมการบริษัท ฐานครอบครองวัตถุอันตราย และตรวจสอบความผิดฐานลักลอบนำเข้าฝุ่นแดงซึ่งถือเป็นวัตถุอันตรายเพิ่มเติมด้วยที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร หรือ กมธ.ป.ป.ช. มีนายฉลาด ขามช่วงสส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ฐานะประธาน กมธ.เป็นประธานการประชุม เรียกนายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมมาชี้แจงกรณีเหตุตึก สตง.ถล่มระหว่างเกิดเหตุแผ่นดินไหว เพื่อสอบถามข้อมูลการบริหารสัญญาการก่อสร้างตึก คุณภาพวัสดุอุปกรณ์ ปูนซีเมนต์ที่ใช้ก่อสร้าง คุณภาพเหล็ก นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดีตผู้ว่าการ สตง.ฐานะที่ปรึกษา กมธ.ป.ป.ช.ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมว่า เป็นผู้ว่าการ สตง.ช่วงปี 2557-2560 มีส่วนเลือกและกำหนดให้ใช้ที่ดินแปลงนี้ก่อสร้างอาคาร สตง.แห่งใหม่ แต่ไม่เกี่ยวข้องเรื่องการออกแบบ เพราะพ้นตำแหน่งหลังเลือกพื้นที่ก่อสร้างเสร็จ การออกแบบเกิดขึ้นปี 61-62 ทำสัญญาปี 63-64 ขณะที่นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการ สตง.ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ใดๆหลังประชุม กมธ.ป.ป.ช. นายธีรัจชัย พันธุมาศ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ฐานะโฆษก กมธ.ป.ป.ช. แถลงว่า ผู้ว่าการ สตง.เข้าชี้แจงครั้งแรก ได้รับคำตอบชัดเจน กมธ.พุ่งเป้า 3 ประเด็นคือ การออกแบบ การจัดซื้อจัดจ้าง และการควบคุมงาน นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการ สตง. กล่าวว่า ประเด็นขณะนี้คือการออกแบบถูกระบุว่า ไม่มีการเซ็นรับรอง จึงนำเอกสารมาให้ กมธ.ดูว่า สตง.ถามไปยังบริษัทผู้ออกแบบแล้ว ยืนยันว่าคนเซ็นรับรองยังทำงานอยู่พร้อมให้ตรวจสอบ ทั้งนี้เป็นปกติของตึกขนาดใหญ่ที่ต้องแก้ไขแบบ ถ้าเห็นว่าต้องปรับแบบจะส่งไปให้คนออกแบบพิจารณาว่าแบบที่ออกขัดกฎหมาย ขัดหลักวิศวกร หรือขัดต่อการทำงานหรือไม่ เมื่อบริษัทออกแบบเซ็นรับรองแก้ไข ผู้คุมงานต้องเซ็นรับรองด้วยผู้ก่อสร้างถึงเอาไปก่อสร้างตามแบบที่แก้ เป็นไปตามสัญญาและข้อกฎหมาย“ส่วนกรณีนายสมเกียรติ ชูแสงสุข อ้างว่าถูกนำชื่อไปเป็นวิศวกรผู้ควบคุมงานนั้น ยืนยันว่าชื่อนายสมเกียรติเป็นวิศวกรผู้ควบคุมงานไม่เคยเปลี่ยน มีชื่อรับรองแต่แรก ไม่มีเอกสารการเปลี่ยนแปลงต้องยึดตามเอกสารนี้ การที่นายสมเกียรติบอกว่าไม่รับรู้ด้วยต้องไปดำเนินคดีกัน ยืนยันว่าผลการตรวจสอบเป็นอย่างไร สตง.รับได้หมด ใครผิดว่าไปตามกฎหมาย เรื่องฮั้วหรือนอมินีเอาเอกสารให้ดีเอสไอแล้ว ถ้าพบว่าเป็นความผิดของใคร ไม่ว่าข้าราชการ สตง.หรือเอกชนจะดำเนินคดีถึงที่สุด ไม่มีเว้น” ผู้ว่าการ สตง.กล่าวส่วนเสียงวิจารณ์ สตง.ใช้เฟอร์นิเจอร์ราคาสูง นายมณเฑียรกล่าวว่า กรณีครุภัณฑ์ที่อยู่ระหว่างออกแบบ แต่จะเป็นครุภัณฑ์จริงๆได้ต้องก่อสร้างเสร็จและนำมาใช้ หลังก่อสร้างเสร็จต้องดูว่าเหมาะสมตามแบบราชการหรือไม่ ส่วนเรื่องฝักบัวราคากว่าหมื่นบาท เก้าอี้ห้องประชุมตัวละ 90,000 บาท สตง.มีเจ้าหน้าที่ 2,400 คน เก้าอี้ตัวละ 1-2 หมื่นบาท การสร้างบริษัทปกติจะกำหนดว่า ชั้นสูงเป็นพื้นที่ผู้บริหาร ครุภัณฑ์จะออกแบบตามฐานะ เก้าอี้แพงมีเพียงชุดเดียวคือ เก้าอี้ประธานและเก้าอี้กรรมการในห้องประชุม หลายคนเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ สตง.ทุกคนต้องนั่งเก้าอี้ตัวละ 90,000 บาท ความจริงไม่ใช่ ไปดูรายละเอียดที่กรมบัญชีกลางได้ เจ้าหน้าที่เกิน 80 เปอร์เซ็นต์นั่งเก้าอี้ปกติ“ส่วนฝักบัวปัจจุบันทุกบริษัทต้องมีห้องน้ำ ไปดูแบบฝักบัวมี 2 แบบ เมื่อทำจริงเอาทั้ง 2 แบบมารวมกันฝักบัวจึงแพง ผู้ออกแบบเสนอราคาครุภัณฑ์มา ส่วน สตง.มีหน้าที่ดูว่าเหมาะสมหรือไม่ ขอย้ำว่าเป็นขั้นตอนการออกแบบ ไม่ใช่ขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง ถามว่า มีห้องฉายภาพยนตร์ในอาคาร สตง.ด้วย นายมณเฑียรตอบว่า ขอย้ำว่าเป็นห้องประชุม หลังห้องประชุมจะเขียนว่าเป็นห้องแบบใด เช่น ห้อง class room ห้อง theater ไม่มีห้องฉายภาพยนตร์” ผู้ว่าการ สตง.กล่าวอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่