อดีตลูกเขยปืนโหดยิงพ่อตาแม่ยายดับ ส่วนเมียและลูกเลี้ยงวัย 5 ขวบเจ็บ หลังมาตามง้อเมียขอคืนดี แต่ครอบครัวเมียบอกให้เลิกเพราะรู้ภายหลังฝ่ายชายมีครอบครัวอยู่แล้วไม่ให้เข้าบ้าน ต้องปีนรั้วเข้ามาหาเกิดทะเลาะกันโมโหชักปืนยิงยกครัวแล้วเผ่นหนี ต่อมาถูกจับกุมสารภาพ นำสร้อยคอทองคำมาง้อเมียแต่ถูกขัดขวางชีวิตรักเหตุอดีตลูกเขยปืนโหดยิงพ่อตาแม่ยายดับ ส่วนเมียและลูกเจ็บรายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 04.10 น. วันที่ 11 มี.ค. พ.ต.ต.บุญเชิด เชิดบารมี สว. (สอบสวน) สภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทมีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 60/137 หมู่ 13 หมู่บ้านบัวคลี่ 11 ต.อุทัย ไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต.นฤนาท พุทไธสง ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.มนัส อัดโดดดร ผกก.สภ.อุทัย ตำรวจชุดสืบสวน สภ.อุทัย เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์โรงพยาบาลอุทัย และอาสามูลนิธิพุทไธศวรรย์ที่เกิดเหตุพบเป็นทาวน์โฮมชั้นเดียว ภายในที่ประตูทางเข้าพบศพ น.ส.สิริพร ตุดา อายุ 38 ปี ถูกยิงที่แขนขวา 1 นัด ล้มหัวฟาดพื้นเลือดไหลนอง ที่ห้องนอนพบศพนายณัฐวุฒิ นิ่มมาก อายุ 43 ปี ถูกยิงที่ใบหน้าและปากรวม 2 นัด ทั้งคู่เป็นผัวเมียกัน ภายในบ้านไม่พบปลอกกระสุนปืน นอกจากนี้ มีผู้บาดเจ็บอีก 2 คนญาตินำส่ง รพ.อุทัย ทราบชื่อ น.ส.เกษแก้ว จิตรดี อายุ 23 ปี ลูกสาว น.ส.สิริพร ถูกยิงเข้าที่ใบหูซ้าย 1 นัด และไหล่ซ้าย 1 นัด และ ด.ช.พีช อายุ 5 ขวบ ถูกยิงที่นิ้วชี้ขวา ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อนายทรงพล คงคาไหว อายุ 47 ปี ชาว ต.สามเรือน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นอดีตสามี น.ส.เกษแก้ว หลังก่อเหตุขับรถเก๋งหลบหนีไปสอบสวน น.ส.มีนา เข็มแก้ว อายุ 43 ปี พี่สาว น.ส.สิริพร ผู้ตายทราบว่า ครอบครัวน้องสาวมีอาชีพค้าขายผลไม้จะไปรับของที่ สปป.ลาว นำมาส่งขายที่ตลาดไทและตลาดสี่มุมเมือง 2-3 วันจะกลับมาพักที่บ้านเกิดเหตุ ส่วนนายทรงพล ผู้ก่อเหตุและ น.ส.เกษแก้วเป็นแม่ม่ายลูกติด 1 คน คบหากันได้ 1 ปี เพิ่งแต่งงานเมื่อเดือน ม.ค. ภายหลังทั้งคู่มีเรื่องทะเลาะ กันบ่อย นายทรงพลมักจะไปทำร้ายร่างกาย น.ส.เกษแก้ว ทนไม่ไหวขอเลิกกลับมาอยู่บ้าน ช่วงเกิดเหตุนายทรงพลเข้ามาที่บ้าน นายณัฐวุฒิเป็นพ่อเลี้ยงและ น.ส.สิริพรปิดประตูรั้วหน้าบ้านกีดกันไม่ให้เข้ามาพบเมีย นายทรงพลปีนรั้วเข้ามาเกิดมีปากเสียงกัน โมโหชักปืนกระหน่ำยิงนายณัฐวุฒิและ น.ส.สิริพรจนล้มฟุบ จากนั้นยิง น.ส.เกษแก้ว กระสุนลูกหลงไปโดน ด.ช.พีชได้รับบาดเจ็บแล้วหลบหนีพล.ต.ต.นฤนาท พุทไธสง ผบก.ภ.จ.พระนคร ศรีอยุธยา กล่าวว่า หลังเกิดเหตุทราบว่านายทรงพลเป็นพนักงานขับรถขนส่งสินค้าขับรถเก๋งไปจอดที่บริษัทในพื้นที่ใกล้กัน แล้วขับรถบรรทุกสิบล้อตู้ทึบรหัสข้างรถ 22 หลบหนีใช้เส้นทางถนนสายเอเชีย มุ่งหน้าขึ้น จ.นครสวรรค์ แจ้งประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่และตำรวจทางหลวงสกัดจับกุมต่อมา พ.ต.ต.อนวัช ตันตินันทกุล สว.ส.ทล.6 กก.1 ทางหลวงสิงห์บุรี สั่งการให้รถวิทยุตรวจเขต 1606 พร้อมกำลังพล 2 นายชื่อ ร.ต.ต.ศุภโชติ พันธุศร ส.ต.อ.กิตติพงษ์ ทองอินทร์ รถสายตรวจเขตหน่วย บริการ จ.ชัยนาท ร่วมกับสายตรวจ สภ.เมืองชัยนาท ตรวจสอบพบรถบรรทุกเป้าหมายที่ถนนสายเอเชีย ต.เสือโฮก อ.เมืองชัยนาท นำกำลังเข้าจับกุมนายทรงพล คุมตัวกลับมาสอบสวนที่ สภ.อุทัยนายทรงพลสารภาพว่า ตนมีครอบครัวอยู่แล้ว แต่แอบมาคบหากับ น.ส.เกษแก้ว ภายหลังครอบครัวฝ่ายหญิงให้เลิกกลับมาอยู่บ้าน ตนมาตามง้อขอคืนดีและนำสร้อยคอทองคำมาให้เมีย กลับถูกพ่อตาแม่ยายกีดกันจนมีเรื่องทะเลาะกัน โมโหชักปืนยิงยกครัวแล้วกลับมาที่บริษัทขับรถไปส่งของทางภาคเหนือ กระทั่งมาถูกจับกุมอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่