“ป้าสมศรี” เมียลุงขับรถกระบะ ที่ถูก “พีช” ลูกชายนายกเบี้ยวขับเก๋งบีเอ็มฯชนผวาภัยร้องกระทรวงยุติธรรมคุ้มครองพยาน-ขอรับเยียวยาในคดีอาญา เผยภาพรถชนแบริเออร์และถูกชี้หน้าด่ายังติดตาตลอด ขณะที่ลุงอาการทรงตัว ยังต้อง นอนห้องไอซียู ด้านหนุ่มคู่กรณีหอบเงิน 1 แสน บุกโรงพยาบาลไปฝากไว้ให้ผู้เสียหาย แต่ยังฝากไม่ได้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยันครอบครัวลุงป้ายังไม่มีใครได้รับเงิน ชี้หากจะช่วยทำได้เลยเพราะเป็นหน้าที่อยู่แล้วกลายเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ กรณีนายสมิทธิพัฒน์ หรือพีช หลีนวรัตน์ อายุ 28 ปี ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลตำบลธัญบุรี อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ลูกชายของนายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือ “นายกเบี้ยว” อดีตนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี ขับรถเก๋งบีเอ็มดับเบิลยู สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ท 6523 กรุงเทพมหานคร ชนรถกระบะของนายประจักษ์ ดวงใย อายุ 65 ปี และนางสมศรี ดวงใย อายุ 64 ปี สองสามีภรรยาได้รับบาดเจ็บบนถนนกาญจนาภิเษก หมายเลข 9มุ่งหน้าบางปะอิน กม.22 หลังเกิดเหตุตำรวจ สภ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ดำเนินคดีนายพีช 4 ข้อหา ขณะที่ฝ่ายผู้เสียหายกลัวจะไม่ได้รับความธรรม อีกทั้งยังโยงไปถึงเรื่องการเมือง ร้องให้นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” ช่วยเหลือ ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 22 เม.ย. ที่กระทรวงยุติธรรม นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” พานางสมศรีนั่งวีลแชร์เข้าร้อง เรื่องคุ้มครองพยาน และยื่นเรื่องรับเงินเยียวยาตามกฎหมาย มี น.ส.เอมอร เสียงใหญ่ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เป็นผู้รับเรื่อง น.ส.เอมอรเปิดเผยว่า วันนี้ผู้เสียหายมายื่นร้อง 2 เรื่อง เรื่องแรกขอรับค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญาของลุงผู้ขับขี่กับป้าที่เป็นผู้โดยสาร ป้าเป็นผู้เสียหายชัดเจนตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหาย ค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายต่อจำเลยในคดีอาญา ป้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ส่วนลุงเป็นผู้ขับขี่ ในรายละเอียดต้องรอพนักงานสอบสวนว่าจะแจ้งข้อกล่าวหาหรือไม่อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวอีกว่า ขณะนี้กระทรวงยุติธรรมรับคำขอไว้ก่อน เนื่องจากเหตุเกิดใน จ.ปทุมธานี จะต้องส่งให้คณะอนุกรรมการที่ จ.ปทุมธานี เป็นผู้พิจารณา กรอบการพิจารณาเงินเยียวยาจะไม่เกิน 21 วัน อีกทั้งต้องรอหลักฐานทางการแพทย์ด้วย นอกจากนี้ครอบครัวผู้เสียหายรู้สึกว่าไม่ได้รับความปลอดภัย จึงขอการคุ้มครองพยาน ในส่วนของกรมคุ้มครองสิทธิฯมี พ.ร.บ.คุ้มครองพยาน โดยให้เจ้าหน้าที่ไปประเมินความเสี่ยง และดูแลความปลอดภัยในเบื้องต้นด้านกัน จอมพลัง กล่าวว่า ป้ายังคงหวาดกลัวฝ่ายผู้ก่อเหตุ ตอนนี้ทำได้เพียงช่วยประสานกระทรวงยุติธรรมช่วยเหลือเรื่องการเยียวยา เพราะการรักษายังต้องทำต่อไปเรื่อยๆ ยิ่งตอนนี้มีคนมาปล่อยข่าวว่าจะลอบสังหารตน ลุงก็เกิดความหวาดกลัวว่าจะโดนสังหารไปด้วย ทำให้ปฏิเสธการรักษาอาการน้ำในปอดต้องใช้เข็มเจาะ ขอให้กระทรวงยุติธรรมส่งคนไปคุ้มครองพยาน เพื่อให้ลุงเกิดความมั่นใจรักษาต่อ เขาอยู่อย่างตาสีตาสา เป็นชาวบ้านที่มีปัญหากับครอบครัวนักการเมือง วันนี้เข้าสู่วันที่ 7 แล้วแต่อีกฝ่ายยังไม่เยียวยาแล้วการเยียวยาก็ไม่มีเงื่อนไขอะไรเลย แค่รับผิดชอบเป็นผู้รับไข้ รับดูแลคนไข้ ไม่ใช่เอาเงิน 2 แสนไปฝากเจ้าหน้าที่ สมมติเงินหายไปใครรับผิดชอบ“ท่านเป็นนักการเมือง 7 วันยังหาวิธีการจ่ายตังค์ไม่ได้เลย มาบอกว่าผมกีดกัน ไปกีดกันตรงไหน ผมเป็นคนกลาง สอบถามเลขาฯว่ามีใครติดต่อมาหรือยังก็ยังไม่มี หากเขาไม่อยากคุยกับผมก็คุยกับเลขาฯผมได้ ครอบครัวเขากลัวจะมีการเก็บหลักฐานในการพูดคุย เรื่องฝากตังค์ยังงงมาฝากเงินสดทำไมจะโอนตังค์ก็โอนไป รพ.โน้น ไม่ต้องโอนเข้ามูลนิธิผม” นายกัณฐัศว์กล่าวและว่า ขณะนี้มีผู้ปรารถนาดีพร้อมจะช่วยค่ารักษาพยาบาลของลุงป้าจำนวนมากขณะที่นางสมศรีกล่าวว่า ภาพรถที่ชนแบริเออร์ ยังติดตาตลอด ป้ายกมือไหว้ บอกว่าป้าขอโทษ ป้าขอโทษ เพราะไม่รู้ว่าทำผิดอะไร ป้าขอโทษ ป้าขอโทษ ป้ากลัว แต่อีกฝ่ายก็ยังชี้หน้าด่า บอกว่าไปปาดหน้ารถเขา รถเสียหาย รถแพง มีปัญญาใช้ให้เขาไหม สักพักไม่กี่นาทีก็มาสะบัดตูดใส่หน้ารถจนลุงบาดเจ็บ ลุงนิ่งจุก หลังจากนั้นก็ยังถอยมาชี้หน้าด่า บอกว่าถ้าลุงจอด ก็จะไม่เกิดเหตุแบบนี้ ไม่ได้คิดช่วยแต่อย่างใด มีแต่ผู้หวังดีเข้ามาช่วย ตรงนี้ต้องขอบคุณพลเมืองดีหลายๆคนด้วย ส่วนเรื่องจดหมายเห็นแล้ว แต่ไม่ได้อ่านอะไรทั้งนั้น เพราะยังทำใจไม่ได้ ตอนที่เขาบุกโรงพยาบาลก็ยังตกใจไม่ได้อนุญาตให้พบ โรงพยาบาลเขากันแล้ว เขาจู่โจมถึงหน้าประตู เรื่องเปิดโอกาสพูดคุย ป้าไม่รู้จะพูดคุยอะไรกับเขา ขอให้เป็นหน้าที่ลูกสาวและกัน จอมพลัง ขอให้เขาจ่ายค่ารักษาพยาบาล ซ่อมรถให้ก็พอแล้ว ส่วนอาการของลุงตอนนี้หวาดผวา ไม่ยอมให้พยาบาลฉีดยา ระแวงกลัวถูกฆ่ามีรายงานว่าช่วงเวลา 10.45 น. นายสมิทธิพัฒน์ หรือพีช หนุ่มคู่กรณีที่ขับรถเก๋งบีเอ็มดับเบิลยูชนรถกระบะของนายประจักษ์ พร้อมทนายความเดินทางไปที่ รพ.บางปะกอก-รังสิต 2 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี ที่นายประจักษ์รักษาตัวอยู่พร้อมฝากเงินสด 1 แสนบาทไว้ให้กับนายประจักษ์ ผู้เสียหายไว้ใช้ส่วนตัว หลังจากก่อนหน้านี้พยายามนำเงินสด 2 แสนบาทไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลมาแล้ว ญาติจ่ายไปก่อนแล้ว ทั้งนี้นายพีชขอเยี่ยมผู้ป่วยและนำเงินมาจ่ายค่ารักษา แต่ยังไม่สามารถฝากได้ เนื่องจากนางสมศรีเดินทางไปกระทรวงยุติธรรมพร้อมกัน จอมพลัง จากนั้นได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลและเดินทางกลับ ขณะที่โรงพยาบาลก็ไม่ได้ชี้แจงรายละเอียดใดๆช่วงบ่ายวันเดียวกัน นายกัณฐัศว์ หรือกัน จอมพลัง เดินทางไปเยี่ยมนายประจักษ์ ที่ รพ.บางปะกอก-รังสิต 2 จากนั้นเปิดเผยว่า วันนี้อาการลุงคงทรงตัวอยู่ ดีขึ้นแต่ไม่ได้ดีจนหาย ในส่วนของน้ำที่อยู่ในปอดก็ดีขึ้น แต่ยังคงต้องนอนอยู่ห้องไอซียู ส่วนป้าก็ยังรักษาอยู่ เพราะยังเจ็บหน้าอก ยังโชคดี ถ้าไม่คาดเบลต์อาจทะลุออกกระจกไปเลย และก่อนหน้านี้มีข่าวว่านายพีชนำเงินมาให้ 1 แสนบาท ตนสอบถามทางครอบครัวก็ยังไม่มีใครได้รับ ถ้าถามหน้าที่จ่ายการรักษาเป็นหน้าที่เขาเลย จะมาจ่ายจะมาช่วยค่ารักษาสามารถจัดการได้เลย ไม่มีเงื่อนไขอะไร เพราะเป็นหน้าที่เขา แต่ตอนนี้ไม่เป็นไร จ่ายไม่จ่ายไม่ซีเรียส เพราะมีคนช่วยจ่ายเยอะอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่