ที่โรงเรียนโพธิสารพิทยาการ กรุงเทพ มหานคร พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธานความร่วมมือในโรงเรียนร่วมพัฒนา หรือ Partnership School Project ระหว่างบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กับสถานศึกษาในกรุงเทพมหานคร 71 แห่ง โดย พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวว่า ความร่วมมือดังกล่าวถือเป็นอีกก้าวสำคัญของความร่วมมือในรูปแบบการมีส่วนร่วม เพื่อการพัฒนาการศึกษาไทย เพราะการพัฒนาระบบการศึกษาที่มีคุณภาพต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้ตนพูดมาตลอดว่าเหมือนการจดทะเบียนสมรส และเป็นความรักที่เกิดขึ้นกับบริษัทซีพี ออลล์ โดยบางคนอาจคิดว่า ความร่วมมือเหมือนเป็นการคลุมถุงชน แต่ตนไม่อยากให้คิดเช่นนั้น อยากให้ทุกคนเปิดมิติใหม่ทำใจให้กว้างว่าความร่วมมือนี้ช่วยพัฒนา เนื่องจากการขับเคลื่อนการศึกษาของตนจะต้องมีการทำความร่วมมือกับภาคเอกชนมากขึ้น“ความร่วมมือโรงเรียนร่วมพัฒนาในเขตกรุงเทพฯนั้น แม้จะเป็นโรงเรียนในเมืองใหญ่ แต่ก็ยังพบความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา มีทั้งผู้เรียนที่มีความพร้อมและความเป็นเลิศทางวิชาการ ขณะเดียวกันก็ยังมีกลุ่มเด็กที่เข้าไม่ถึงโอกาสทางการศึกษาที่เท่าเทียม ดังนั้น ความร่วมมือเหล่านี้จะเข้าไปช่วยเติมเต็มสิ่งที่ขาดแคลนได้ ทั้งนี้ ผมอยากให้ผู้อำนวยการโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการนี้ทั้ง 71 แห่งได้มีโอกาสเข้าไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้ศึกษารูปแบบการจัดการศึกษาของสถาบันการศึกษาปัญญาภิวัฒน์ด้วย เพื่อเพิ่มโอกาสมิติบริหารจัดการศึกษาที่มากขึ้น” รมว.ศธ.กล่าวด้านนายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล รองประธานกรรมการบริหารบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการโรงเรียนร่วมพัฒนาจะสร้างอาชีพสร้างงาน และทำให้เราอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข ซึ่งโครงการดังกล่าวสามารถทำงานไปเรียนไปมีรายได้จบแล้วมีงานทำ และเราพร้อมปรับปรุงพัฒนาหลักสูตรให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลก เพื่อสร้างเยาวชนได้รับการบรรจุทำงาน 100% และหากต้องการศึกษาต่อบริษัทซีพี ออลล์ ก็จะจัดการศึกษาให้อย่างต่อเนื่อง.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่